xs
xsm
sm
md
lg

“โอม.เซรามิค รูฟ” มิติใหม่กระเบื้องดินเผาสไตล์ล้านนา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หน้าบริษัท โอม.เซรามิค รูฟ จำกัด
ปัจจุบัน อุตสาหกรรมกระเบื้องมุงหลังคาดินเผาของไทย โดยเฉพาะรูปแบบล้านนา มีการพัฒนาทั้งด้านการคัดสรรวัสดุหลัก รวมถึง รูปแบบที่มีความหลากหลายมากขึ้น เหมาะสมกับการใช้งานในด้านต่างๆ ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ อีกทั้ง เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคที่ชื่นชอบสิ่งปลูกสร้างที่มีความเป็นธรรมชาติได้อีกด้วย ซึ่งแนวคิดดังกล่าวเป็นของ “บริษัท โอม.เซรามิค รูฟ จำกัด” ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางด้านอุตสาหกรรมกระเบื้องมุงหลังคาดิน
นายอภิชาติ  สุจริตรักษ์ กรรมการผู้จัดการ
นายอภิชาติ สุจริตรักษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท โอม.เซรามิค รูฟ จำกัด เล่าว่า บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2536 ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเพื่อนชาวญี่ปุ่นผู้มีเชี่ยวชาญด้านการผลิตระเบื้องดินเผา เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่ จ.เชียงใหม่ และแสดงแนวคิดร่วมกันยกระดับกระเบื้องดินเผาของไทยให้มีคุณภาพสูง ขณะเดียวกันมีเอกลักษณ์ของชาวล้านนา

“แรกเริ่ม มาจากที่เพื่อนชาวญี่ปุ่นได้เข้ามาเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ และได้เห็นการทำผลิตภัณฑ์กระเบื้องดินเผาของเรา ซึ่งยังขาดด้านคุณภาพและมาตรฐานของชิ้นงาน ประกอบกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นคนนี้ ทำงานบริษัทเกี่ยวกับการทำกระเบื้องอยู่ก่อนแล้ว จึงได้ชักชวนให้ทำธุรกิจร่วมกัน หลังจากนั้นได้รับการถ่ายทอดความรู้ เทคโนโลยีในการผลิตกระเบื้องมุงหลังคาจากญี่ปุ่น อีกทั้ง นำเครื่องจักรมาผลิตกระเบื้องมุงหลังคา จนสามารถสร้างผลงานที่มีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้กับผลิตภัณฑ์ของ โอม. เซรามิค รูฟ ได้เลยทีเดียว ”


ในด้านการตลาดช่วงแรกขณะนั้นถือว่า ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง เพราะสามารถผลิตกระเบื้องมุงหลังคาดินเผาที่มีความโดดเด่นและมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่มีผู้ประกอบการรายอื่นสามารถลอกเลียนแบบได้ นั่นคือ กระเบื้องมุงหลังคาชนิดลอน ประเภท Earthenware สีแดงอิฐ โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มี 3 แบบคือ แบบเรียบสไตล์ล้านนาโบราณ แบบลอนสไตล์ญี่ปุ่น และแบบสเปน

เครื่องจักรในการผลิต
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่เป็นลักษณะกึ่งทำมือ จึงมีปัญหาเช่น การแห้งตัวช้าและมีปริมาณเกิดความเสียหายแตกหักของกระเบื้องในกระบวนการผลิตขั้นสุดท้าย อีกทั้งขาดการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิตทำให้เกิดความเสียหายต่อผลิตภัณฑ์อย่างมาก ส่งผลกระทบต่อการจัดส่งผลิตภัณฑ์ได้ทันเวลา

นายอภิชาติ กล่าวต่ออีกว่า เมื่อบริษัทฯ ประสบปัญหาในด้านขั้นตอนการผลิต โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้ไม่ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ รวมทั้ง มาตรฐานผลิตก็ไม่คงที่ บริษัทฯ จึงได้ขอเข้ารับการสนับสนุนในโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย ( iTAP) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ( สวทช. )เครือข่ายภาคเหนือ โดยทางโครงการได้จัดส่ง ดร.ศักดิพล เทียนเสม อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เข้ามาเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำแก่บริษัทฯ

“จากที่ ดร. ศักดิพล เทียนเสม ได้เข้ามาให้คำแนะนำ ทำให้รู้ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นทางด้านเทคนิคของกระบวนการผลิต ซึ่งขาดความรู้ทางด้านวิชาการ และขาดการอบรมเทคนิคในขั้นตอนของกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน และปัญหาทางด้านพฤติกรรมของคนงาน ซึ่งจากปัญหาดังกล่าว ต้องอาศัยหลักจิตวิทยาอย่างสูงในการค่อยๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคน ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลาในการปรับตัว หลังจากที่ทราบถึงปัญหา จึงแก้ไข ปัญหาทั้งหมดได้ตรงจุดที่สุด ”
กระเบื้องดินเผาของบริษัทฯ
เจ้าของธุรกิจ ระบุว่า ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการนี้ ทำให้บริษัทฯ มีการพัฒนาและรู้ถึงเทคนิคในการเตรียมดิน สามารถกำหนดมาตรฐานและควบคุมการเตรียมดินให้มีคุณสมบัติที่เหมาะสมทำให้ได้สินค้าที่ดีมีคุณภาพและมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของลูกค้ามากขึ้น

นอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนาปรับปรุงห้องผึ่งแห้งรวมถึงการกำหนดค่าความชื้นที่เหมาะสมของผลิตภัณฑ์ก่อนนำเข้าเตาเผา สามารถลดระยะเวลาในการผึ่งแห้งให้สั้นลงจากเดิม 2 เดือน เหลือเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น ช่วยทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นได้ถึง 10% ทำให้บริษัทฯ สามารถผลิตผลิตภัณฑ์รองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างเพียงพอ เนื่องจากบริษัทฯ สามารถลดความเสียหายในขั้นตอนการเผาจากเดิมที่เสียหายถึง 30 % ลดเหลือเพียงแค่ 5% เท่านั้น ขณะที่ยังสามารถเพิ่มทักษะในการพัฒนาด้านการผลิตและความสามารถให้กับบุคลากรของบริษัทฯ เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาดังกล่าวแม้ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ อย่างมากแต่เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน อุตสาหกรรมกระเบื้องมุงหลังคาดินเผาได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก จากปัจจัยสำคัญคือราคาแก๊สหุงต้มที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้ต้นทุนในการผลิตสูง ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคบ้างแต่ก็เชื่อมั่นว่า บริษัทฯ จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า เพราะสามารถเชื่อมั่นได้ว่า บริษัทฯ ผลิตและวางจำหน่ายเฉพาะสินค้าที่ดีมีคุณภาพ

นายอภิชาติ กล่าวถึงอนาคตของบริษัทฯ ว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายตลาดเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรีสอร์ททั่วไป โดยจะขยายกลุ่มลูกค้าให้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจด้านสินค้าตกแต่งภายใน มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่สถาปนิก บ้าน รีสอร์ท และธุรกิจบ้านจัดสรร ที่ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติและความมีเอกลักษณ์ของทางเหนือ โดยจะมีการพัฒนารูปแบบของผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ
สำหรับในปีที่ผ่าน (2550) มาบริษัทฯ มีผลประกอบการประมาณ 5-6 ล้านบาท เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจไม่สู้ดีนัก อีกทั้งมีส่วนแบ่งทางการตลาดค่อนข้างสูง นอกจากนี้ยังประสบปัญหาทางด้านกำลังการผลิตแต่คาดว่าภายในปีนี้ (2551) จะมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เพราะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้บริษัทฯ ยังจะเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านรูปลักษณ์ สีสัน และความสะดวกในการติดตั้ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และเพื่อให้เกิดความแตกต่างจากคู่แข่งขันโดยเน้นความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบได้

* * * * * * * * * * * * * *

*** ข้อมูลโดย - โครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย ( iTAP)***

กำลังโหลดความคิดเห็น