สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) นำตัวอย่างผลงานวิจัยและนวัตกรรมพร้อมใช้ภายใต้การสนับสนุนของกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมมาส่งถึงมือประชาชน ในงาน “อว.แฟร์ 2025” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 17 สิงหาคม 2568 ณ บูธ D1 โซน D: VALLEY OF GROWTH ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
งานนี้ สกสว. มาพร้อมแนวคิด “UNIVERSE OF SRI: จักรวาลแห่งวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม” มุ่งเน้นขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม พร้อมเปิดมุมมองใหม่ของเทคโนโลยี วัฒนธรรม และนวัตกรรมไทย โดยจัดแสดงใน 3 โซนนิทรรศการหลัก ได้แก่ Rice for The Future, Silk to Star และ Smart Living Hub ซึ่งเป็นผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อสร้างรากฐานทางความรู้และความเข้มแข็งในวิทยาการด้านต่าง ๆ อันเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ
ไฮไลต์นวัตกรรมเด่นที่พร้อมใช้งานจริง
• ผ้าไหมและเส้นไหมจากกราฟีน ผลงานวิจัยจากความร่วมมือของกรมหม่อนไหม และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่ใช้กราฟีน (Graphene) ในการย้อมเส้นไหมและผ้าไหม ทำให้ได้คุณสมบัติพิเศษจาก 2 เทคนิค คือ เทคนิค Reduced Graphene Oxide (RGO) ทำให้ผ้าไหมเย็น และเทคนิค Graphene Oxide (GO) ที่ทำให้ผ้าไหมอุ่น ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผลิตภัณฑ์เครื่องนุ่งห่มจากผ้าไหมให้มีคุณสมบัติเฉพาะตัว
• ระบบเฝ้าระวังคุณภาพอากาศ DustBoy และ DustGirl ผลงานของทีมวิจัยจาก ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (CMU CCDC) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำโดย รศ.ดร.เศรษฐ์ สัมภัตตะกูล ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดย DustBoy เป็นแพลตฟอร์มเครือข่ายเซนเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ที่ติดตั้งทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูล PM2.5 ได้อย่างง่ายผ่านฐานข้อมูลแบบเปิด (Open Data) และยังได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ปี 2567 และรางวัลระดับสากลอีกหลายรางวัล ในส่วนของ DustGirl เป็นระบบห้องลดฝุ่นแรงดันบวกอัจฉริยะที่ใช้ IoT ในการควบคุมการทำงานของเครื่องเติมอากาศอย่างอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายอากาศและสนับสนุนการรับมือปัญหา PM2.5 อย่างยั่งยืน
• สีฟางข้าว นวัตกรรมจากวิสาหกิจชุมชนแฮปปี้ฟาร์ม ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ที่ได้นำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ได้แก่ ฟางข้าว มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยพัฒนาจนได้เป็น “สีฟางข้าว” ได้ถึง 16 เฉดสี ซึ่งมาจากฟางข้าวหลากหลายสายพันธุ์และหลายช่วงอายุ อีกทั้งมีส่วนผสมจากยางไม้และน้ำมันพืชจากธรรมชาติ ทำให้สีมีความคงทนมากขึ้น สามารถนำมาทำสีย้อมผ้า สีวาดรูปทั้งแบบสีน้ำหรือสีอะคริริก สีผสมอาหาร สีทาบ้าน ทดแทนสีเคมี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และปลอดภัยต่อการสัมผัสและสูดดม
กิจกรรมในงาน อว.แฟร์ 2025 จึงเป็นโอกาสสำคัญสำหรับนักวิชาการ นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ในการศึกษาและทำความเข้าใจถึงบทบาทของวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเพจ Facebook: สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)