“เอสเอ็มอีแบงก์” เผยแผนปีฉลู ปล่อยสินเชื่อเข้มข้นยิ่งขึ้น ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำผ่านธนาคารพาณิชย์ที่เป็นพันธมิตร พร้อมให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประกอบการที่ไม่เลิกจ้างพนักงาน ขณะเดียวกัน เตรียมฝึกอบรมความรู้รองรับผู้ถูกเลิกจ้าง
นายพงษ์ศักดิ์ ชาเจียมเจน รองกรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวว่า ปีนี้ (2552) ธนาคารมีนโยบายที่จะปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถทำธุรกิจต่อไปได้ จากที่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาธนาคารได้จัดโครงการเอสเอ็มอีพาวเวอร์ให้แก่สนับสนุนสินเชื่อกับเอสเอ็มอีมาแล้ว
นายพงษ์ศักดิ์ ระบุว่า สำหรับการรูปแบบสนับสนุนสินเชื่อกับเอสเอ็มอีที่เข้มข้นมากขึ้นในปีนี้ ธนาคารจะขยายการบริการ ทั้งนี้ จากการที่ธนาคารมีจำนวนสาขาค่อนข้างจำกัดเพียง 99 สาขา จึงเตรียมปล่อยสินเชื่อโดยผ่านสาขาของธนาคารพาณิชย์พันธมิตร และในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง เพื่อให้เอสเอ็มอีไทยสามารถที่จะได้ทำธุรกิจต่อไปได้
พร้อมกันนี้จะประสานงานไปยังกระทรวงแรงงานในการร่วมมือกันในหลายโครงการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ไม่เลิกจ้าง หากขอสินเชื่อจะเอสเอ็มอีแบงก์จะปล่อยสินเชื่อให้โดยคิดดอกเบี้ยอัตราดอกต่ำเป็นพิเศษ ส่วนพนักงานที่ถูกเลิกจ้างจะจัดอบรมเพื่อให้เป็นผู้ประกอบการพร้อมพิจารณาปล่อยสินเชื่อให้ไปประกอบอาชีพเลี้ยงชีพได้
สำหรับสถานทางการเงินของเอสเอ็มอีแบงก์นั้น มีสภาพคล่องเพียงพอที่จะปล่อยสินเชื่อตามนโยบายของรัฐบาลได้ อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ธนาคารจะขอเพิ่มทุนอีก 2,000 ล้านบาทเพื่อใช้ในการปล่อยสินเชื่อ ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จะแยกส่วนออกไปดูแลในลักษณะแบดแบงก์
นายพงษ์ศักดิ์ ชาเจียมเจน รองกรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวว่า ปีนี้ (2552) ธนาคารมีนโยบายที่จะปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถทำธุรกิจต่อไปได้ จากที่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาธนาคารได้จัดโครงการเอสเอ็มอีพาวเวอร์ให้แก่สนับสนุนสินเชื่อกับเอสเอ็มอีมาแล้ว
นายพงษ์ศักดิ์ ระบุว่า สำหรับการรูปแบบสนับสนุนสินเชื่อกับเอสเอ็มอีที่เข้มข้นมากขึ้นในปีนี้ ธนาคารจะขยายการบริการ ทั้งนี้ จากการที่ธนาคารมีจำนวนสาขาค่อนข้างจำกัดเพียง 99 สาขา จึงเตรียมปล่อยสินเชื่อโดยผ่านสาขาของธนาคารพาณิชย์พันธมิตร และในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง เพื่อให้เอสเอ็มอีไทยสามารถที่จะได้ทำธุรกิจต่อไปได้
พร้อมกันนี้จะประสานงานไปยังกระทรวงแรงงานในการร่วมมือกันในหลายโครงการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ไม่เลิกจ้าง หากขอสินเชื่อจะเอสเอ็มอีแบงก์จะปล่อยสินเชื่อให้โดยคิดดอกเบี้ยอัตราดอกต่ำเป็นพิเศษ ส่วนพนักงานที่ถูกเลิกจ้างจะจัดอบรมเพื่อให้เป็นผู้ประกอบการพร้อมพิจารณาปล่อยสินเชื่อให้ไปประกอบอาชีพเลี้ยงชีพได้
สำหรับสถานทางการเงินของเอสเอ็มอีแบงก์นั้น มีสภาพคล่องเพียงพอที่จะปล่อยสินเชื่อตามนโยบายของรัฐบาลได้ อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ธนาคารจะขอเพิ่มทุนอีก 2,000 ล้านบาทเพื่อใช้ในการปล่อยสินเชื่อ ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จะแยกส่วนออกไปดูแลในลักษณะแบดแบงก์
