xs
xsm
sm
md
lg

WWF ระบุเราใช้งบธรรมชาติเกินดุล เลื่อน “วันหนี้นิเวศโลก” เป็น 19 ส.ค.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปีนี้ วันที่ 19 สิงหาคมถูกจัดให้เป็น “วันหนี้นิเวศโลก” เพราะเราใช้ธรรมชาติเกินงบประมาณประจำปี โดยกลุ่มนักวิจัยนานาชาติและพันธมิตรของ WWF ระบุช่วงเวลาที่เหลืออยู่เรากำลัง “ติดลบ” เพราะใช้ทรัพยากรและบริการของธรรมชาติเกินดุล  

ข้อมูลจากเครือข่ายรอยเท้านิเวศโลก (Global Footprint Network) กลุ่มนักวิจัยนานาชาติเพื่อความยั่งยืนและพันธมิตรของ WWF ระบุว่า “วันหนี้นิเวศโลก” (Earth Overshoot Day) จะถูกประกาศขึ้นเมื่อรอยเท้านิเวศของมนุษย์ในปีนั้นๆ มีค่าสูงเกินความสามารถที่โลกจะจัดหาและสร้างให้ได้ และวันนี้ได้ถูกประกาศเร็วขึ้นทุกปีจากวันที่ 1 ต.ค. ในปี 2543 มาเป็นวันที่ 19 ส.ค.ในปีนี้

“ธรรมชาติเป็นรากฐานของความเป็นอยู่ที่ดีและความเจริญรุ่งเรืองของเรา แต่เราใช้ทรัพยากรเกินขีดจำกัดของโลกไปมาก เพื่ออนาคตที่สดใสของลูกหลานของเรา เราต้องรักษาต้นทุนทางธรรมชาติที่เหลืออยู่และเป็นผู้ดูแลดาวเคราะห์ที่มีคุณค่าที่เราเรียกว่าบ้านให้ดีที่สุด จากข้อมูลรอยเท้านิเวศซึ่งคิดคำนวณจากปริมาณทรัพยากรธรรมชาติของโลก ปริมาณที่เราใช้ และใครใช้อะไรบ้าง วันหนี้นิเวศโลกเป็นโอกาสที่จะได้สร้างความตระหนักและสร้างแรงบันดาลใจในการรักษาระบบนิเวศที่ถูกใช้มากเกินไป” มาร์โค ลัมเบอร์ตินี (Marco Lambertini) ผู้อำนวยการ WWF กล่าว

ทั้งนี้ ในเดือนหน้า WWF จะเผยแพร่รายงาน Living Planet Report ประจำปี 2557 ซึ่งรายงานนี้เป็นสิ่งพิมพ์เผยแพร่ชิ้นสำคัญที่ WWF จัดทำขึ้นทุกๆ สองปีและปีนี้เป็นฉบับที่ 10 แล้ว โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการตรวจวัดสุขภาพของโลกและผลกระทบจากกิจกรรมของมนุษย์ แม้แนวโน้มแสดงอย่างชัดเจนว่า ความต้องการของมนุษย์เกินความสามารถในการรองรับเชิงนิเวศของโลก แต่ ลัมเบอร์ตินีระบุว่า เรายังสามารถดำเนินการเพื่อสร้างอนาคตที่เจริญรุ่งเรืองให้อยู่บนพื้นฐานของการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนได้โดยเริ่มตั้งแต่ตอนนี้

ในปี 2504 ซึ่งเป็นปีเดียวกับการก่อตั้ง WWF มนุษย์มีการใช้ทรัพยากรเพียงสองในสามของทรัพยากรที่โลกมีอยู่เท่านั้น และในปีเดียวกันประเทศส่วนใหญ่มีการอนุรักษ์ระบบนิเวศแล้ว นั้นหมายความว่ารอยเท้าทางนิเวศของเราจะลดลงและมีความยั่งยืนมากขึ้น แต่ปัจจุบันอัตราการใช้ทรัพยากรของเราดูเหมือนว่าจะยิ่งออกห่างจากกรอบของความยั่งยืน พื้นที่ป่าลดลง แหล่งน้ำจืดลดน้อยลง ผืนดินเสื่อมโทรมลงและความหลากหลายทางนิเวศวิทยากำลังจะหมดไป และในขณะเดียวกันการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นพิษและโลกก็ไม่สามารถดูดซับได้

WWF แนะนำว่า การลงมือตั้งแต่ตอนนี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงแนวโน้มนี้ได้ ซึ่งแต่ละคนล้วนมีบทบาทสำคัญในการสร้างโลกที่เราอาศัยอยู่ภายใต้ขีดจำกัดทางนิเวศ โดยการเลือกสินค้าที่มีความยั่งยืน เช่น อาหารทะเลที่มีฉลากรับรองมาตรฐาน Marine Stewardship Council (MSC) และผลิตภัณฑ์จากไม้ที่มีการรับรองโดย Forest Stewardship Council (FSC) เพื่อให้แน่ใจได้ว่าสินค้ามาจากแหล่งที่มีการจัดการอย่างดี หรือหันมาใช้พลังงานหมุนเวียนสะอาด เช่น พลังงานจากแสงอาทิตย์หรือลม เพื่อลดการปล่อยก๊าซพิษที่สกปรกและเป็นมลภาวะต่ออากาศ มหาสมุทรและป่าของเรา

ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยนั้น พบว่าในปี 2551 ประเทศไทยใช้ทรัพยากรมากกว่าที่ความสามารถในการรองรับเชิงนิเวศของประเทศถึงสองเท่า ซึ่งเป็นความสามารถของระบบนิเวศในการผลิตวัสดุชีวภาพที่มีประโยชน์และการดูดซับของเสียที่เกิดจากมนุษย์ หรืออธิบายอีกแง่หนึ่งคือเราใช้ทรัพยากรเป็นสองเท่าของความสามารถที่ระบบนิเวศทดแทนได้ หรือใช้เท่ากับความสามารถในการรองรับเชิงนิเวศของประเทศไทยสอง (2.06) ประเทศร่วมกัน ตัวเลขจากปี 2551 ยังทำให้เกิดคำถามสำคัญคือ ในปัจจุบันที่มีการเติบโตของเทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐาน และการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั่วโลก ทำให้เราใช้เกินความสามารถในการรองรับเชิงนิเวศมากเท่าไร?







*******************************


*******************************
กำลังโหลดความคิดเห็น