xs
xsm
sm
md
lg

ตรวจอายุฟอสซิลใหม่หนุนกำเนิดมนุษย์มาจาก “แอฟริกาใต้”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพกะโหลก ลิตเติลฟุต ที่พบในถ้ำและบันทึกโดย ลอเรนท์ บรูว์แซล เมื่อปี 2010 และเพิ่งเผยออกมาเมื่อเร็ว (AFP PHOTO / INRAP / LAURENT BRUXELLES)
ผลการตรวจวิเคราะห์ครั้งใหม่เพื่อหาอายุของฟอสซิล “ลิตเติลฟุต” สิ่งมีชีวิตกึ่งคนกึ่งลิงที่โด่งดัง พบว่าเก่าแก่ว่าที่คาดไว้ และใกล้เคียงอายุ “ป้าลูซี” ที่ถูกยกให้เป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ โดยหลักฐานล่าสุดสนับสนุนว่า “แอฟริกาใต้” เป็นบ้านหลังแรกของมนุษยชาติ

รายงานจากเอเอฟพีระบุถึงการคำนวณหาอายุครั้งใหม่ของ “ลิตเติลฟุต” (Little Foot) ฟอสซิลกะโหลกของสิ่งมีชีวิตกึ่งคนและลิงเอปขนาดเล็ก ซึ่งพบภายในถ้ำสเติร์กฟอนไตน์ (Sterkfontein) ในแอฟริกาใต้ และมีลักษระคล้ายตกไปหลุมของถ้ำลึกลับนี้เมื่อหลายล้านปีก่อน

เดิมทีทีมวิจัยประมาณความเก่าแก่ของฟอสวิลนี้ไว้คร่าวๆ ประมาณ 1.5-4 ล้านปี แต่ความแน่ชัดของอายุฟอสซิลเป็นประเด็นสำคัญต่อคำถามว่า จุดเริ่มต้นของมนุษย์นั้นมาจากแอฟริกาตะวันออกอย่างที่ทฤษฎีที่ได้รับการยอมรับหลักระบุ หรือแท้จริงมาจากแอฟริกาใต้ หรืออาจจะมาจากทั้งสองแห่ง หรือจากที่อื่นๆ ด้วย

การคำนวณหาอายุฟอสซิลใหม่นี้ได้ตีพิมพ์ลงวารสารเนเจอร์ (Nature) และได้อายุใหม่ที่เก่าแก่กว่าเดิมคือ 3.67 ล้านปี โดยคลาดเคลื่อนมากกว่าหรือน้อยกว่าประมาณ 160,000 ปี ทำให้ฟอสซิลดังกล่าวมีอายุคร่าวๆ ใกล้เคียง “ลูซี” (Lucy) สิ่งมีชีวิตตระกูลมนุษย์ที่พบในเอธิโอเปีย และเป็นที่ยอมรับมากที่สุดว่าคือบรรพบุรุษเก่าแก่ที่สุดของมนุษย์

อย่างไรก็ดี ลอเรนท์ บรูว์แซล (Laurent Bruxelles) จากสถาบันวิจัยโบราณคดีฝรั่งเศส (National Institute for Archaeological Research: Inrap) ซึ่งมีส่วนร่วมในการศึกษาครั้งนี้ กล่าวว่า ยังไม่มีอะไรที่จะล้มล้างแนวคิดว่าลิตเติลฟุตเป็นบรรพบุรุษของมนุษยชาติ ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ และแอฟริกาใต้ก็ได้กลับเข้ามาในสนามแข่งขัน “การเป็นแหล่งกำเนิดของมนุษยชาติ” ซึ่งหลักฐานที่ใช้ยืนยันก็มาจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นเพื่อใช้หาอายุของตะกอนดินในฟอสซิลที่พบ

เทคโนโลยีดังกล่าวเรียกว่า “คอสโมจีนิกนิวไคลด์เดทติง” (cosmogenic nuclide dating) ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้ค้นหาปริมาณไอโซโทปหายาก ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อดินหรือหินถูกกระทบด้วยอนุภาคความเร็วสูงที่มาจากนอกโลก โดยครั้งแรกที่ใช้วิธีนี้คือเมื่อปี 2003 ซึ่งคำนวณอายุของลิตเติลฟุตได้ประมาณ 4 ล้านปี แต่มีค่าความคลาดเคลื่อนค่อนข้างกว้าง ซึ่งการประเมินดังกล่าว ถูกหักลบออกไปอย่างเมื่อคำนวณอายุด้วยธาตุที่แตกต่างกัน โดยเมื่อพิจารณาอายุจากยูเรเนียมและตะกั่วกลับฟอสซิลมีอายุน้อยลง 2.2 ล้านปี ตัดโอกาสที่ลิตเติลฟุตจะกลายเป็นบรรพบุรุษมนุษย์ที่เก่าแก่ออกไป

อย่างไรก็ดี เมื่อปีที่ผ่านมา บรูว์แซลและคณะได้วิเคราะห์ว่า ธาตุองค์ประกอบแคลไซต์เหล่านั้น ได้ห่อหุ้มลิตเติลฟุตขึ้นภายในถ้ำในช่วงต่อมาอีกนาน ซึ่งอาจเป็นคำอธิบายว่าทำไมดินเหล่านั้นถึงอายุน้อยกว่าตัวฟอสซิลค่อนข้างมาก โดยพวกเขาได้ลงความเห็นตามหลักการว่า ลิตเติลฟุตน่าจะมีอายุราวๆ 3 ล้านปี จึงนำไปสู่การหาอายุของตะกอนดินใหม่ โดยใช้ตัวแปรค้นหาที่แตกต่างกัน รวมถึงใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพของมหาวิทยาลัยเพอร์ดู (Purdue University, Indiana) ในอินเดียนา สหรัฐฯ เพื่อหานิวไคลด์จากนอกโลก 2 ชนิด ผลจากการทดสอบตัวอย่าง 11 ชิ้นที่เก็บรักษามานานกว่าสิบปีตั้งแต่ฟอสซิลโครงกระดูกถูกแยกออกจากตะกอนดิน พบว่า 9 ตัวอย่าง ให้ผลทดสอบอายุของเศษดินที่แม่นยำ

ทั้งลิตเติลฟุลและป้าลูซีต่างเป็นสิ่งมีชีวิตในสกุล ออสตราโลพิเธคัส (Australopithecus) ซึ่งเป็นสกุลสิ่งมีชีวิตที่มีคุณลักษณะควบระหว่างลิงไม่หางหรือลิงเอปและมนุษย์ คือ ความสามารถในการเดินหลังตรง แต่สิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ทั้งสองเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต่างชนิดกันอย่างชัดเจน ลิตเติลฟุตป็นสิ่งมีชีวิตสปีชีส์ออสตราโลพิเธคัส โปรมีเธอัส (prometheus) ส่วนป้าลูซีเป็นสิ่งมีชีวิตสปีชีส์ออสตราโลพิเธคัส อะฟาเรนซิส (Australopithecus afarensis)
 
รายงานการศึกษาครั้งนี้ที่นำโดย ดาร์รีล แกรงเกอร์ (Darryl Granger) จากมหาวิทยาลัยเพอร์ดู ระบุว่า ความแตกต่างทางกายภาพของสิ่งมีชีวิตทั้งสองอย่างมากนี้ ก่อให้เกิดคำถามที่น่าสนใจถึงความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตตระกูลคนในยุคต้นๆ โดยเชื่อว่า ออสตราโลพิเธคัส โฮมินิดส์ (Australopithecus hominid) เป็นต้นกำเนิดของ โฮโมฮาบิลิส (Homo habilis) ซึ่งเป็นบรรพบุรุษสายตรงของ โฮโมซาเปียนส์ (Homo sapiens) มนุษย์ในปัจจุบัน ซึ่งร่องรอยเก่าแก่ที่สุดของ โฮโมฮาบิลิส มีอายุย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 2.5 ล้านปี

ส่วนฟอสซิลเก่าแก่ของสิ่งมีชีวิตตระกูลมนุษย์ที่ขุดพบในแอฟริกาตะวันออกและประเทศชาดนั้นเก่าแก่กว่าทั้งลูซี่และลิตเติลฟุต แต่ยังไม่ทราบว่าสิ่งมีชีวิตดังกล่าวอยู่ในสกุล ออสตราโลพิเธคัส ด้วยหรือไม่  
ภาพขณะ ลอเรนท์ บรูว์แซล พบฟอสซิล ลิตเติลฟุต ในถ้ำที่แอฟริกาใต้เมื่อปี 2010 และเพิ่งเผยแพร่ภาพออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ (AFP PHOTO / TOULOUSE MUSEUM / FRANCIS DURANTHON)






*******************************



กำลังโหลดความคิดเห็น