แบงก์กรุงไทย นับหารือลูกค้าเอสเอ็มอี เตรียมแผนช่วยเหลือรับมือฝ่าวิกฤต เผยปิดสนามบินกระทบธุรกิจส่งออกผักสดและดอกไม้ ส่วนธุรกิจท่องเที่ยวเล็งช่วยลดดอกเบี้ยและยืดระยะเวลา
นายวันชัย ธนิตติราภรณ์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจขนาดกลาง ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้ (2ธ.ค.) ธนาคารได้จัดประชุมหารือกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ทำธุรกิจส่งออกที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯจำนวน 300 ราย เพื่อทำการชี้แจงและเป็นการให้ความรู้เบื้องต้นโดยต้องการให้รู้บทบาทของผู้ซื้อในต่างประเทศว่า ขณะนี้มีลักษณะอย่างไร รวมทั้งผู้ประกอบการเอสเอ็มอีควรปรับตัวและควบคุมความเสี่ยงได้อย่างไรในยุคปัจจุบันที่เกิดวิกฤตการเงินอยู่ในขณะนี้
ส่วนกรณีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยปิดสนามบิน ในเบื้องต้นคาดว่า เอสเอ็มอีที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการส่งออกผักสดและดอกไม้จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เพราะไม่สามารถส่งสินค้าไปได้และส่งทางเรือก็ไม่ได้ เพราะต้องการความรวดเร็วทั้งนี้ ลูกค้าของธนาคารที่ทำธุรกิจส่งดอกไม้กับผักสดนั้นมีน้อยมาก อย่างไรก็ตาม ธนาคารก็ต้องหาทางช่วยเหลือลูกค้าต่อไป
สำหรับลูกค้าที่ทำธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนักแน่ในปีหน้า (2552) แนวทางการให้ความช่วยเหลือของธนาคารในเบื้องต้น อาจจะปรับลดดอกเบี้ยและยืดหนี้ แต่ต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไปตามความจำเป็นแต่ในระยะนี้ยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจน
"เราได้เตรียมการช่วยเอสเอ็มอีเอาไว้แล้ว คือ การลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืดอายุการชำระหนี้ ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือเป็นรายๆ ไปเพื่อหาทางออกให้กับลูกค้าซึ่งเราประเมินว่าภาคธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบแน่ในปีหน้า"นายวันชัย กล่าว และเผยต่อว่า
สำหรับพอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคารในปัจจุบันมีอยู่ กว่า 2.4 แสนล้านบาท ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตเฉลี่ยปีละ 5-6% มาตลอด สำหรับในปีนี้ก็ตั้งเป้าเติบโต 5% หรือยอดเม็ดเงินโตสุทธิ 20,000 ล้านบาท ณ ปัจจุบันปล่อยสินเชื่อไปได้แล้ว 1.8 หมื่นล้านบาท และเชื่อว่าสิ้นปียอดสินเชื่อคงค้างเอสเอ็มอีน่าจะอยู่ที่ 2.5 แสนล้านบาท
นายวันชัย ธนิตติราภรณ์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจขนาดกลาง ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้ (2ธ.ค.) ธนาคารได้จัดประชุมหารือกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ทำธุรกิจส่งออกที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯจำนวน 300 ราย เพื่อทำการชี้แจงและเป็นการให้ความรู้เบื้องต้นโดยต้องการให้รู้บทบาทของผู้ซื้อในต่างประเทศว่า ขณะนี้มีลักษณะอย่างไร รวมทั้งผู้ประกอบการเอสเอ็มอีควรปรับตัวและควบคุมความเสี่ยงได้อย่างไรในยุคปัจจุบันที่เกิดวิกฤตการเงินอยู่ในขณะนี้
ส่วนกรณีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยปิดสนามบิน ในเบื้องต้นคาดว่า เอสเอ็มอีที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการส่งออกผักสดและดอกไม้จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เพราะไม่สามารถส่งสินค้าไปได้และส่งทางเรือก็ไม่ได้ เพราะต้องการความรวดเร็วทั้งนี้ ลูกค้าของธนาคารที่ทำธุรกิจส่งดอกไม้กับผักสดนั้นมีน้อยมาก อย่างไรก็ตาม ธนาคารก็ต้องหาทางช่วยเหลือลูกค้าต่อไป
สำหรับลูกค้าที่ทำธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนักแน่ในปีหน้า (2552) แนวทางการให้ความช่วยเหลือของธนาคารในเบื้องต้น อาจจะปรับลดดอกเบี้ยและยืดหนี้ แต่ต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไปตามความจำเป็นแต่ในระยะนี้ยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจน
"เราได้เตรียมการช่วยเอสเอ็มอีเอาไว้แล้ว คือ การลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืดอายุการชำระหนี้ ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือเป็นรายๆ ไปเพื่อหาทางออกให้กับลูกค้าซึ่งเราประเมินว่าภาคธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบแน่ในปีหน้า"นายวันชัย กล่าว และเผยต่อว่า
สำหรับพอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคารในปัจจุบันมีอยู่ กว่า 2.4 แสนล้านบาท ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตเฉลี่ยปีละ 5-6% มาตลอด สำหรับในปีนี้ก็ตั้งเป้าเติบโต 5% หรือยอดเม็ดเงินโตสุทธิ 20,000 ล้านบาท ณ ปัจจุบันปล่อยสินเชื่อไปได้แล้ว 1.8 หมื่นล้านบาท และเชื่อว่าสิ้นปียอดสินเชื่อคงค้างเอสเอ็มอีน่าจะอยู่ที่ 2.5 แสนล้านบาท
