วิกฤตเศรษฐกิจ ส่งสัญญาณกระทบSMEs ชัดขึ้น ล่าสุด สสว. เผยดัชนี TSSI SMEs ประจำเดือนเมษายน ลดลงอีกอยู่ที่ 41.2 พร้อมคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าลดลงอยู่ที่ 42.8 ชี้เป็นครั้งแรกที่เป็นการลดลงทุกภาคธุรกิจ โดยมีธุรกิจค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านค้าปลีกดั้งเดิม และบริการวิชาชีพ เป็นกลุ่มที่มีค่าดัชนีปรับตัวลดลงมากที่สุด เหตุเพราะยอดขายและกำไรลด จากต้นทุนที่เพิ่มสูง
นางจิตราภรณ์ เตชาชาญ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการ (Trade & Service Sentiment Index : TSSI) ประจำเดือนเมษายน 2551 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา พบว่า ดัชนี TSSI SMEs รวมภาคการค้าและบริการ มีค่าดัชนีปรับตัวลดลงเป็น 41.2 จากระดับ 44.6 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงทุกภาคธุรกิจ โดยภาคการค้าส่ง ภาคการค้าปลีก และภาคบริการ ลดลงมาอยู่ที่ 39.2 40.1 และ 43.1 จากระดับ 44.8 42.9 และ 46.3 ตามลำดับ เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจประเทศและธุรกิจตนเอง ที่ค่าดัชนีปรับตัวลดลงเป็น 33.9 และ 38.3 จากระดับ 35.6 และ 45.3 ตามลำดับ
“สาเหตุที่เดือนเมษายนนี้ ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นลดลงในทุกประเภทกิจการ เนื่องจากการลดลงของยอดขายและกำไร โดยเฉพาะกิจการค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค กิจการร้านค้าปลีกดั้งเดิม และบริการวิชาชีพ นับเป็นกลุ่มที่ค่าดัชนีปรับตัวลดลงในระดับสูง โดยมีผลมาจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว การบริโภคภายในประเทศขยายตัวต่ำเนื่องจากเป็นช่วงใกล้เปิดภาคเรียน ขณะเดียวกันธุรกิจต่างๆ ได้มีการปิดกิจการเป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ส่วนกิจการที่ดำเนินการอยู่ก็มีการประหยัดค่าใช้จ่ายกันมาก” ผอ.สสว. กล่าว
ทั้งนี้เมื่อพิจารณาแยกเป็นประเภทกิจการ พบว่า ในส่วนของภาคการค้า ธุรกิจค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นกลุ่มที่มีค่าดัชนีปรับตัวลดลงมากที่สุดในภาคการค้าส่งและลดลงมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับทุกธุรกิจที่ทำการสำรวจ โดยอยู่ที่ 37.8 จากระดับ 45.4 (ลดลง 7.6) ขณะที่ภาคการค้าปลีก กิจการร้านค้าปลีกดั้งเดิม มีค่าดัชนีปรับตัวลดลงมากที่สุดอยู่ที่ 38.1 จากระดับ 42.1 (ลดลง 3.9) ส่วนภาคบริการ กิจการบริการวิชาชีพ มีค่าดัชนีปรับตัวลดลงมากที่สุดอยู่ที่ 43.0 จากระดับ 50.6 (ลดลง 7.6)
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า รวมภาคการค้าและบริการ มีค่าดัชนีปรับตัวลดลง อยู่ที่ 42.8 จากระดับ 46.4 (ลดลง 3.6) ซึ่งปรับตัวลดลงทุกประเภทกิจการ โดยภาคการค้าส่ง ภาคการค้าปลีก และภาคบริการ ค่าดัชนีปรับตัวอยู่ที่ 43.2 41.9 และ 43.6 จากระดับ 45.3 45.3 และ 48.1 (ลดลง 2.1 3.3 และ 4.5 ตามลำดับ)
“ค่าดัชนีความเชื่อมั่นทั้งปัจจุบัน คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50 แสดงว่าผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจในระดับที่ไม่ดีนัก โดยผู้ประกอบการเห็นว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจในระดับสูง ได้แก่ ระดับราคาต้นทุนสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น อำนาจซื้อของประชาชนที่ลดลง ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศ รวมทั้งค่าขนส่งและค่าบริการสาธารณูปโภคที่อยู่ในระดับสูง” ผอ.สสว. กล่าว
สำหรับดัชนี TSSI SMEs รวมภาคการค้าและบริการรายภูมิภาค 5 ภูมิภาค เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคม พบว่า มีการปรับตัวลดลงในทุกภูมิภาค โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นภูมิภาคที่มีค่าดัชนีปรับตัวลดลงมากที่สุดอยู่ที่ 35.6 จากระดับ 44.0 (ลดลง 8.4) รองลงมาคือภาคใต้ ลดลงอยู่ที่ 45.3 จากระดับ 48.1 (ลดลง 2.8) กรุงเทพฯ และปริมณฑล ลดลงอยู่ที่ 40.8 จากระดับ 43.4 (ลดลง 2.6) ภาคเหนือ ลดลงอยู่ที่ 40.1 จากระดับ 42.5 (ลดลง 2.4) และภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก ค่าดัชนีปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 43.7 จากระดับ 44.8 (ลดลง 1.1 ) ตามลำดับ
นางจิตราภรณ์ เตชาชาญ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการ (Trade & Service Sentiment Index : TSSI) ประจำเดือนเมษายน 2551 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา พบว่า ดัชนี TSSI SMEs รวมภาคการค้าและบริการ มีค่าดัชนีปรับตัวลดลงเป็น 41.2 จากระดับ 44.6 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงทุกภาคธุรกิจ โดยภาคการค้าส่ง ภาคการค้าปลีก และภาคบริการ ลดลงมาอยู่ที่ 39.2 40.1 และ 43.1 จากระดับ 44.8 42.9 และ 46.3 ตามลำดับ เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจประเทศและธุรกิจตนเอง ที่ค่าดัชนีปรับตัวลดลงเป็น 33.9 และ 38.3 จากระดับ 35.6 และ 45.3 ตามลำดับ
“สาเหตุที่เดือนเมษายนนี้ ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นลดลงในทุกประเภทกิจการ เนื่องจากการลดลงของยอดขายและกำไร โดยเฉพาะกิจการค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค กิจการร้านค้าปลีกดั้งเดิม และบริการวิชาชีพ นับเป็นกลุ่มที่ค่าดัชนีปรับตัวลดลงในระดับสูง โดยมีผลมาจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว การบริโภคภายในประเทศขยายตัวต่ำเนื่องจากเป็นช่วงใกล้เปิดภาคเรียน ขณะเดียวกันธุรกิจต่างๆ ได้มีการปิดกิจการเป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ส่วนกิจการที่ดำเนินการอยู่ก็มีการประหยัดค่าใช้จ่ายกันมาก” ผอ.สสว. กล่าว
ทั้งนี้เมื่อพิจารณาแยกเป็นประเภทกิจการ พบว่า ในส่วนของภาคการค้า ธุรกิจค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นกลุ่มที่มีค่าดัชนีปรับตัวลดลงมากที่สุดในภาคการค้าส่งและลดลงมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับทุกธุรกิจที่ทำการสำรวจ โดยอยู่ที่ 37.8 จากระดับ 45.4 (ลดลง 7.6) ขณะที่ภาคการค้าปลีก กิจการร้านค้าปลีกดั้งเดิม มีค่าดัชนีปรับตัวลดลงมากที่สุดอยู่ที่ 38.1 จากระดับ 42.1 (ลดลง 3.9) ส่วนภาคบริการ กิจการบริการวิชาชีพ มีค่าดัชนีปรับตัวลดลงมากที่สุดอยู่ที่ 43.0 จากระดับ 50.6 (ลดลง 7.6)
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า รวมภาคการค้าและบริการ มีค่าดัชนีปรับตัวลดลง อยู่ที่ 42.8 จากระดับ 46.4 (ลดลง 3.6) ซึ่งปรับตัวลดลงทุกประเภทกิจการ โดยภาคการค้าส่ง ภาคการค้าปลีก และภาคบริการ ค่าดัชนีปรับตัวอยู่ที่ 43.2 41.9 และ 43.6 จากระดับ 45.3 45.3 และ 48.1 (ลดลง 2.1 3.3 และ 4.5 ตามลำดับ)
“ค่าดัชนีความเชื่อมั่นทั้งปัจจุบัน คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50 แสดงว่าผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจในระดับที่ไม่ดีนัก โดยผู้ประกอบการเห็นว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจในระดับสูง ได้แก่ ระดับราคาต้นทุนสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น อำนาจซื้อของประชาชนที่ลดลง ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศ รวมทั้งค่าขนส่งและค่าบริการสาธารณูปโภคที่อยู่ในระดับสูง” ผอ.สสว. กล่าว
สำหรับดัชนี TSSI SMEs รวมภาคการค้าและบริการรายภูมิภาค 5 ภูมิภาค เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคม พบว่า มีการปรับตัวลดลงในทุกภูมิภาค โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นภูมิภาคที่มีค่าดัชนีปรับตัวลดลงมากที่สุดอยู่ที่ 35.6 จากระดับ 44.0 (ลดลง 8.4) รองลงมาคือภาคใต้ ลดลงอยู่ที่ 45.3 จากระดับ 48.1 (ลดลง 2.8) กรุงเทพฯ และปริมณฑล ลดลงอยู่ที่ 40.8 จากระดับ 43.4 (ลดลง 2.6) ภาคเหนือ ลดลงอยู่ที่ 40.1 จากระดับ 42.5 (ลดลง 2.4) และภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก ค่าดัชนีปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 43.7 จากระดับ 44.8 (ลดลง 1.1 ) ตามลำดับ
