“ไม้แม่น” ปลุกวิญญาณหนังสติ๊ก แต่งโฉมไม้ยิงให้ยิ่งเฉียบ

ในวันวานเด็กผู้ชายแทบทุกคนต้องเคยเล่นยิงหนังสติ๊ก โดยมีง่ามไม้ ขนาดถนัดมือ ผูกด้วยหนังยางเส้นเป็นอุปกรณ์คู่กาย ทว่า นับวันผ่านไป การละเล่นนี้จะสูญหาย โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ในเมือง บางคนไม่รู้จักการเล่นหนังสติ๊กด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวชมรมหนังสติ๊ก ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แล้ว แม้ปัจจุบันทุกคนวัยจะล่วงเลยสู่หนุ่มใหญ่แล้ว แต่ด้วยความผูกพันในการเล่นหนังสติ๊กตั้งแต่เยาว์ ยังคงรวมกลุ่มกันเล่นอย่างเหนียวแน่น แถมช่วยกันพัฒนาด้ามไม้หนังสติ๊กที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างยิ่ง จนกลายเป็นสินค้าเด่นประจำจังหวัด

“กลุ่มผมเป็นชาวบางพระโดยกำเนิด ตั้งแต่จำความได้ ผมกับเพื่อนๆ ก็เล่นยิงหนังสติ๊กมาตลอด พอโตขึ้นคนทั่วไปก็เลิกเล่นกันไป แต่กลุ่มผมไม่เลิก ยังรวมกลุ่มกันเล่น และไปแข่งขันสม่ำเสมอ” ขจร จักกะพาก ประธานชมรม กล่าว

ส่วนเหตุที่พัฒนาสู่การสร้างเป็นอาชีพนั้น ประธานชมรม ขยายความว่า ในงานประเพณีวิ่งควายของ จ.ชลบุรี จะมีการแข่งขันยิงหนังสติ๊กอยู่ด้วย ซึ่งทีม ต.บางพระ ถือเป็นเจ้ายุทธ์ประจำการแข่งขัน เพราะครองแชมป์มากที่สุด จนผู้คนทั่วไปต่างสนใจไม้ยิงหนังสติ๊กของกลุ่มฯ ว่า มีความพิเศษอย่างไร เหตุใดจึงยิงได้แม่นยำนัก จึงเป็นแรงบันดาลใจ จะผลิตอุปกรณ์ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คนทั่วประเทศประจักษ์

จากความตั้งใจดังกล่าว ขจร และเพื่อนๆ ที่เล่นหนังสติ๊กกันมาตั้งแต่เด็ก ประมาณ 10 คน รวมกลุ่มตั้งชมรมหนังสติ๊ก ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อ พ.ศ.2547 ผลิตอุปกรณ์ด้ามไม้หนังสติ๊ก ถือเป็นกลุ่มแรกและกลุ่มเดียวในประเทศไทย ซึ่งผลงานนี้ ได้รับคัดเลือกเป็นสินค้าโอทอป ระดับ 5 ดาวของจังหวัดทีเดียว

“เดิมด้ามไม้หนังสติ๊กจะเป็นไม้ง่ามธรรมดา แต่พวกเราพัฒนาไม่ว่าจะเป็นรูปทรง หรือลวดลาย ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 50 แบบ ทั้งหมดเป็นฝีมือของสมาชิกช่วยกันคิดค้นขึ้นเอง ใช้ชื่อตราสินค้าว่า ไม้แม่น สื่อถึงฝีมือของพวกเราที่มีความแม่นยำในการยิงหนังสติ๊กไม่เป็นรองใคร” ประธานชมรม เผย

การคิดแบบต่างๆ นั้น ขจร ระบุว่า จะยึดหลักต้องจับถนัดมือ และสวยงาม มีทั้งแบบเน้นตั้งโชว์ กับเน้นใช้งานจริง สำหรับแบบที่ได้รับความนิยมสุดสูง คือ ทรงค่อมกลม และทรงด้ามปืน

ส่วนสำคัญอีกอย่าง คือ ชนิดของไม้ มีทั้งไม้หาได้ในท้องถิ่น เช่น ไม้พยุง ไม้ประดู่ ไม้ชิงชัง ไม้แก่นมะขาม เป็นต้น วัตถุดิบส่วนใหญ่เป็นเศษไม้เหลือจากการต่อเรือใน จ.ชลบุรี กับกลุ่มไม้มงคล หายาก เช่น ไม้งิ้วดำ เป็นต้น สำหรับไม้ที่นำมาทำ ต้องมีขนาด 3 x 3 x 7 นิ้ว ส่วนวัตถุดิบยางเส้นหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป ทั้งนี้ ขั้นตอนการผลิตทั้งหมดล้วนเป็นงานทำมือ

กลุ่มลูกค้าเกือบทั้งหมดเป็นผู้ชายที่มีอดีตผูกพันกับการเล่นยิงหนังสติ๊ก กับกลุ่มผู้สะสมผลิตภัณฑ์จากไม้ โดยราคา มีตั้งแต่ 300-5,000 บาท ขึ้นอยู่กับรูปทรงและชนิดไม้

ในความเป็นจริง สมาชิกชมรม ต่างมีอาชีพหลักเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร ช่างไม้เฟอร์นิเจอร์ ช่างต่อเรือ เป็นต้น ส่วนงานประดิษฐ์ด้ามไม้หนังสติ๊ก ทำด้วยใจรัก และเป็นรายได้เสริมเท่านั้น ดังนั้น ปัญหาสำคัญ คือ มีกำลังผลิตน้อย โดยเฉลี่ยปีหนึ่งจะมีสินค้าขายเพียง 700 -1,000 ชิ้นเท่านั้น ผ่านช่องทางขายแค่ออกงานโอทอป ประจำปีที่เมืองทองธานี ปีละ 2 ครั้ง กับออกงานแฟร์สินค้าชุมชนของชลบุรีเป็นครั้งคราวเท่านั้น

ในฐานะประธานชมรม ขจร ระบุว่า อยากขยายตลาดให้กว้างยิ่งขึ้น เพราะเชื่อมั่นว่า สินค้านี้มีศักยภาพการตลาดสูง สามารถบ่งบอกถึงความเป็นไทย มีโอกาสส่งออกได้ นอกจากนั้น ยังหวังว่าจะเป็นส่วนสำคัญช่วยอนุรักษ์การละเล่นไทยโบราณให้เยาวชนรุ่นหลังได้รู้จัก

“ปัญหาของพวกเรา คือ กำลังผลิตไม่เพียงพอ ซึ่งผมเชื่อมั่นว่า จริงๆ แล้วความต้องการของตลาดมีอีกมาก เพราะสามารถพลิกแพลงเป็นสินค้าที่ระลึกหลากหลาย มีจุดขายที่ประวัติความเป็นมาน่าสนใจ ขณะนี้ ผมจึงพยายามหากำลังผลิตเพิ่มเติม เช่น หาช่างไม้ที่อายุมากแล้ว ไม่สามารถทำงานหนักได้ ก็ให้มาทำงานนี้แทน รวมถึง หาแหล่งวัตถุดิบไม้ และพัฒนาสินค้า ทั้งด้านบรรจุภัณฑ์ และแบรนด์ควบคู่กันไป” ขจร กล่าวสรุป

***************************

โทร.081 005 5559