ยำยำ ชี้ ครึ่งปีแรกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นราคา 1 บาท ตลาดหดตัว 10% ครึ่งปีหลังรับอานิสงส์เศรษฐกิจตกสะเก็ด ค่าครองชีพแพงหูฉี่ มั่นใจคนไทยแห่กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพิ่ม ฉวยตลาดขาขึ้น อัดงบกว่า 30 ล้านบาท ปั้นรสชาติใหม่ต้มยำ ทะเลหม้อไฟ หวังกินชิ้นเค้กใหญ่โกยแชร์ 10% ในตลาดตระกูลต้มยำ 5,000 ล้านบาท สิ้นปีกวาดแชร์เพิ่มจาก 22% เป็น 23%
นายซาโตรุ นาคามูระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท วันไทยอุตสาหกรรมการอาหาร จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรายำยำ เปิดเผยว่า จากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกยี่ห้อได้ปรับราคาขึ้น 20% หรือราว 1 บาท ส่งให้ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในช่วงต้นปีหดตัวลง 10% สำหรับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูยำยำยอดขายหดตัวลง 10% เช่นกัน ล่าสุด ในช่วงเดือนมิถุนายนอัตราการบริโภคเริ่มกลับคืนสู่ภาวะปกติ
ทั้งนี้ คาดว่า ตลาดบะหมึ่กึ่งสำเร็จรูปในช่วงครึ่งปีหลังจะมีอัตราการเติบโตมากขึ้น จากปัจจุบันคนไทยบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 35 ซองต่อคนต่อปี เมื่อเทียบกับญี่ปุ่น 55 ซองต่อคนต่อปี เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลง และค่าครองชีพที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยประมาณการณ์ปีนี้ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะมีอัตราการเติบโต 3-5% จากมูลค่า 10,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเติบโต 8%
ล่าสุด ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทได้ทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาท เปิดตัวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยำยำ จัมโบ้ ต้มยำทะเลหม้อไฟ ภายใต้คอนเซปต์ “เต็มรสต้มยำ หอมกลิ่นทะเลหม้อไฟ” ซีรีส์ 5 ในตระกูลรสชาติต้มยำ พร้อมกับปรับรูปโฉมใหม่ให้ดูทันสมัย และตอกย้ำด้วยการนำ “เป้ย-ปานวาด เหมมณี” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์อีกครั้ง เนื่องจากสามารถตอกย้ำบุคลิกแบรนด์ “เซ็กซี่ สไปซี่ นู้ดเดิ้ล” และสร้างความจดจำแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
นายนาคามูระ กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา ยำยำ จัมโบ้ มีอัตราการเติบโตถึง 50% ในขณะที่ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำ 5,000 ล้านบาท เติบโต 20% สำหรับรสชาติต้มยำหม้อไฟถูกพัฒนาขึ้นจากความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการบะหมึ่กึ่งสำเร็จรูปเหมือนรสชาติจริง และเมนูใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยในครึ่งปีหลังบริษัทยังเตรียมเปิดตัวรสชาติใหม่ แต่ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์การตลาดด้วย
“ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต้มยำมีขนาดใหญ่คิดเป็น 50% หรือราว 5,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้ในตระกูลยำยำ จัมโบ้ สัดส่วน 60% ส่วนอีก 30% รสหมูสับ และอื่นๆ 10% ดังนั้น จึงต้องโฟกัสในรสชาตินี้ ซึ่งเรามีถึง 5 รสชาติ และจากการเปิดตัวรสชาติใหม่จะผลักดันให้ยำยำ มีส่วนแบ่ง 7% เป็น 10% ในตระกูลต้มยำ”
นายนาคามูระ กล่าวว่า นโยบายการตลาดบริษัทยังคงโฟกัส กลุ่ม ยำยำ จัมโบ้ และ ยำยำ ช้างน้อย เป็นหลัก ล่าสุด บริษัทได้ส่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปช้างน้อย ซุป เนื่องจากต้องการสร้างพฤติกรรมการกินบะหมึ่กึ่งสำเร็จรูปจากสแนกเป็นอาหาร เพื่อสร้างฐานลูกค้า ยำยำ จัมโบ้ ในอนาคต
ส่วนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดถ้วยและชามยังไม่มุ่งเน้นมากนัก แม้ว่าจะเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีอัตราการเติบโตที่ดี แต่ตลาดยังเล็กโดยบรรจุภัณฑ์สัดส่วน 5 % และชามไม่ถึง 1% ของตลาดรวม ขณะที่ชนิดซอง 95% เมื่อเทียบกับในญี่ปุ่นตลาดถ้วยและชามมีสัดส่วนถึง 60% ส่วนอีก 40% เป็นชนิดซอง
ทั้งนี้ หลังจากดำเนินการตลาดในเชิงรุกตั้งเป้าบะหมึ่กึ่งสำเร็จรูปยำยำ จัมโบ้ มีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 22% เป็น 23% ส่วนผู้นำตลาดมาม่าครองส่วนแบ่ง 50% ไวไว 25-26%
นายซาโตรุ นาคามูระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท วันไทยอุตสาหกรรมการอาหาร จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรายำยำ เปิดเผยว่า จากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกยี่ห้อได้ปรับราคาขึ้น 20% หรือราว 1 บาท ส่งให้ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในช่วงต้นปีหดตัวลง 10% สำหรับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูยำยำยอดขายหดตัวลง 10% เช่นกัน ล่าสุด ในช่วงเดือนมิถุนายนอัตราการบริโภคเริ่มกลับคืนสู่ภาวะปกติ
ทั้งนี้ คาดว่า ตลาดบะหมึ่กึ่งสำเร็จรูปในช่วงครึ่งปีหลังจะมีอัตราการเติบโตมากขึ้น จากปัจจุบันคนไทยบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 35 ซองต่อคนต่อปี เมื่อเทียบกับญี่ปุ่น 55 ซองต่อคนต่อปี เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลง และค่าครองชีพที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยประมาณการณ์ปีนี้ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะมีอัตราการเติบโต 3-5% จากมูลค่า 10,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเติบโต 8%
ล่าสุด ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทได้ทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาท เปิดตัวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยำยำ จัมโบ้ ต้มยำทะเลหม้อไฟ ภายใต้คอนเซปต์ “เต็มรสต้มยำ หอมกลิ่นทะเลหม้อไฟ” ซีรีส์ 5 ในตระกูลรสชาติต้มยำ พร้อมกับปรับรูปโฉมใหม่ให้ดูทันสมัย และตอกย้ำด้วยการนำ “เป้ย-ปานวาด เหมมณี” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์อีกครั้ง เนื่องจากสามารถตอกย้ำบุคลิกแบรนด์ “เซ็กซี่ สไปซี่ นู้ดเดิ้ล” และสร้างความจดจำแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
นายนาคามูระ กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา ยำยำ จัมโบ้ มีอัตราการเติบโตถึง 50% ในขณะที่ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำ 5,000 ล้านบาท เติบโต 20% สำหรับรสชาติต้มยำหม้อไฟถูกพัฒนาขึ้นจากความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการบะหมึ่กึ่งสำเร็จรูปเหมือนรสชาติจริง และเมนูใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยในครึ่งปีหลังบริษัทยังเตรียมเปิดตัวรสชาติใหม่ แต่ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์การตลาดด้วย
“ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต้มยำมีขนาดใหญ่คิดเป็น 50% หรือราว 5,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้ในตระกูลยำยำ จัมโบ้ สัดส่วน 60% ส่วนอีก 30% รสหมูสับ และอื่นๆ 10% ดังนั้น จึงต้องโฟกัสในรสชาตินี้ ซึ่งเรามีถึง 5 รสชาติ และจากการเปิดตัวรสชาติใหม่จะผลักดันให้ยำยำ มีส่วนแบ่ง 7% เป็น 10% ในตระกูลต้มยำ”
นายนาคามูระ กล่าวว่า นโยบายการตลาดบริษัทยังคงโฟกัส กลุ่ม ยำยำ จัมโบ้ และ ยำยำ ช้างน้อย เป็นหลัก ล่าสุด บริษัทได้ส่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปช้างน้อย ซุป เนื่องจากต้องการสร้างพฤติกรรมการกินบะหมึ่กึ่งสำเร็จรูปจากสแนกเป็นอาหาร เพื่อสร้างฐานลูกค้า ยำยำ จัมโบ้ ในอนาคต
ส่วนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดถ้วยและชามยังไม่มุ่งเน้นมากนัก แม้ว่าจะเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีอัตราการเติบโตที่ดี แต่ตลาดยังเล็กโดยบรรจุภัณฑ์สัดส่วน 5 % และชามไม่ถึง 1% ของตลาดรวม ขณะที่ชนิดซอง 95% เมื่อเทียบกับในญี่ปุ่นตลาดถ้วยและชามมีสัดส่วนถึง 60% ส่วนอีก 40% เป็นชนิดซอง
ทั้งนี้ หลังจากดำเนินการตลาดในเชิงรุกตั้งเป้าบะหมึ่กึ่งสำเร็จรูปยำยำ จัมโบ้ มีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 22% เป็น 23% ส่วนผู้นำตลาดมาม่าครองส่วนแบ่ง 50% ไวไว 25-26%