ร้านข้าวเหนียวหมูหวานเฮียวัตรปังตอทอง จ.นครปฐม ประเดิมใช้ “รถเข็นรักษ์โลก” คันแรกในโครงการนวัตกรรมเพื่อผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดเพื่อผู้ของ สวทช. ชูจัดเด่นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รถเข็นน้ำหนักเบาพร้อมระบบน้ำดี ถังบำบัด และซิงค์น้ำ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์บริการปรึกษาการออกแบบและวิศวกรรม (DECC) ส่งมอบรถเข็นรักษ์โลกคันแรกในโครงการพัฒนา “นวัตกรรมรถเข็นรักษ์โลกเพื่อสตรีทฟู้ด” ให้แก่ผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดร้านข้าวเหนียวหมูหวานเฮียวัตรปังตอทอง จ.นครปฐม เมื่อกลางเดือน พ.ค. 63 หลังจากที่ได้เปิดตัวไปเมื่อกลางเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา
สำหรับรถเข็นรักษ์โลกที่ส่งมอบให้แก่ นายวิวัฒน์ กุลวิจิตร์รัตน์ เจ้าของกิจการข้าวเหนียวหมูหวานฯ จำนวน 2 คัน เป็นรถเข็นโมเดลรูปแบบ 1 ที่เป็นรถเข็นน้ำหนักเบาพร้อมระบบน้ำดี ถังบำบัด และซิงค์น้ำ จำนวน 2 คัน ซึ่ง DECC สวทช. ได้พัฒนาขึ้นให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยยกระดับมาตรฐานคุณภาพและความสะอาดปลอดภัยของอาหารสตรีทฟู้ด ตอบโจทย์คำว่า “รักษ์โลก” และ “เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” โดยนางกุลประภา นาวานุเคราะห์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช.ระบุว่า พร้อมเปิดโอกาสแก่ผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดรายอื่นๆ สามารถจับจองเป็นเจ้าของรถเข็นรักษ์โลกได้จนถึง 30 มิ.ย. 63 นี้
ทางด้าน ดร.อัมพร โพธิ์ใย ผู้อำนวยการศูนย์บริการปรึกษาการออกแบบและวิศวกรรม (DECC) สวทช. กล่าวว่า สวทช. พัฒนานวัตกรรมรถเข็นรักษ์โลกเพื่อสตรีทฟู้ด ด้วยจุดริเริ่มและคิดค้นหาทางยกระดับสตรีทฟู้ดไทยให้ก้าวไกลขึ้นด้วยการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เข้ามาช่วยยกระดับมาตรฐานทั้งด้านคุณภาพ ความปลอดภัยในการบริโภคอาหาร สุขอนามัย ความสะอาดของร้านและผู้ปรุงอาหาร คุณภาพของการให้บริการ และความอร่อย เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากเข้าสู่ยุคประเทศไทย 4.0
“เราออกแบบและพัฒนารถเข็นและอุปกรณ์ภายในร้านให้มีความสะอาดปลอดภัย ลดการสร้างมลพิษหรือขยะของเสีย ลดน้ำหนักรถเข็นให้เบาที่สุด พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการดูดควันให้สามารถใช้งานในพื้นที่ปิดได้ และปรับปรุงระบบบำบัดน้ำให้ทำงานได้อย่างงมีประสิทธิภาพมากขึ้น จนเกิดเป็นนวัตกรรมรถเข็นรักษ์โลกในเวอร์ชั่นที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำเร็จแล้วในวันนี้”
นอกจากนี้ DECC สวทช. ยังมีแผนส่งมอบรถเข็นให้กับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่สั่งจองไว้แล้วกว่า 30 คัน ซึ่งมีทั้งโมเดลรูปแบบ 1, 2 และ 3 แก่ผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดที่สั่งจองมาจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งมีหลากหลายประเภทอาหาร ทั้งอาหารปิ้ง ย่าง ทอด เครื่องดื่ม และอาหารตามสั่ง โดยมีเป้าหมายส่งมอบรถเข็นฯ จำนวนไม่น้อยกว่า 100 คัน ภายในปีนี้
ทว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบโดยตรงกับการดำเนินกิจการของผู้ค้าสตรีทฟู้ด รวมทั้งกิจการร้านอาหารในรูปแบบอื่นๆ ร้านค้าส่วนใหญ่ไม่สามารถเปิดขายได้ตามมาตรการของรัฐบาลที่ต้องควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจถดถอยและฟื้นตัวได้ช้าเช่นนี้ย่อมกระทบกับรายได้ของผู้ประกอบการร้านอาหารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทางโครงการฯ จึงได้ปรับแผนขยายระยะเวลาเปิดรับสมัครผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดเข้าร่วมโครงการ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563
“หลังจากมาตรการผ่อนปรนระยะแรกที่จะเปิดให้กิจการร้านจำหน่ายอาหาร ขนาดไม่เกิน 2 คูหา ได้แก่ ร้านอาหารนอกห้าง ร้านอาหารริมทาง และร้านอาหารหาบเร่ กลับมาเปิดได้อีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สถานการณ์ของร้านอาหารริมทางจะเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และสิ่งที่จะทำให้ร้านอาหารสามารถอยู่รอดได้ในระยะยาว ควรจะต้องมีความยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพในการปรับตัวต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะการให้ความสำคัญในเรื่องการดูแลสุขอนามัยของตัวเองและคนรอบข้าง การประกอบการอาหารที่สะอาด ปลอดภัย ถูกสุขลักษณะจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในสถานการณ์เช่นนี้” ดร.อัมพรระบุ
ด้าน นายวิวัฒน์ กุลวิจิตร์รัตน์ เจ้าของกิจการข้าวเหนียวหมูหวาน เฮียวัตรปังตอทอง กล่าวว่า หลังจากที่ได้ทดลองใช้งานรถเข็นรักษ์โลกเพื่อสตรีทฟู้ดแล้ว พบว่าการใช้งานง่าย สะดวก และสะอาด ที่สำคัญเหมาะกับช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 เป็นอย่างมาก เพราะตัวรถมีการออกแบบที่ตอบโจทย์การใช้งาน มีอ่างล้างมือ ถังเก็บน้ำ และบ่อดักไขมัน ซึ่งหาไม่ได้ในรถเข็นสตรีทฟู้ดทั่วไป ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่นำไปใช้ขายของจริงๆ เพราะการขายอาหารข้างทางที่ถูกสุขอนามัย จะทำให้ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ สวทช. เปิดรับผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดที่สนใจ “รถเข็นนวัตกรรมรักษ์โลก” โดยมีรูปแบบรถเข็นด้วยกัน 3 แบบ คือ รถเข็นน้ำหนักเบาพร้อมระบบน้ำดี ถังบำบัดและซิงค์น้ำ และระบบที่เพิ่มเติมระบบดูดควัน ตลอดจนระบบที่เพิ่มเติมหัวเตาแก๊ส 2 หัว สนใจสั่งจองออนไลน์ได้ที่ http://www.decc.or.th/streetfood/ ภายใน 30 มิ.ย. 63 นี้ หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 2564 6310-11 ต่อ 101, 106 แอดไลน์ไอดี @679hqbmi