พาท่อง “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ปูทางโลกสีเขียวรับวันเด็ก เรียนรู้โมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ที่ใส่ใจโลกและรู้ใช้ทรัพยากรให้มีคุณค่าสูงสุด พร้อมจำลองบทบาทเป็นซูเปอร์ฮีโร่ช่วยโลกให้สะอาด ปลอดมลภาวะ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม และมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ จัดงาน “ถนนสายวิทยาศาสตร์” รับวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2563 ภายใต้แนวคิด “นักวิทย์น้อยเพื่อโลกสีเขียว” ระหว่างวันที่ 9-11 มกราคม 2563
ภายในงาน มีการจัดบูธและกิจกรรมต่างๆ เด็กๆ จะได้เรียนรู้ และสัมผัสประสบการณ์ทดลองจริง รวมถึงฝึกสมองต่อยอดความคิดและจินตนาการ ผ่าน 30 กิจกรรม จาก 25 สถานี เช่น การเรียนรู้ภูมิปัญญาไทยผ่านกิจกรรม fresh herb เปลี่ยนสมุนไพรในครัวเรือนให้กลายเป็นยาดมหอมสดชื่น การใช้จินตนาการและความรู้สร้างสรรค์รถที่สามารถวิ่งได้จริงบนรางที่ประกอบขึ้นมา สนุกกับการเพ้นท์ถุงผ้าเพื่อลดโลกร้อน และเรียนรู้วิธีการสั่งงานหุ่นยนต์ ด้วยการฝึกเขียนโค้ดโดยไม่ใช้คอมพิวเตอร์
งานถนนสายวิทยาศาสตร์นี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9–11 มกราคม 2563 ตั้งแต่ เวลา 9.00-17.00 น. อีกทั้งมีการจัดนิทรรศการ BCG นวัตกรรมสีเขียว (Greenovation With BCG) เป็นนิทรรศการว่าด้วยโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ โดยเน้นการใช้เศรษฐกิจชีวภาพอย่างคุ้มค่า ในด้านการเกษตร อาหาร พลังงาน เคมีชีวภาพ การแพทย์ สุขภาพ และการท่องเที่ยวโดยมีเป้าหมายให้เศรษฐกิจไทย ก้าวหน้า มั่นคง และยั่งยืน
สำหรับทีมข่าววิทยาศาสตร์ได้ร่วมสังเกตกิจกรรมตามสถานีต่างๆ ดังนี้
เริ่มจาก “สถานี IT Mission” ที่น้องๆ จะได้สนุกไปกับการเขียนโค้ดแบบไม่ใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกทักษะการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น ภายใต้เงื่อนไขและเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับบีซีจีโมเดล (BCG Model) พร้อมพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการที่ช่วยสร้างทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เช่น กิจกรรม The Mission of BCG และ กิจกรรม BCG Games
สถานีสีเขียว
มาถึง “สถานีสีเขียว” โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ซึ่งชวนเด็กไทย ร่วมใจ รักษ์โลกกิจกรรม นำเสนอองค์ความรู้และกิจกรรมตามนโยบาย BCG ประกอบด้วย 2 ฐานกิจกรรมการเรียนรู้ คือ ฐานที่ 1 เรียนรู้ BCG Model กับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย นำเสนอในรูปแบบอินโฟกราฟิก มีเนื้อหาเข้าใจง่ายและน่าสนใจ ประกอบด้วย 1.Circular Economy...เศรษฐกิจกิจหมุนเวียน 2.เทคโนโลยี ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (การจัดการขยะชุมชนอย่างครบวงจร การเพิ่มมูลค่าทรัพยากรให้เกิดความคุ้มค่า และยั่งยืน ลดขยะหรือของเสียเหลือศูนย์) 3.ตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม วว. ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนส่วน ฐานที่ 2 มีกิจกรรมเกมสันทนาการ ได้แก่ 1.เรียนรู้สร้างสรรค์ "แยกขยะ" ด้วยมือหนู 2.ระบายสีกันเถอะ 3.รักษ์โลก รักษ์เรา ร่วมกันแยกขยะ
ทีมข่าววิทยาศาสตร์ยังได้สำรวจกิจกรรมจากศูนย์พัฒนาอาชีพคนตาบอด ซึ่งมีของเล่นต่างๆ ที่ผลิตจากไม้เพื่อใช้ฝึกทักษะการใช้สมาธิของผู้เล่น เกมตีกอล์ฟ เกมต่อคอนโด เกมชูตบาส เกมยิงบอล เกมนับเลข
ต่อมาที่สถานี Green At Heart มีกิจกรรมออกแบบกระถามต้นไม้ใบเดียวในโลก จากวัสดุเหลือใช้ และกิจกรรมปลูกต้นไม้จากเมล็ดพันธุ์พืชออร์แกนิค (Organic) โดยน้องๆ จะได้สนุกกับกิจกรรมตั้งแต่ 1.การเลือกเมล็ดพันธุ์ด้วยตนเอง โดยเมล็ดพันธุ์ที่นำมาให้น้องๆ ปลูก จะเป็นเมล็ดพันธุ์พืชออร์แกนิค ที่ไม่มีสารเคมี ปลอดภัย ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม
กิจกรรมที่ 2.ทำความรู้จักและเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ในการปลูกต้นไม้ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อย่างกระถางดินเผา ที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และ3.กิจกรรมออกแบบสร้างสรรค์กระถางต้นไม้ใบเดียวในโลกด้วยตัวเอง ได้รู้จักคุณค่าของการนำวัสดุเหลือใช้กลับมาใช้ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเศษกระดุม ลูกปัด เศษผ้าหรือเศษผ้าจากเสื้อตัวเก่าๆ เศษเชือกต่างๆ ที่ให้น้องๆ นำมาตกแต่งกระถางตามจินตนาการของตนเอง
จากนั้นทีมข่าวยังได้เข้าร่วมกิจกรรม STEAM4INNOVATOR : Super Egg ไข่ เสกได้ การสร้างเศรษฐกิจบนฐานชีวภาพ ด้วยการสร้างคุณค่าใหม่ให้กับ "ข.ไข่ ในเล้า" ด้วยกระบวนการ STEAM4INNOVATOR ใส่นวัตกรรมเพิ่มมูลค่าให้สินค้าเกษตรไทย
พิพิธภัณฑ์แร่-หิน กรุงเทพมหานคร เป็นอีกหนึ่งสถานีที่จะเรียนรู้ผ่านนิทรรศการต่าง และมีนิทรรศการใหม่เกี่ยวกับทรัพยากรสัญลักษณ์ 77 จังหวัด นิทรรศการตัวอย่าง หิน และซากดึกดำบรรพ์ ตามธรณีกาล พร้อมสนุกกับกิจกรรมบิงโกจีโอพาร์ค กิจกรรมตัดแผงตัวอย่างแร่และหิน กิจกรรมล้วงไข่หรรษา และกิจกรรมท่องโซเชียลเที่ยวมิวเซียม
นอกจากนี้น้องๆ จะได้สวบทบาทเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่จะมาช่วยกันเปลี่ยนโลกให้สะอาด ปลอดมลภาวะ ที่สถานี Super Kids นักวิทย์เปลี่ยนโลก โดยจะได้สวมบทบาทสร้างพลังความสดชื่นและอากาศบริสุทธิ์ให้โลก ด้วยกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์ ที่จะทำให้เด็กๆ สนุกสนานและคิดว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่สนุกใกล้ตัว
ภายในงานยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกมากมายที่รอให้น้องๆมาร่วมสนุกและเรียนรู้ รวมถึงของรางวัลที่น้องๆจะได้รับกลับบ้านไป หากวันเด็กปีนี้ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน แวะไปเที่ยวงานถนนสายวิทยาศาสตร์กัน และอย่าลืมสวมหน้ากากอนามัยกันฝุ่น PM 2.5 ด้วย เพราะกิจกรรมนี้จัดกลางแจ้ง