ก.คลัง คลอดแผนระดมทุนแสนล้าน ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ ช่วยเหลือเอสเอ็มอีฝ่ามรสุม เล็งแบงก์พาณิชย์รับหน้าเสื่อปล่อยกู้ หวังลดความเสี่ยงเอสเอ็มอีแบงก์ คาดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบช่วยเอสเอ็มอี กระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าเพิ่มถึง 2 แสนล้าน เตรียมเสนอครม. 9 ธ.ค. นี้
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การดำเนินโครงการ “smePower” กระทรวงการคลัง ร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ธนาคารพาณิชย์ และภาคเอกชนคือสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท) ร่วมมือกัน เพื่อจะเป็นแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเบื้องต้นจะระดมเงินทุนประมาณ 100,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินทุนจากกระทรวงการคลัง 50,000 ล้านบาท โดยปล่อยกู้ให้เอสเอ็มอีทั่วไป 40,000 ล้านบาท และเอสเอ็มอีในภาคใต้ 10,000 ล้านบาท คาดเมื่อเงินทุนลงสู่ระบบจะทำให้เศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคเอสเอ็มอี เกิดการขับเคลื่อน มีวงเงินเพิ่มขึ้นถึง 200,000 ล้านบาทได้ โดยในวันที่ 9 ธันวาคมนี้จะนำเรื่องดังกล่าว เสนอแก่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
ทั้งนี้ เงินทุนดังกล่าวจะมาจาก ทางกระทรวงการคลัง จะดึงเงินมาจากตลาดทุน ด้วยการระดมออกพันธบัตรและตั๋วเงินคลัง เพื่อนำเงินให้ธนาคารพาณิชย์ พิจารณาปล่อยเงินกู้ให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในอัตราดอกเบี้ยต่ำ (Soft loan) ซึ่งทางธนาคารพาณิชย์จะเป็นผู้แบกรับความเสี่ยงไว้ทั้งหมด หวังเพิ่มสภาพคล่อง และช่วยพยุงภาคธุรกิจและผู้ประกอบการให้เติบโตต่อไปได้ แต่หากต้องการให้อัตราดอกเบี้ยต่ำลงอีกจะต้องรองบประมาณ 750 ล้านบาท นำมาช่วยเหลือในขั้นตอนต่อไป
นอกจากนี้ เงินทุนอีก 50,000 ล้านบาท จะมาจากการปล่อยกู้ของธนาคารพาณิชย์ต่างๆ เชื่อว่า เมื่อวงเงินนี้ เข้าไปสู่ระบบ จะช่วยสนับสนุนเอสเอ็มอีในปีหน้า ได้ถึงกว่า 200,000 ล้านบาท
“ขณะนี้สิ่งที่ทางรัฐฯ จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับภาคธุรกิจอุตสาหกรรมอีกทางหนึ่งคือ การเร่งผลักดันโครงการเมกกะโปรเจกต่างๆ ให้เร็วขึ้น เพื่อสร้างเม็ดเงินสู่ท้องถิ่น และยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาทุกฝ่ายชะลอการใช้เงิน ทำให้ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมขาดสภาพคล่อง ดังนั้นจึงเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่รัฐบาลจะผลักดันโครงการต่างๆ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกล่าว
ด้านนายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า สำหรับโครงการ smePower ในช่วงต้นเดือนธันวาคม ทาง ส.อ.ท.จะเริ่มสำรวจกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมในภาคอีสาน เช่น จ.อุบลราชธานี ในกลุ่มอุตสาหกรรมเสื้อผ้าขนาดเล็ก และอุตสาหกรรมก่อสร้าง และจะไปต่อให้ภาคเหนือ ใต้ ต่อไป เพื่อให้ความรู้และปล่อยกู้ให้กับธุรกิจต่างๆ ได้ทันท่วงที
