xs
xsm
sm
md
lg

"M.R"ลูกชิ้นเนื้อสูตรฮาลาล เผยเคล็ดลับขายวันละตัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเชรษฐ์  ถนอมทรัพย์ เจ้าของ
ลูกชิ้นเนื้อวัวเป็นอาหารจานโปรดของหลายคนที่ชื่นชอบและโปรดปานการรับประทานเนื้อสัตว์ประเภทนี้ ผู้ผลิตเนื้อวัวในประเทศไทย มีอยู่หลายรายทั้งที่เป็นผู้ผลิตรายย่อยที่ผลิตในรูปแบบโฮมเมด และผู้ผลิตรายใหญ่ที่ผลิตในรูปแบบของโรงงาน แต่เนื่องจากเนื้อวัวเป็นเนื้อสัตว์เพียงไม่กี่ชนิดที่ชาวมุสลิมสามารถรับประทานได้

ดังนั้น โรงงานผู้ผลิตเนื้อวัวเอ็ม อาร์ของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม อาร์ ฮาลาล ฟู๊ด จึงได้ให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้มาตรฐานการผลิตอาหารฮาลาล เพื่อเป็นทางเลือกให้กับชาวมุสลิมที่เคร่งครัดในศาสนา และผู้ต้องการรับประทานอาหารฮาลาล ได้มีทางเลือกมากขึ้น
ลูกชิ้นที่บรรจุในถุงสูญญากาศ
นายเชษฐ์ ถนอมทรัพย์ เจ้าของลูกชิ้นเอ็มอาร์ เล่าว่า ทางโรงงานของเราได้ผลิตลูกชิ้นเนื้อวัวมาตั้งแต่ปี 2542 โดยเริ่มจากในอดีตพ่อขายเนื้อวัวอยู่ในตลาดสด และในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจยอดขายเริ่มลดน้อยลง จึงเปลี่ยนหันมาทำลูกชิ้นเนื้อวัว ซึ่งเริ่มจากการทำแบบโฮมเมดภายในครอบครัว โดยพ่อเป็นผู้คิดค้นสูตรขึ้นมาเอง และค่อยพัฒนาสูตรมาเรื่อย จนเป็นที่ถูกใจลูกค้า และมีออร์เดอร์สั่งเข้ามามากขึ้น

"หลังจากนั้นผมจึงได้มาตั้งโรงงาน โดยยังคงสูตรลูกชิ้นที่เป็นสูตรของพ่อ แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมากระบวนการผลิตในทุกขั้นตอนจะผลิตในรูปแบบของอาหารฮาลาล ส่วนหนึ่งเพราะครอบครัวของเราเป็นมุสลิมทั้งครอบครัว ซึ่งต้องรับประทานอาหารฮาลาล ดังนั้น พอเริ่มมีโรงงานสิ่งแรกที่พ่อทำคือการผลิตให้ได้มาตรฐานฮาลาล พร้อมกับขอมาตรฐานเครื่องหมายรับรอง ซึ่งในช่วงนั้นถือได้ว่าเราเป็นโรงงานแรกที่ได้มาตรฐานการผลิตอาหารฮาลาล อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีเพียงไม่กี่รายได้มาตราฐานดังกล่าว"

สำหรับโรงงานแห่งนี้ เริ่มจากโรงงานเล็กที่มีแรงงานอยู่ไม่กี่คน และค่อยพัฒนาจากกำไรที่ได้กลายเป็นโรงงานผลิตลูกชิ้นเนื้อวัวที่ถือได้ว่าเป็นโรงงานขนาดใหญ่อีกโรงงานหนึ่ง ที่กำลังถูกจับตามองของคู่แข่งขันในตลาด เพราะมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว จนทำให้วันนี้ ลูกชิ้นเนื้อวัว เอ็มอาร์ มียอดขายต่อวันกว่า 1 ตัน หรือ 1,000 กิโลกรัม ส่งขายในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลเพียงไม่กี่จังหวัด

ลูกชิ้นที่ผ่านระบบเครื่องจักร
นายเชษฐ์ เล่าว่า การเติบโตของลูกชิ้น เอ็มอาร์ เกิดจากการที่เราทำการตลาดแบบเข้าถึงลูกค้า โดยผมจะเป็นคนลงพื้นที่เข้าไปขายสินค้าเอง และเมื่อลูกค้ามีปัญหาอะไรสามารถพูดคุ๋ยกับเจ้าของ ซึ่งไม่ผ่านพนักงานหรือคนกลาง และการที่ลูกค้าต่อสายตรงถึงเจ้าของ ซึ่งมีอำนาจในการตัดสินใจ ทำให้ปัญหาถูกแก้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ลูกค้าก็จะพึ่งพอใจ และเป็นลูกค้าประจำกันตลอด

นอกจากนี้ สาเหตุที่สามารถขยายตลาดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนอกเหนือจากการได้มาตรฐานอาหารฮาลาล ราคาเป็นส่วนสำคัญ เพราะทางเอ็มอาร์จะตั้งราคาไม่แพง เมื่อเทียบคุณภาพและผู้ผลิตรายอื่น ทางลูกชิ้นเอ็มอาร์จะขายต่ำกว่าเล็กน้อย และสาเหตุที่สามารถขายราคาถูกกว่ารายอื่นๆได้ เนื่องจากทางโรงงานจะผลิตลูกชิ้นวันหนึ่งจำนวนมาก ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบที่ซื้อจำนวนมากราคาจะถูกลง และมีการพัฒนาเครื่องจักรในการผลิตทำให้เกิดการสูญเสียในกระบวนการผลิตน้อยลง จึงเป็นเหตุผลที่สามารถขายในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดได้ โดยที่กำไรก็ไม่ได้ลดลง

และจากการพัฒนาเครื่องจักร และเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย โดยมีที่ปรึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี คือ ดร.ณรงค์ ชูชีพ อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมการเกษตร คอยคิดค้นเครื่องจักรและพัฒนามาตรฐานการผลิต ทำให้ปัจจุบันโรงงานแห่งนี้ ได้มาตรฐานอาหารปลอดภัยของอย.มาตรฐาน GMP และได้รับรองระบบคิว(Q) อีกทั้งอยู่ในระหว่างการขอมาตรฐาน HACCP โดยการเข้าร่วมโครงการ Pre HACCP ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภายใต้โครงการพัฒนาขีดความสามารถSMEs ไทย ของสถาบันอาหาร
ทีมอาจารย์ที่ปรึกษาจากม.ราชมงคลธัญบุรี
ส่วนช่องทางการขายของ ลูกชิ้นเอ็มอาร์ จะขายส่งให้กับแผงตามตลาดสดเป็นช่องทางหลักเกือบ 100% ราคาขายส่งจากโรงงานจะแบ่งตามคุณภาพของสินค้า ซึ่งปัจจุบันทำออกมา 2 ราคา คือ ราคากิโลกรัมละ 80 บาท และราคากิโลกรัมละ 50 บาท โดยลูกชิ้นของเอ็มอาร์จะทำออกมา 2 แบบ คือ แบบที่ซื้อเพื่อนำไปนึ่ง ต้ม หรือ ใส่ในก๋วยเตี๋ยว และแบบที่ลูกค้าซื้อเพื่อนำไปทำลูกชิ้นปิ้ง ที่ต้องทำออกมา 2 แบบ เพราะรสชาติของทั้ง 2 แบบจะแตกต่างกัน แบบนำไปต้ม หรือใส่ในก๋วยเตี๋ยว รสชาติจะออกเค็ม ส่วนลูกชิ้นที่นำไปย่างจะออกหวาน

สำหรับการลงทุนในการพัฒนาเครื่องจักรและขยายโรงงานได้ใช้เงินไปแล้วกว่า 10 ล้านบาท โดยเงินที่ได้มาจากกำไรจากการขาย ที่ไม่ใช่เงินกู้ ซึ่งเป็นตัวอย่างของการลงทุนแบบเศรษฐกิจพอเพียง ส่วนกำลังการผลิตต่อวันประมาณ 1,000 กิโลกรัม โดยเนื้อวัวที่ใช้ต่อวันประมาณ 600 กิโลกรัม วัตถุดิบนำมาจากโรงงานที่รังสิต ปัจจุบันไม่ได้มีการขยายตลาดเพิ่มเพราะมีลูกค้าประจำมากพออยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญ การผลิตได้มาตรฐาน โดยคงคุณภาพ และรสชาติให้เหมือนเดิม

สนใจโทร. 08-1820-9403
กำลังโหลดความคิดเห็น