กทม.ประสานโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา ขอเป็นตัวกลางนำข้าวหอมมะลิคุณภาพเยี่ยมมาจำหน่ายวันละ 500 ถุงๆ ละ 165 บาท ส่วนความคืบหน้าสินค้าตรา กทม.5 อย่าง เตรียมสรุปอังคารนี้ พร้อมเปิดตัววันพุธ เผยข้าวสารที่จะรับจากโรงสีมาจำหน่ายมีราคาแพงส่ง 5 กิโล 195 บาท ขณะที่ กทม.ประกาศขาย 2 กิโล 48 บาท แต่ไข่ไก่อาจราคาถูกกว่าท้องตลาดฟองละ 50 สตางค์
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กทม.กำลังประสานงานไปยังโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา ซึ่งมีโรงสีข้าวตัวอย่างที่ผลิตข้าวหอมมะลิออกมาจำหน่าย โดยมีการผลิตข้าวหอมมะลิถุงละ 5 กิโลกรัม วันละ 1,000 ถุง ราคาจำหน่ายถุงละ 165 บาท โดยกทม.จะขอรับมาจำหน่ายในตลาดนัดสินค้าราคาประหยัดจำนวน 500 ถุง โดยยังเป็นตราโครงการส่วนพระองค์ฯ เช่นเดิม ซึ่งข้าวหอมมะลิจากโครงการส่วนพระองค์ฯเป็นข้าวหอมมะลิคุณภาพดีเกรดเอ และที่สำคัญราคาจำหน่ายก็ถูกกว่าท้องตลาดซึ่งจะช่วยประชาชนได้มากในยุคที่เศรษฐกิจเป็นแบบนี้
สำหรับความคืบหน้าสินค้า 5 อย่างที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม.มีนโยบายที่จะนำมาจำหน่ายในช่วงที่ยุคที่กำลังประสบปัญหาค่าครองชีพสูงทั้งข้าวสารคุณภาพดีถุงละ 2 กิโลกรัมราคา 48 บาท ไข่ไก่ น้ำพริก ผักปลอดสารพิษ และ ผลไม้ นั้น รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการหารือกับผู้ประกอบการโรงสีข้าวอย่างเจียเม้ง ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ และผู้ประกอบธุรกิจข้าวถุงภายใต้เรื่องหมายการค้าหงษ์ทอง ซึ่งทางเจียเม้งขายส่งข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัมอยู่ที่ 195 บาทจึงเป็นราคาที่ค่อนข้างสูง หาก กทม.จะสั่งซื้อข้าวจากเจียเม้งนำมาบรรจุถุงเป็นข้าวสารตรากทม.ถุงละ 2 กิโลกรัมในราคา 48 บาท อีกทั้งทางเจียเม้งก็ต้องการให้กทม.ชำระเป็นเงินสดทันทีแต่คงไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะการตั้งงบยุ่งยากและคงจะทำไม่ได้
ส่วนที่จะประสานเครือข่ายเกษตรกรจากโรงเรียนเกษตรทฤษฎีใหม่ของ กทม.ทั้ง 26 เขต เพื่อนำข้าวสารมาจำหน่ายนั้นก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน เพราะโรงสีข้าวต่างๆ ได้มาซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาไปหมดแล้ว กทม.จึงต้องรอผลผลิตล็อตหน้า ขณะที่การจัดหาไข่ไก่ได้มีการประสานไปยังฟาร์มไก่ไข่ที่จังหวัดนครปฐมโดยจะนำไข่ไก่คุณภาพที่ดีที่สุดและได้รับความนิยมจากประชาชนมาจำหน่ายคือไข่ไก่เบอร์ 4 ซึ่งจะจำหน่ายราคาถูกกว่าท้องตลาดประมาณฟองละ 50 สตางค์
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ส่วนน้ำพริก 1 ในสินค้า 5 อย่างของ กทม.ได้มีการพูดคุยกับกลุ่มแม่บ้าน กลุ่มชุมชนต่างๆประมาณ 10 กลุ่มซึ่งแต่ละกลุ่มต่างได้รับรางวัลสุดยอดผลิตภัณฑ์ชุมชน( OTOP) มาแล้วซึ่งจะมีทั้งน้ำพริก ตาแดง น้ำพริกนรก น้ำพริกสวรรค์ ฯลฯ ที่ขึ้นชื่อของแต่ละกลุ่มมาจำหน่าย บรรจุกระปุกละ ไม่เกิน 2 ขีด ส่วนเรื่องผักปลอดสารพิษนั้นก็ได้ประสานกับกลุ่มเกษตรกรย่านฝั่งธนบุรีทั้งเขตบางแค หนองแขม ตลิ่งชัน ที่มีการปลูกผักปลอดสารพิษจำนวนมากเพื่อให้เข้าร่วมกับกทม.แล้วแต่ต้องตรวจสอบเรื่องปริมาณก่อนซึ่งอาจจะจัดจำหน่ายได้ไม่ครบทุกพื้นที่ในช่วงแรก
นอกจากนี้ กทม.จะประสานไปยังฝ่ายทหารซึ่งได้ให้กำลังพลในค่ายต่างๆ ปลูกผักปลอดสารพิษไว้บริโภคในครัวเรือนและจำหน่ายอีกด้วย ในส่วนผลไม้สินค้าตัวสุดท้ายของกทม.ก็จะได้นำมะม่วง และกล้วยมาจำหน่ายซึ่งได้ประสานกับเจ้าของสวนมะม่วงพันธุ์ขาวนิยม เขตตลิ่งชัน และกล้วยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะผู้บริการกทม.วันอังคารที่ 20 พ.ค.นี้ สำนักพัฒนาสังคม กทม.จะนำข้อมูลที่รวบรวมจากที่ได้หารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เสนอในที่ประชุมเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก่อนที่จะมีการแถลงเปิดตัวสินค้าของ กทม.อย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 21 พ.ค.นี้ และเตรียมจัดจำหน่ายในสัปดาห์ต่อไป
