เผย "สุวิทย์" ให้นโยบายส่งเสริมเอสเอ็มอี เน้นเอกชนลงทุนเพิ่ม เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมดันองค์ความรู้ และนวัตกรรมใหม่ ต่อยอดผลผลิตที่มีศักยภาพแข่งขันต่างชาติ ชี้ผู้ประกอบการไทยต้องวางบทบาทเป็นได้ทั้งผู้ผลิต ผู้ออกแบบ และรับจ้างผลิต เล็งเปลี่ยนชื่อโอทอปกลับไปเป็น “หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์”
นางจิตราภรณ์ เตชาชาญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มอบหมายแนวทางพัฒนาเอสเอ็มอี โดยเน้นที่การเพิ่มการลงทุนและพัฒนาสินค้าของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น รวมถึงการออกแบบ เพื่อผลักดันให้เกิดการเพิ่มผลผลิตที่มีศักยภาพ ในขณะที่ต้องพัฒนาองค์ความรู้ และนวัตกรรมควบคู่กันไปด้วย
“จากนโยบายที่ สสว.ได้รับมอบหมายมาจากทางภาครัฐ คือ การเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้พร้อมแข่งขัน โดยต้องสร้างรากฐานที่แข็งแรงก่อน เช่น เร่งการสร้างแบรนด์ให้แก่ผู้ประกอบการรายเล็ก โดยเฉพาะกลุ่มอุตสหกรรมด้านอัญมณี และเครื่องประดับ ซึ่งหากมีแบรนด์ จะทำให้เกิดการซื้อซ้ำ รวมถึงให้วางบทบาทของเอสเอ็มอีไทย ให้สามารถเป็นผู้ผลิตได้ทุกรูปแบบ คือ เป็นได้ทั้ง ผู้รับจ้างผลิต (OEM = Original Equipment Manufacturing) ผู้คิดออกแบบผลิตภัณฑ์และสร้างแบรนด์เองทั้งหมด (ODM = Original Design Manufacturing) และ เป็นผู้ผลิตที่มีสัดส่วนการผลิตสินค้าที่มีตราเป็นของกิจการ(OBM = Original brand name manufacturing) เพื่อแสดงให้ต่างชาติเห็นถึงศักยภาพการเป็นผู้ผลิตของไทย” ผอ.สสว.กล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลยังได้ให้ สสว. หาวิธีเพื่อกระตุ้นการลงทุนของภาคเอกชนให้มากขึ้น พร้อมทั้งหาแหล่งเงินทุนเพื่อช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง หวังให้การลงทุนของภาคเอกชน ช่วยทำให้เศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวเร็วขึ้น โดยสสว. เตรียมออกนโนบายกระตุ้นการลงทุนในระยะสั้น คือ การเร่งเปิดศูนย์แสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศ (Outlet) ซึ่งจะนำร่องในกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีศักยภาพพร้อมแข่งขัน และมีการสร้างแบรนด์มาอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม แนวทางที่รัฐบาลมอบหมายมานั้นถือว่า เป็นในทิศทางเดียวกับแผนการพัฒนาเอสเอ็มอีของ สสว. ทำให้การปรับตัวให้สอดรับกับนโยบาย เพื่อจัดแผนปฏิบัติได้รวดเร็วขึ้น นอกจากนั้น การพัฒนาสินค้าโอทอป รัฐบาลเตรียมกลับมาใช้ชื่อคำเดิม คือ "หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์" อีกครั้ง หลังจากที่ผ่านมาได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า “ผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น” ส่วนรายละเอียดของนโยบายจะสรุปกันอีกครั้ง
นางจิตราภรณ์ เตชาชาญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มอบหมายแนวทางพัฒนาเอสเอ็มอี โดยเน้นที่การเพิ่มการลงทุนและพัฒนาสินค้าของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น รวมถึงการออกแบบ เพื่อผลักดันให้เกิดการเพิ่มผลผลิตที่มีศักยภาพ ในขณะที่ต้องพัฒนาองค์ความรู้ และนวัตกรรมควบคู่กันไปด้วย
“จากนโยบายที่ สสว.ได้รับมอบหมายมาจากทางภาครัฐ คือ การเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้พร้อมแข่งขัน โดยต้องสร้างรากฐานที่แข็งแรงก่อน เช่น เร่งการสร้างแบรนด์ให้แก่ผู้ประกอบการรายเล็ก โดยเฉพาะกลุ่มอุตสหกรรมด้านอัญมณี และเครื่องประดับ ซึ่งหากมีแบรนด์ จะทำให้เกิดการซื้อซ้ำ รวมถึงให้วางบทบาทของเอสเอ็มอีไทย ให้สามารถเป็นผู้ผลิตได้ทุกรูปแบบ คือ เป็นได้ทั้ง ผู้รับจ้างผลิต (OEM = Original Equipment Manufacturing) ผู้คิดออกแบบผลิตภัณฑ์และสร้างแบรนด์เองทั้งหมด (ODM = Original Design Manufacturing) และ เป็นผู้ผลิตที่มีสัดส่วนการผลิตสินค้าที่มีตราเป็นของกิจการ(OBM = Original brand name manufacturing) เพื่อแสดงให้ต่างชาติเห็นถึงศักยภาพการเป็นผู้ผลิตของไทย” ผอ.สสว.กล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลยังได้ให้ สสว. หาวิธีเพื่อกระตุ้นการลงทุนของภาคเอกชนให้มากขึ้น พร้อมทั้งหาแหล่งเงินทุนเพื่อช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง หวังให้การลงทุนของภาคเอกชน ช่วยทำให้เศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวเร็วขึ้น โดยสสว. เตรียมออกนโนบายกระตุ้นการลงทุนในระยะสั้น คือ การเร่งเปิดศูนย์แสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศ (Outlet) ซึ่งจะนำร่องในกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีศักยภาพพร้อมแข่งขัน และมีการสร้างแบรนด์มาอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม แนวทางที่รัฐบาลมอบหมายมานั้นถือว่า เป็นในทิศทางเดียวกับแผนการพัฒนาเอสเอ็มอีของ สสว. ทำให้การปรับตัวให้สอดรับกับนโยบาย เพื่อจัดแผนปฏิบัติได้รวดเร็วขึ้น นอกจากนั้น การพัฒนาสินค้าโอทอป รัฐบาลเตรียมกลับมาใช้ชื่อคำเดิม คือ "หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์" อีกครั้ง หลังจากที่ผ่านมาได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า “ผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น” ส่วนรายละเอียดของนโยบายจะสรุปกันอีกครั้ง
