xs
xsm
sm
md
lg

ภาครัฐไทย-ลาวควงแขน ดัน SMEs สองชาติสู้เวทีโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สสว. จับมือ SMEPDO ประเทศลาว เสริมศักยภาพ SMEs ระหว่างกัน ตั้งเป้าเพิ่มขีดความสามารถบุกตลาดโลก เตรียมนำร่องพัฒนาระบบสารสนเทศ และปั้นบุคลากร หนุนลงทุนในอุตสาหกรรมที่ไทยมีศักยภาพและมีประสบการณ์

นายชาวันย์ สวัสดิ์-ชูโต รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่าง สสว. กับ ห้องการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดน้อยและกลาง (SMEPDO) สาธาณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ว่า ความร่วมมือมีวัตถุประสงค์พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ของทั้งสองประเทศ ทั้งด้านการลงทุน การจับคู่ธุรกิจ การเสริมสร้างและพัฒนาเครือข่าย มุ่งสู่การพัฒนาการผลิตสินค้าและบริการ เพื่อให้สินค้าหรือบริการของ SMEs ของสองชาติ ตอบสนองความต้องการของตลาดในภูมิภาคและตลาดโลก

สำหรับความร่วมมือจะใช้จุดเด่นของแต่ละฝ่ายแลกเปลี่ยนกัน โดยประเทศไทยมีประสบการณ์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการ เป็นแหล่งผลิตและฐานการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกที่สำคัญหลายชนิด โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่เป็น Resource base เช่น อุตสาหกรรมการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมสิ่งทอ ตลอดจนภาคบริการที่อิงทรัพยากรธรรมชาติ

ในขณะที่ สปป.ลาว เองก็มีศักยภาพด้านความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาตินานาชนิด เช่น แร่ธาตุและพลังงานน้ำ จากการศึกษาของ สสว. พบว่า สปป.ลาว ได้เห็นความสำคัญของการลงทุนด้านอุตสาหกรรม โดยให้การสนับสนุนทางด้านยุทธศาสตร์ที่สร้างความได้เปรียบให้แก่อุตสาหกรรมการผลิต ที่ได้รับสิทธิต่างๆ ในการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ซึ่ง สปป.ลาว ยังมีปัจจัยการผลิตทั้งคุณภาพและปริมาณไม่เพียงพอ แต่เนื่องจากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่เป็น Land Link กับหลายประเทศ ประกอบกับมีพื้นที่ในการเพาะปลูกมากและมีทรัพยากรที่สมบูรณ์รอการพัฒนา

ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ สสว. และ สปป.ลาว ได้วางยุทธศาสตร์การส่งเสริมความร่วมมือด้าน SMEs ระหว่างสองประเทศ โดยแนวทางที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในอนาคตอันใกล้ เช่น การพัฒนาระบบสารสนเทศด้าน SMEs ตามแนวทางของ ASEAN การพัฒนาบุคคลากรทั้งในส่วนของแรงงานใน สปป.ลาว เพื่อป้อนเข้าสู่ธุรกิจที่ผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุน การพัฒนาผู้ประกอบการรวมทั้งเจ้าหน้าที่ส่งเสริม SMEs และการเสริมสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการ SMEs เพื่อขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ตลอดจนการส่งเสริมความร่วมมือด้านการลงทุนในอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกของ สปป.ลาว ในสินค้าที่ประเทศไทยมีศักยภาพและประสบการณ์ในการผลิต

นอกจากนี้ในอนาคตคาดว่าจะนำไปสู่ความร่วมมือในการจัดทำแผนการส่งเสริม SMEs ระหว่างกัน รวมถึงความตกลงเกี่ยวกับการรวมกลุ่มวิสาหกิจการค้าข้ามแดน (Cross-border Cluster) เช่น ในกลุ่มผลิตภัณฑ์กระดาษสา และกลุ่มผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

“สสว.คาดว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ของทั้งสองประเทศ ให้มีขีดความสามารถในการพัฒนาการผลิตสินค้าและบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในภูมิภาคและตลาดโลก เพื่อนำไปสู่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป” นายชาวันย์ กล่าว

อย่างไรก็ดี นอกจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐแล้ว ยังอาจจะมีความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการเอกชนของทั้ง 2 ประเทศเกิดขึ้น ซึ่งในส่วนของผู้ประกอบการไทยที่ไปร่วมงานในครั้งนี้ เช่น บริษัท ล็อกซเล่ย์เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท วีมีสชั่น จำกัด เจ้าของอุตสากรรมการผลิตไบโอดีเซล สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ (NOHMEX) กลุ่มผู้ประกอบการกระดาษสาบ้านต้นเปา และผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะนำไปสู่การเชื่อมโยงเครือข่ายและขยายตลาดสินค้าไทยใน สปป.ลาว ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น