ในยุคที่เทคโนโลยีและโลกออนไลน์เข้ามาครองทุกอาชีพ เส้นทางการทำเกษตรกลับยังคงเป็นอีกหนึ่งความใฝ่ฝันของคนรุ่นใหม่ แม้ใครหลายคนยังมองว่าเป็นอาชีพที่ยึดวิถีแบบเดิม ๆ แต่ความจริงแล้ว “เกษตรยุคใหม่” นั้น เต็มไปด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และโอกาสสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่มีภูมิประเทศอุดมสมบูรณ์ เหมาะต่อการเพาะปลูก เมื่อผนวกกับเครื่องมือสมัยใหม่ที่เข้ามายกระดับการทำงานให้แม่นยำยิ่งขึ้น ก็ยิ่งทำให้การเกษตรเป็นอาชีพที่น่าสนใจยิ่งกว่าเดิม และนี่เองคือเหตุผลที่ KUBOTA Smart Farmer Camp 2025 ถูกจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นพื้นที่ที่ช่วยปลุกแรงบันดาลใจและเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ก้าวสู่การเป็น “สมาร์ตฟาร์มเมอร์” ที่สามารถสร้างอนาคตด้วยวิถีเกษตรแบบตัวเอง
นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เผยว่า KUBOTA Smart Farmer Camp ดำเนินการต่อเนื่องมากว่า 1 ทศวรรษ เพื่อเปิดพื้นที่การเรียนรู้นอกห้องเรียนให้เยาวชนทั่วประเทศได้สัมผัสโลกเกษตรยุคใหม่อย่างรอบด้าน ผ่านการลงมือปฏิบัติจริง การเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ การใช้เทคโนโลยีควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และผสานเป้าหมาย SDGs ได้แก่ ความมั่นคงทางอาหาร การศึกษาของเยาวชน ความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม และการรักษาสิ่งแวดล้อมเข้าไว้ในทุกกิจกรรม แต่ละปีค่ายนี้มีรูปแบบและธีมการเรียนรู้แตกต่างกัน เพื่อให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของภาคเกษตรกรรม ผลลัพธ์ที่ได้คือสามารถสร้างเยาวชนที่มีทักษะด้านการเกษตรมาแล้วกว่า 1,000 คน พร้อมส่งต่อองค์ความรู้กลับสู่ชุมชนอย่างไม่รู้จบ
โดยปีนี้การดำเนินแคมเปญมาในธีม Green Agri-Verse เกษตรอัจฉริยะ ปลูกให้ปัง ดังทุกเวิร์ส คัดเลือกเยาวชน 60 คนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศมารวมพลังกัน ณ ศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า - ห้วยตาดข่า จ.อุดรธานี เป็นเวลา 4 วัน โดยเปิดพื้นที่เรียนรู้ครบวงจรที่เชื่อม ‘ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ’ ของการเกษตรไว้ด้วยกัน เปรียบเหมือนห้องแห่งการเรียนรู้ที่ไม่มีเพดาน มีท้องฟ้าเป็นหลังคา
มีกระดานดำคือ "นาข้าว" รวมถึงแปลงดอกไม้ กิจกรรมโรงเลี้ยงโคนม และโรงแปรรูปผลผลิตที่ถูกออกแบบให้ลงมือทำจริง เด็ก ๆ ได้ลองทุกบทบาท ตั้งแต่ขับรถดำนาติด GPS การใช้โดรนพ่นสารอัจฉริยะหรือแม้แต่คนที่บ้านไม่เคยทำนา ก็ได้ปักต้นกล้าครั้งแรกในชีวิต และอีกหนึ่งความพิเศษของปีนี้ คือการดึงอินฟลูเอนเซอร์เจน Z ยุคใหม่หัวใจเกษตรร่วมเป็นเมนเทอร์ เช่น โอวา ธนาวัฒน์ จันนิม ข้าวสุรินทร์เเท้ 100% อภิสิทธิ์ มะพันธ์ ผู้ปลูกมันสำปะหลัง รวมทั้ง “น้องเจนทำฟาร์ม” มาร่วมเป็นวิทยากร ถ่ายทอดประสบการณ์และองค์ความรู้ด้านเกษตรออแกนิคและการเกษตรฟื้นฟูให้กับน้อง ๆ ในแคมป์ ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและขยายผลการเรียนรู้สู่คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
“ตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เราเชื่อว่าคนรุ่นใหม่คือกำลังสำคัญในการยกระดับเกษตรไทยสู่เกษตรมูลค่าสูงที่ไม่เพียงตอบโจทย์ความต้องการในประเทศ แต่ยังสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ปัจจุบันการเกษตรสมัยใหม่ไม่ใช่แค่อาชีพ แต่เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้มหาศาล หากใช้ความรู้ เทคโนโลยี และการจัดการที่ดี เกษตรกรสามารถเพิ่มมูลค่าสินค้า และเข้าถึงตลาดต่างประเทศได้”
นางวราภรณ์ เสริมข้อมูลว่า แนวโน้มเกษตรโลกกำลังเคลื่อนไปสู่ การเกษตรแม่นยำ (Precision Agriculture) และ การเกษตรยั่งยืน (Sustainable Agriculture) ซึ่งต้องการแรงงานรุ่นใหม่ที่มีทักษะรอบด้าน ทั้งการผลิต การจัดการข้อมูล การใช้เทคโนโลยี และการตลาดเชิงสร้างสรรค์ เพื่อเจาะตลาดเฉพาะ หรือ Niche Market ที่มีศักยภาพสูง โดยสยามคูโบต้ายังคงเชื่อว่านี่คือ “โอกาสทอง” ของประเทศไทยที่จะใช้จุดแข็งด้านภูมิประเทศและความอุดมสมบูรณ์ ควบคู่กับเทคโนโลยีสมัยใหม่ มุ่งสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ที่พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการยกระดับเกษตรไทยให้ก้าวสู่เวทีโลก
กิจกรรมใน “KUBOTA Smart Farmer Camp 2025” คือบางส่วนของเรื่องราวที่ทำให้เห็นว่า เส้นทางสู่โลกเกษตรนั้นเริ่มได้จากหลากมุม โดยตัวแทนจากภาคเหนืออย่าง นางสาวณัฐวดี ร้องหาญแก้ว นักศึกษาคณะการสื่อสารมวลชน สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า เมื่อได้เข้าร่วม KUBOTA Smart Farmer Camp 2025” ตนได้สัมผัสเทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่เป็นครั้งแรก ตั้งแต่การขับรถดำนาติด GPS ที่ช่วยวางแผนการปลูกได้แม่นยำ การทดลองพ่นสารด้วยโดรนอัจฉริยะ ไปจนถึงการเรียนรู้ระบบการผลิตที่ลดการใช้สารเคมี “ตอนขับรถดำนา GPS ครั้งแรก เหมือนได้เห็นอนาคตของเกษตรที่ง่ายและแม่นยำกว่าที่เคยคิดไว้เยอะมาก รู้สึกว่าคนรุ่นใหม่ถ้าได้ใช้เทคโนโลยีพวกนี้ จะทำให้เกษตรไม่ใช่งานหนักแบบเดิม แต่เป็นงานที่วางแผนได้ มีประสิทธิภาพ และต่อยอดธุรกิจได้หลากหลาย
นายธนัทชัย สิเนหะวัฒนะ นักศึกษาคณะการตลาด จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตัวแทนจากภาคกลาง ที่เติบโตในครอบครัวที่ไม่เคยจับจอบเสียม แต่กลับค้นพบ “แรงดึงดูด” และเข้าสู่วงการนี้อย่างไม่คาดคิดในช่วงฝึกงานกับบริษัทด้านการเกษตร ทำให้เขาเห็นศักยภาพของผลผลิตไทยว่ามีคุณภาพดีพอจะขึ้นห้างได้ทัดเทียมสินค้านำเข้า แต่กลับขาดการเล่าเรื่องและการสร้างมูลค่าที่เหมาะสม ประสบการณ์ครั้งนั้นจุดประกายให้เขาเริ่มศึกษาการเกษตรจริงจัง และเชื่อมั่นว่าหากผนวกความรู้ด้านการตลาดเข้ากับเกษตรสมัยใหม่ จะสร้างแบรนด์ ยกระดับตลาด และเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรได้จริง
นายธนัทชัย ยังเล่าอีกว่า สำหรับตนแล้ว การเกษตรไม่ใช่อาชีพที่สืบทอดเพียงอย่างเดียวแล้ว แต่เป็นเหมือน “Agri-Startup” ที่ไม่ใช่แค่ปลูกพืช แต่ปลูกโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจด้วย การเกษตรยุคนี้ใช้เทคโนโลยีและข้อมูลเป็นหัวใจสำคัญ พอเอามาจับคู่กับการตลาดที่เข้าใจผู้บริโภค มันจะกลายเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ ที่ทั้งปลูกได้และขายได้จริง ผมเชื่อว่าคนรุ่นใหม่คือฟันเฟืองสำคัญ ที่จะทำให้เกษตรกรไทยไม่หยุดอยู่แค่ขายผลผลิตดิบ แต่ต่อยอดเป็นแบรนด์ ส่งออก และไปแข่งขันในเวทีโลกได้
นายศรยุทธ ภูมิสายดร นักศึกษาสาขาพืชสวน คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ภาคอีสาน จากอดีตเด็กติดเกมที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่ในช่วงโควิดกลับได้ลองเลี้ยงแคคตัสและไม้ประดับเพื่อฆ่าเวลา ความสนใจเล็ก ๆ นี้ค่อย ๆ เติบโตเป็นความหลงใหล จนกลายเป็นแรงผลักดันให้เขาก้าวเข้าสู่รั้วคณะเกษตรอย่างเต็มตัว
เมื่อได้เรียนลึกขึ้นได้เห็นชัดว่า จิ๊กซอว์ที่เกษตรกรรุ่นเก่ายังขาดคือ เทคโนโลยี เขาเล่าว่าที่บ้านต้องเผชิญกับละอองสารเคมีทุกครั้งที่ทำไร่ เสี่ยงต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิต แต่หากมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ก็สามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มคุณภาพผลผลิตได้อย่างสม่ำเสมอ จุดหักเหสำคัญคือการได้เข้าร่วม “KUBOTA Smart Farmer Camp 2025” ที่เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ ฟลุ๊คได้สัมผัสเทคโนโลยีที่เคยเห็นแค่ในข่าว ทั้งระบบออโตเมชัน โดรน ไปจนถึงเครื่องมือวิเคราะห์ดิน น้ำ และอากาศ
อีกสิ่งที่สะท้อนให้เห็นคือ เทคโนโลยีไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสำหรับเกษตรกรรุ่นใหม่เพียงเท่านั้น แต่ยังช่วยเกษตรกรรุ่นเก่าลดความเสี่ยงจากสารเคมีและเพิ่มความแม่นยำในการทำเกษตร ขณะเดียวกันก็ทำให้เกษตรกรรุ่นใหม่สนุกกับการทำงานราวกับเล่นเกม เทคโนโลยีจึงกลายเป็น “ตัวกลาง” ที่เชื่อมสองเจเนอเรชันให้เดินหน้าร่วมกันบนเส้นทาง Smart Farming ซึ่งเป็นทิศทางสำคัญของโลกในยุคนี้
นายกิตติพงศ์ ชัยชะนะ คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา ภาคใต้ ผู้เติบโตมากับภาพคุ้นตาของสวนยางพาราและพืชเศรษฐกิจในครอบครัวที่ยังใช้วิธีการเกษตรแบบดั้งเดิม พึ่งพาแรงงานคนและประสบการณ์มากกว่าข้อมูลหรือเทคโนโลยี ซึ่งปิง เผยถึงมุมมองของตนว่า ยังเคารพภูมิปัญญารุ่นคุณพ่อคุณแม่ แต่ก็อยากให้ที่บ้านกล้าลองใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ จึงตั้งเป้าในการเรียนต่อด้านเกษตร เพื่อจะได้กลับไปต่อยอดการทำหมอนยางพาราจากวัตถุดิบที่บ้านเกิดของตนเอง
KUBOTA Smart Farmer Camp 2025 ไม่ได้เป็นเพียงค่ายเรียนรู้นอกห้องเรียน แต่คือเวทีบ่มเพาะพลังคนรุ่นใหม่ให้ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของประเทศในการขับเคลื่อนการเกษตรไทยสู่อนาคต เส้นทางที่เริ่มต้นจากค่ายเล็ก ๆ แห่งนี้ จะเป็นจุดประกายสำคัญในการสร้าง “Smart Farmer” ที่มีความรู้ มีวิสัยทัศน์ และต่อยอดสู่การสร้าง Agri Influencer รุ่นใหม่ ที่พร้อมจะถ่ายทอดเรื่องราว สร้างแรงบันดาลใจ และผลักดันภาพลักษณ์ใหม่ของภาคเกษตรไทยให้สังคมเห็นว่า อาชีพเกษตรกรไม่ใช่เพียงทางเลือก แต่คืออนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน