สสว. ควงแขนหน่วยร่วมตั้งศูนย์บริการนวัตกรรมเอสเอ็มอี ผลักดันผู้ประกอบการไทยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ พร้อมเปิดตัวเว็บไซต์ฐานข้อมูลนวัตกรรมครบวงจรเพื่อชาวเอสเอ็มอี
นายภักดิ์ ทองส้ม รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวภายหลังการเปิดโครงการ “บูรณาการนวัตกรรม SMEs ไทย” ว่า จากแนวโน้มวิกฤตเศรษฐกิจ ปีหน้า (2552) คาดว่าตลาดของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยจะหดตัวลง ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้เอสเอ็มอีรอดจากปัญหาไปได้ จำเป็นต้องหันมาให้ความสำคัญต่อการพัฒนาตัวเอง โดยนำเทคโนโลยี นวัตกรรม หรือผลงานวิจัยจากสถาบันการศึกษาต่างๆ มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และขยายตลาด เป็นต้น
ทั้งนี้ เพื่อจะช่วยให้ผู้ประกอบการได้เข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมได้ง่ายยิ่งขึ้น สสว.ได้ร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสมาคมส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (สสวท.) จัดตั้งศูนย์บริการนวัตกรรมสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกระทรวงต่างประเทศ ประจำปี 2551 มูลค่า 8 ล้านบาทในการดำเนินการ
สำหรับศูนย์ฯ ดังกล่าวจะเชื่อมโยงความช่วยเหลือและส่งเสริมการนำนวัตกรรมไปใช้ในเชิงพาณิชย์ไว้ที่จุดเดียวอย่างครบวงจร โดยมีหน่วยงานพันธมิตรดำเนินโครงการย่อยต่างๆ เช่น การผลักดันให้เอสเอ็มอีเข้าถึงนวัตกรรม การสืบค้นนวัตกรรม ส่งเสริมนวัตกรรมไปใช้เชิงพาณิชย์ ปรับปรุงเครื่องจักร การพัฒนาศักยภาพ และรับรองมาตรฐาน เป็นต้น โดย สสว. ทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ รวมถึง ระหว่างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกับหน่วยงานที่ให้บริการ โดย สสว. จะพยายามช่วยให้ผู้ประกอบการที่จะมาใช้บริการในศูนย์ฯ เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด เพื่อลดอุปสรรคในการเข้าถึงนวัตกรรม
นอกจากนั้น สสว. ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) พัฒนาเว็บไซต์ www.innovationsme.com สำหรับเป็นศูนย์รวบรวมฐานข้อมูลด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมทั้งจากในและต่างประเทศ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้เข้ามาหาข้อมูล หรือเสาะหานวัตกรรมที่เหมาะสมกับตัวเองไปใช้ประโยชน์ รวมถึงเป็นช่องทางขยายโอกาสทางธุรกิจ นำนวัตกรรมไปใช้เชิงพาณิชย์มากยิ่งขึ้น
นายภักดิ์ ทองส้ม รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวภายหลังการเปิดโครงการ “บูรณาการนวัตกรรม SMEs ไทย” ว่า จากแนวโน้มวิกฤตเศรษฐกิจ ปีหน้า (2552) คาดว่าตลาดของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยจะหดตัวลง ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้เอสเอ็มอีรอดจากปัญหาไปได้ จำเป็นต้องหันมาให้ความสำคัญต่อการพัฒนาตัวเอง โดยนำเทคโนโลยี นวัตกรรม หรือผลงานวิจัยจากสถาบันการศึกษาต่างๆ มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และขยายตลาด เป็นต้น
ทั้งนี้ เพื่อจะช่วยให้ผู้ประกอบการได้เข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมได้ง่ายยิ่งขึ้น สสว.ได้ร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสมาคมส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (สสวท.) จัดตั้งศูนย์บริการนวัตกรรมสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกระทรวงต่างประเทศ ประจำปี 2551 มูลค่า 8 ล้านบาทในการดำเนินการ
สำหรับศูนย์ฯ ดังกล่าวจะเชื่อมโยงความช่วยเหลือและส่งเสริมการนำนวัตกรรมไปใช้ในเชิงพาณิชย์ไว้ที่จุดเดียวอย่างครบวงจร โดยมีหน่วยงานพันธมิตรดำเนินโครงการย่อยต่างๆ เช่น การผลักดันให้เอสเอ็มอีเข้าถึงนวัตกรรม การสืบค้นนวัตกรรม ส่งเสริมนวัตกรรมไปใช้เชิงพาณิชย์ ปรับปรุงเครื่องจักร การพัฒนาศักยภาพ และรับรองมาตรฐาน เป็นต้น โดย สสว. ทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ รวมถึง ระหว่างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกับหน่วยงานที่ให้บริการ โดย สสว. จะพยายามช่วยให้ผู้ประกอบการที่จะมาใช้บริการในศูนย์ฯ เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด เพื่อลดอุปสรรคในการเข้าถึงนวัตกรรม
นอกจากนั้น สสว. ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) พัฒนาเว็บไซต์ www.innovationsme.com สำหรับเป็นศูนย์รวบรวมฐานข้อมูลด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมทั้งจากในและต่างประเทศ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้เข้ามาหาข้อมูล หรือเสาะหานวัตกรรมที่เหมาะสมกับตัวเองไปใช้ประโยชน์ รวมถึงเป็นช่องทางขยายโอกาสทางธุรกิจ นำนวัตกรรมไปใช้เชิงพาณิชย์มากยิ่งขึ้น
