ผู้จัดการกองทุนมอง "หุ้นอุตสาหกรรมเดินเรือ" ผันผวน โดยยังมีทิศทางขึ้นอยู่กับราคานํ้ามัน ส่งผลให้ค่าระวางเดินเรือไม่นิ่ง "ชี้" หากราคานํ้ามันปรับตัวลดลง ก็น่ากลับมาลงทุน "คาด" ครึ่งปีหลังหุ้นกลุ่มนี้ยังคงดี
นายวรรธนะ วงศ์สีนิล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ฟิลลิป จำกัด ระบุว่า ปัจจุบันหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมเดินเรือค่อนข้างจะมีความผันผวนและมีความเสี่ยงสูง เนื่องมาจากอ้างอิงกับราคาน้ำมันซึ่งเป็นปัจจัยในการขนส่ง ทำให้เกิดความผันผวนตามภาวะของราคาน้ำมันในตลาดโลก อย่างไรก็ตามหากราคาน้ำมันในตลาดโลกมีการปรับตัวลดลงต่ำกว่ามาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 100 เหรียญต่อบาเรล บริษัทอาจจะมีการพิจารณาลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าว เนื่องจากได้ประเมินว่าหุ้นกลุ่มนี้จะมีทิศทางบวกในอนาคต
ทั้งนี้สาเหตุที่ผลประกอบการของบริษัทมีอัตราปันผลในระดับสูง น่าจะเป็นผลมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (คอมมอดิตี้) ซึ่งเป็นลูกค้าหลักที่อุตสาหกรรมเดินเรือได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาค่าขนส่งเกิดการปรับตัวไปในทิศทางเดียวกัน อย่างไรก็ตามในขณะนี้ค่าระวางเรือมีการปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก ล่าสุดอัตราค่าระวางเรือปรับตัวลงมาอยู่ในระดับไม่ถึง 8,000 เหรียญ จากช่วงก่อนหน้านี้ที่มีค่าระวางเรืออยู่ที่ 12,000 เหรียญ โดยเป็นผลมาจากการชะลอการนำเข้าประกอบกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา
" ในปัจจุบันกองทุนซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.ไม่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกลุ่มเดินเรือ แต่ส่วนตัวมองว่าหุ้นกลุ่มนี้มีอนาคตที่ค่อนข้างสดใส ซึ่งบลจ.ฟิลลิปได้มีการมองหุ้นในกลุ่มนี้เอาไว้บ้าง แต่เพราะราคาน้ำมันที่ผันผวนจึงทำให้ต้องรอดูราคาน้ำมันในตลาดโลกต่อไป"นายวรรธนะ กล่าว
นายวิชชุ จันทาทับ ผู้อำนวยการฝ่ายตราสารทุน บลจ. ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับหุ้นกลุ่มเรือถือว่าเป็นหุ้นกลุ่มที่มีความน่าสนใจ แต่เนื่องมาจากความผันผวนและความเสี่ยงของหุ้นกลุ่มนี้ค่อนข้างสูงทำให้บริษัทไม่เก็บหุ้นกลุ่มนี้ไว้ในพอร์ตการลงทุนถึงแม้ว่าผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาของกลุ่มบริษัทเดินเรือจะปรับตัวสูงขึ้น เพราะบริษัทมองว่าหุ้นกลุ่มนี้มีแนวโน้มจะปรับตัวลดลงหลังจากไตรมาส 3 ทำให้ความสนใจในหุ้นกลุ่มนี้มีน้อย อีกทั้งในเรื่องของค่าระวางเรือที่มีการปรับตัวขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา
ด้านนายวจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์ ผู้จัดการกองทุน บลจ.ธนชาต เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มธุรกิจเดินเรือในครึ่งปีหลังน่าจะยังคงอยู่ในทิศทางที่เป็นบวก แม้ว่าค่าระวางเรืออาจจะมีการปรับตัวลดลงจากในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องมาจากความต้องการ (ดีมานซ์) ของอู่ต่อเรือยังคงมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าจะมีค่าระวางเรือและตัวเลขการขนส่งที่น่าจะยังคงสามารถปรับตัวเพิ่มได้ในช่วงไตรมาส 3-4
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ประเทศจีนได้มีการจัดกีฬาโอลิมปิค ส่งผลทำให้เกิดการปรับลดการนำเข้าถ่านหินและเหล็กลง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยลดมลพิษเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาดังกล่าว ขณะที่ก่อนหน้านี้เศรษฐกิจของประเทศจีนมีการเติบโตกว่า 2-3 เท่าของจีดีพี เพราะต้องสั่งนำเข้าสินค้าต่างๆ เพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้างสถานที่แข่งขัน ทำให้ส่งผลดีต่อธุรกิจกลุ่มเดินเรือในช่วงที่ผ่านมา
"อย่างไงก็ตามตอนนี้ดีมานซ์ของตลาดยังคงไว้วางใจไม่ได้ เพราะเมื่อต้นปีที่ผ่านมาดีมานซ์ของตลาดยังคงดีอยู่ แต่ขณะนี้ค่า BDI ได้ปรับตัวลดลงเพราะประเทศจีนลดการนำเข้าเนื่องมาจากมีการแข่งขันโอลิมปิค และในช่วงนี้หุ้นกลุ่มเดินเรือถึงแม้ว่าจะมีการปรับตัวลดลงมาบ้าง แต่ก็จะคงที่อยู่ในระดับสูงได้ แต่อาจจะไม่สูงเท่ากับกลุ่มอื่นๆ" นายวจนะ กล่าว
นายวรรธนะ วงศ์สีนิล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ฟิลลิป จำกัด ระบุว่า ปัจจุบันหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมเดินเรือค่อนข้างจะมีความผันผวนและมีความเสี่ยงสูง เนื่องมาจากอ้างอิงกับราคาน้ำมันซึ่งเป็นปัจจัยในการขนส่ง ทำให้เกิดความผันผวนตามภาวะของราคาน้ำมันในตลาดโลก อย่างไรก็ตามหากราคาน้ำมันในตลาดโลกมีการปรับตัวลดลงต่ำกว่ามาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 100 เหรียญต่อบาเรล บริษัทอาจจะมีการพิจารณาลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าว เนื่องจากได้ประเมินว่าหุ้นกลุ่มนี้จะมีทิศทางบวกในอนาคต
ทั้งนี้สาเหตุที่ผลประกอบการของบริษัทมีอัตราปันผลในระดับสูง น่าจะเป็นผลมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (คอมมอดิตี้) ซึ่งเป็นลูกค้าหลักที่อุตสาหกรรมเดินเรือได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาค่าขนส่งเกิดการปรับตัวไปในทิศทางเดียวกัน อย่างไรก็ตามในขณะนี้ค่าระวางเรือมีการปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก ล่าสุดอัตราค่าระวางเรือปรับตัวลงมาอยู่ในระดับไม่ถึง 8,000 เหรียญ จากช่วงก่อนหน้านี้ที่มีค่าระวางเรืออยู่ที่ 12,000 เหรียญ โดยเป็นผลมาจากการชะลอการนำเข้าประกอบกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา
" ในปัจจุบันกองทุนซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.ไม่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกลุ่มเดินเรือ แต่ส่วนตัวมองว่าหุ้นกลุ่มนี้มีอนาคตที่ค่อนข้างสดใส ซึ่งบลจ.ฟิลลิปได้มีการมองหุ้นในกลุ่มนี้เอาไว้บ้าง แต่เพราะราคาน้ำมันที่ผันผวนจึงทำให้ต้องรอดูราคาน้ำมันในตลาดโลกต่อไป"นายวรรธนะ กล่าว
นายวิชชุ จันทาทับ ผู้อำนวยการฝ่ายตราสารทุน บลจ. ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับหุ้นกลุ่มเรือถือว่าเป็นหุ้นกลุ่มที่มีความน่าสนใจ แต่เนื่องมาจากความผันผวนและความเสี่ยงของหุ้นกลุ่มนี้ค่อนข้างสูงทำให้บริษัทไม่เก็บหุ้นกลุ่มนี้ไว้ในพอร์ตการลงทุนถึงแม้ว่าผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาของกลุ่มบริษัทเดินเรือจะปรับตัวสูงขึ้น เพราะบริษัทมองว่าหุ้นกลุ่มนี้มีแนวโน้มจะปรับตัวลดลงหลังจากไตรมาส 3 ทำให้ความสนใจในหุ้นกลุ่มนี้มีน้อย อีกทั้งในเรื่องของค่าระวางเรือที่มีการปรับตัวขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา
ด้านนายวจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์ ผู้จัดการกองทุน บลจ.ธนชาต เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มธุรกิจเดินเรือในครึ่งปีหลังน่าจะยังคงอยู่ในทิศทางที่เป็นบวก แม้ว่าค่าระวางเรืออาจจะมีการปรับตัวลดลงจากในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องมาจากความต้องการ (ดีมานซ์) ของอู่ต่อเรือยังคงมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าจะมีค่าระวางเรือและตัวเลขการขนส่งที่น่าจะยังคงสามารถปรับตัวเพิ่มได้ในช่วงไตรมาส 3-4
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ประเทศจีนได้มีการจัดกีฬาโอลิมปิค ส่งผลทำให้เกิดการปรับลดการนำเข้าถ่านหินและเหล็กลง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยลดมลพิษเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาดังกล่าว ขณะที่ก่อนหน้านี้เศรษฐกิจของประเทศจีนมีการเติบโตกว่า 2-3 เท่าของจีดีพี เพราะต้องสั่งนำเข้าสินค้าต่างๆ เพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้างสถานที่แข่งขัน ทำให้ส่งผลดีต่อธุรกิจกลุ่มเดินเรือในช่วงที่ผ่านมา
"อย่างไงก็ตามตอนนี้ดีมานซ์ของตลาดยังคงไว้วางใจไม่ได้ เพราะเมื่อต้นปีที่ผ่านมาดีมานซ์ของตลาดยังคงดีอยู่ แต่ขณะนี้ค่า BDI ได้ปรับตัวลดลงเพราะประเทศจีนลดการนำเข้าเนื่องมาจากมีการแข่งขันโอลิมปิค และในช่วงนี้หุ้นกลุ่มเดินเรือถึงแม้ว่าจะมีการปรับตัวลดลงมาบ้าง แต่ก็จะคงที่อยู่ในระดับสูงได้ แต่อาจจะไม่สูงเท่ากับกลุ่มอื่นๆ" นายวจนะ กล่าว