การดื่มนมถือเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย ทำให้ไม่น่าแปลกใจที่จะมีร้านนมผุดขึ้นเป็นจำนวนมาก ทั้งผู้ที่เป็นเจ้าของฟาร์ม มาเปิดร้านเอง และผู้ประกอบการรายย่อยที่รับนมสดมาจำหน่ายในร้านที่ออกแบบร้านให้น่ารักและอบอุ่น แม้ว่านมจะเป็นสินค้าที่จับกลุ่มลูกค้าได้ทุกเพศทุกวัย แต่คงไม่มีผู้ประกอบการรายใดที่จะใส่ใจในเรื่องคุณภาพของนมที่ปลอดเชื้อและสารเคมี ตั้งแต่กระบวนการเลี้ยงวัว หญ้าที่ให้วัวกิน รวมถึงขั้นตอนการผลิตก่อนถึงผู้บริโภค
เราเรียกกระบวนการเหล่านี้ว่า “ออร์แกนิค” ซึ่งถือว่าร้าน “แดรี่โฮม”เป็นผู้ประกอบการรายแรกที่มีไอเดียผลิต “นมออร์แกนิค” ขึ้น เป็นผลิตภัณฑ์นมปลอดสารพิษ ใส่ใจกระบวนการผลิตนมทั้งหมด ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำโดยไม่ใช้สารเคมี ปัจจุบันตั้งอยู่บนถนนมิตรภาพ ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
นายพฤติ เกิดชูชื่น เล่าว่า ตนเองได้นำประสบการณ์จากที่เคยทำงานอยู่ที่ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ก มานานหลายปี จนกระทั่งคิดที่จะออกมาทำธุรกิจของตัวเอง โดยตั้งใจจะเปิดร้านสเต็กเล็กๆ พร้อมมีนมสดจำหน่าย ที่คัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ โดยติดต่อกับฟาร์มโคนมที่รู้จักกัน และมั่นในใจเรื่องของคุณภาพนมสด มาเป็นแหล่งวัตถุดิบก่อน ซึ่งในช่วงแรกยังไม่ได้เป็นนมออร์แกนิกแต่ก็ถือว่าเป็นนมสดที่ปลอดสารตกค้าง
“ในช่วงแรกผมจะซื้อน้ำนมดิบจากฟาร์มโคมนมที่รู้จักกัน แล้วนำมาผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อเพื่อความสะอาดและปลอดภัย โดยนำมาใส่ขวดแก้ว จากเดิมที่ผลิตเพียง 10 ลิตร/วัน จนกลายมาเป็น 100 ลิตร/วัน ก็ยังขายหมด ดังนั้นจึงเริ่มคิดพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความแตกต่าง จากคู่แข่งที่คุณภาพของนมสดจะใกล้เคียงกัน ดังนั้นผมจึงคิดสร้างความแตกต่างด้วยคุณภาพของนม แม้การเฟ้นหาวัตุดิบที่ดี จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้น จากการรับซื้อน้ำนมดิบจากฟาร์มออร์แกนิค ที่เป็นพันธมิตรร่วมกัน ส่งผลให้นมที่ผลิตได้มีราคาแพงกว่านมทั่วไปประมาณ 20%”
จากความพยามยามเมื่อ 7 ปีก่อน ของนายพฤติที่ต้องการชี้ให้เกษตรกรเห็นประโยชน์ของการทำฟาร์มโคนมแบบออร์แกนิค แม้ว่าในช่วงแรกจะเป็นเรื่องยากในการเข้าไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเกษตรกร แต่เมื่อเห็นถึงคุณประชโยชน์ และรายได้ที่จะได้รับ เกษตรกรในปัจจุบันก็เริ่มหันมาทำฟาร์มออร์แกนิคกันมากขึ้น
“ ผมพยายามโน้มน้าวเกษตรกรให้ทำฟาร์มออร์แกนิค ซึ่งไม่ได้เพิ่มต้นทุนของฟาร์มแต่อย่างใด ตรงกันข้ามเป็นการช่วยลดต้นทุนของฟาร์ม แม้จะได้ปริมาณน้ำนมดิบที่น้อยลง แต่ได้น้ำนมที่มีคุณภาพมากขึ้น รวมถึงรายได้จากการขายน้ำนมดิบก็มากขึ้นด้วย จากตัวอย่างที่ผมได้ทดลองจากฟาร์มตัวอย่างที่บริษัท แดรี่โฮม เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้ที่เคยเลี้ยงวัวแบบทั่วไป ที่มีรายได้รวมประมาณ 2 แสนบาท แต่คิดเป็นกำไรสุทธิเพียง 10,000-20,000 บาท หลังจากเปลี่ยนมาเลี้ยงแบบออร์แกนิคแล้วมีรายได้ประมาณ 1 แสนบาท แต่กลับมีกำไรสุทธิสูงขึ้นถึง 40,000 บาท แสดงให้เห็นว่าการทำฟาร์มออร์แกนิคจะช่วยลดต้นทุนได้”
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์นมสดแบบบรรจุขวดของ และโยเกิร์ต ที่ใช้กระบวนการผลิตแบบดั้งเดิม ได้วางจำหน่ายที่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ท๊อปซูเปอร์มาร์เก็ต วิลล่ามาร์เก็ต ฟู้ดแลนด์ และเลมอนฟาร์ม เพื่อสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภครู้จักมากขึ้น
ปัจจุบันร้านแดรี่ โฮม ได้แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ที่เกิดนมออกมาอีกมากมาย เช่น ไอศกรีมนม ไอศกรีมโยเกิร์ต ขนมปัง เนย และล่าสุดได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส) และโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (iTAP) ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) โดยได้จัดส่งผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัย 2 ท่าน เข้ามาเป็นที่ปรึกษา ประกอบด้วย ผศ.ดร.ศิวัฒ ไทยอุดม ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอาหารและผลิตภัณฑ์นม สำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร และ ผศ.สพ.ญ.ดร.ศจีรา คุปพิทยานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านฮอร์โมน และสรีรวิทยาระบบสืบพันธุ์ สำนักวิชาวิทยาศาสตร์ เพื่อดำเนินการวิจัยในโครงการการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ “นมก่อนนอน” (Bedtime Milk) ที่มีระดับสารเมลาโทนินธรรมชาติสูง ซึ่งช่วยให้นอนหลับสนิทสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ สมองได้รับการการผ่อนคลายจากความเครียด รวมถึงยังมีไขมันต่ำเพียง 1 ใน 3 ของนมปกติ สามารถดื่มได้ทุกวันก่อนนอน เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่มักมีปัญหาการนอนไม่หลับ
แม้ในปัจจุบันนายพฤติ จะถือเป็นผู้ประกอบการรายแรกๆ ที่เอาใจใส่ในเรื่องคุณภาพของนมสด ตั้งแต่ขั้นตอนการเลี้ยงวัว อาหารของวัว จนมาถึงกระบวนการผลิตที่ปลอดสารพิษ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ดื่มนมสดที่มีประโยชน์อย่างเต็มที่ ซึ่งถือเป็นความพยายามที่เกิดจากความตั้งใจจริงของผู้ประกอบการรายนี้ ซึ่งขณะนี้ก็เริ่มเห็นผล จากกระแสความนิยมของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจในสุขภาพกันมากขึ้น
***สนใจติดต่อ ร้านแดรี่ โฮม 100/1 ม.11 ถ.มิตรภาพ ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โทร.044-332-245 และ 044-322-228 หรือที่ 08-1876-7234 หรือที่ www.dairyhome.co.th***
