ลูกชิ้นอาหารจานโปรดของใครหลายๆ คน บ้านเรามีผู้ผลิตจำหน่ายลูกชิ้นอยู่เป็นจำนวนมาก สูตรลูกชิ้นของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป และตัวชูโรงที่ช่วยเสริมให้ลูกชิ้นอร่อยมากขึ้น ก็ต้องเป็นสูตรน้ำจิ้ม แต่สำหรับสูตรลูกชิ้นและน้ำจิ้ม ที่กล่าวถึงในวันนี้ มีความพิเศษที่ไม่ธรรมดา เพราะมีการนำน้ำจิ้มมาสอดไส้ลงในลูกชิ้น ลดขั้นตอนการในการจำหน่าย และรับประทานลูกชิ้น ผลงานนักศึกษาจากคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ทางมหาวิทยาลัยได้มีการคิดค้นสูตรลูกชิ้นสอดไส้ขึ้นมาเมื่อปี 2549 ที่ผ่านมา แต่เป็นการทำลูกชิ้นสอดไส้น้ำจิ้ม ออกมาปรากฎว่าได้รับความสนใจอย่างมาก เพราะด้วยรสชาติที่อร่อยไม่แพ้ลูกชิ้นที่ราดด้วยน้ำจิ้ม แต่เนื่องจากยังไม่ได้มีการผลิตเพื่อจำหน่ายอย่างจริงจัง นักศึกษาในรุ่นนั้น เรียนจบไปเสียก่อน นักศึกษาในรุ่นต่อมาจึงได้มีการนำลูกชิ้นสอดไส้มาพัฒนาต่อ เป็นลูกชิ้นสอดไส้รสต้มยำ และลูกชิ้นสอดไส้รสลาบ
โดยเจ้าของสูตรลูกชิ้นสอดไส้ในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย ของนายณัฏฐ์ ผาระนัด นางสาวมุนินทร์ สุวิมล นางสาวศรีมาลัย ลี้ธนภาส นายอำนาจ เกิดเขาน้อย นักศึกษาสาขาวิชาอาหารและโภชนาการ โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สิวลี ไทยถาวร และอาจารย์ อุจิตชญา จิตรวิมล โดยมีกานำแผนงานพิเศษลูกชิ้นสอดไส้น้ำจิ้ม ของนางสาวเมทินี คำเมือง ที่ได้คิดค้นร่วมกันกับอาจารย์สุชาดา งามประภาวัฒน์ มาพัฒนาต่อยอด และศึกษาแนวโน้มการตลาด
นายณัฎฐ์ เล่าว่า สำหรับลูกชิ้นสอดไส้รสต้มยำ และรสลาบ ทั้งสองสูตรได้มีการทดลองทำจนได้สูตรและขั้นตอนการทำที่ลงตัว โดยได้มีการทดสอบกับผู้ชิมกว่า 100 คน ปรากฎว่า ได้รับผลการตอบรับที่ค่อนข้างดี จึงได้ตัดสินใจทำออกจำหน่าย พร้อมกับได้ศึกษาแนวโน้มเรื่องการทำตลาด ในหลายช่องทาง แต่เนื่องจากเป็นการทำเพื่อการศึกษา เวลาสำหรับการทำงานและจำหน่ายเพียง 3 เดือน เลือกใช้การทำตลาดด้วยการออกงานแสดงสินค้าตามศูนย์การค้า และจำหน่ายในงานของมหาวิทยาลัย รวมทั้งได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ เพื่อแนะนำให้คนทั่วไป
ทั้งนี้ ผลตอบรับออกมาค่อนข้างดี โดยในส่วนแผนการเรียนทางมหาวิทยาลัยได้ตั้งเป้ายอดจำหน่ายไว้จำนวน 200 กล่อง ภายในระยะเวลาประมาณ 3 เดือน นักศึกษาใช้เวลาช่วงว่างจากการเรียน มาช่วยกันผลิตเพื่อจำหน่าย ซึ่ง ผลตอบรับดีเกินคาด เพราะในช่วงเวลาไม่ถึง 3 เดือนก็สามารถจำหน่ายได้กว่า 250 กล่อง เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้
ส่วนเหตุผลที่เลือกทำรสต้มยำและรสลาบ ประการแรกทั้งสองรสชาติเป็นรสชาติแบบไทย ประกอบกับได้มีการทำแบบสอบถาม ปรากฎว่า ทั้ง 2 รส เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคส่วนใหญ่ นอกจากนี้ เมื่อมองถึงในอนาคตถ้ามีการส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศ รสต้มยำ และลาบ ก็เป็นอาหารไทยที่ชาวต่างชาติรู้จักและคุ้นเคยในรสชาติเป็นอย่างดี ทำให้ไม่ต้อง
อย่างไรก็ตาม จุดประสงค์อีกประการหนึ่งที่ได้มีการศึกษาแนวโน้มการตลาด เพื่อให้ผู้ประกอบการด้านส่งออกอาหารนำไปต่อยอดในการส่งออกอาหารไทยไปต่างประเทศ เพราะลูกชิ้นสอดไส้ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการรับประทานและลดขั้นตอนในด้านการขนส่ง และการจำหน่ายได้เป็นอย่างดี
โดยลูกชิ้นสอดไส้ที่ได้ นำมา ปิง ต้ม และเวฟ ไม่สามารถนำไปทอดได้ เพราะไส้จะทะลักออกมา ราคาขายของลูกชิ้นสอดไส้อยู่ที่กล่องละ 35 บาท มี 12 ลูก ต้นทุนการทำลูกชิ้นอยู่ที่ประมาณ ลูกละ 1 บาท กว่า เกือบ 2 บาท รวมแพคเกจจิ้งแล้วต้นทุนการทำลูกชิ้นอยู่ที่ประมาณ 28 บาท สาเหตุที่ต้นทุนส่วนหนึ่งค่อนข้างสูงมาจากการเลือกใช้วัตถุดิบและต้นทุนของบรรจุภัณฑ์ซึ่งทำน้อยชิ้นต้นทุนต่อหน่วยจึงค่อนข้างสูง ทั้งนี้ เมื่อทำเป็นการค้าจริงลดต้นทุนดังกล่าวอาจจะลดลงมากว่านี้ และด้วยปัจจุบันราคาหมูวัตถุดิบหลักมีราคาเพิ่มขึ้นส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
สำหรับสูตรลูกชิ้นสอดไส้ เริ่มจากการทำลูกชิ้น ซึ่งเหมือนกับการทำลูกชิ้นทั่วไป แต่ในส่วนของการนำซอสมาใส่ลงส่วนผสมของลูกชิ้น เริ่มจากการนำส่วนผสมมาบีบให้เป็นลูกกลมขนาดพอคำแล้วนำซอสที่เตรียมไว้ใส่เข้าไปในลูกชิ้น ปาดลูกชิ้นลงในหม้อต้ม ซึ่งหม้อต้มนั้นให้เตรียมไว้ 2 หม้อ โดยหม้อแรกมีจุดประสงค์เพื่อทำให้ลูกชิ้นนั้นสุกจากข้างในก่อน ดังนั้นเมื่อใส่ลูกชิ้นลงไปแล้ว ให้สังเกตจนน้ำที่ต้มนั้นใส จึงนำลงใส่ในหม้อที่ 2 รอจนแน่ใจว่าลูกชิ้นสุกทั่วกันจึงนำขึ้นมาใส่ในน้ำเย็น โดยทั้งไส้รสต้มยำและรสลาบ มีขั้นตอนการทำเหมือนกัน
ผู้ที่สนใจทางมหาวิทยาลัยพร้อมที่จะเผยแพร่ความรู้และขั้นตอนการทำให้ทุกอย่าง โดยมีหนังสือที่กลุ่มนักศึกษาเจ้าของผลงานได้ทำขึ้น ซึ่งมีรายละเอียดในทุกขั้นตอนการผลิต และการเลือกวัตถุดิบ รวมถึงต้นทุน กำไรที่สามารถทำได้
สนใจ โทร.08-1255-5242
