นับเป็นข่าวสะเทือนขวัญอีกครั้งสำหรับสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สที่ตกในยูเครน ซึ่งข่าวกรองสหรัฐฯ เชื่อว่า สายการบินมาเลย์ถูกขีปนาวุธยิงร่วง แล้วขีปนาวุธแบบไหนที่ยิงเครื่องบินซึ่งบินสูงกว่า 10,000 เมตรร่วง?
เที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส (Malaysia Airlines) ตกในยูเครนบริเวณพื้นที่ของฝ่ายกบฏที่เรียกตัวเองว่า “สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์” (Donetsk) ซึ่งรายงานข่าวอ้างคำแถลงของ เปโตร โปโรเชนโก (Petro Poroshenko ) ประธานาธิบดีของยูเครนว่า เขาไม่ตัดความเป็นไปได้ที่เครื่องบินอาจถูกยิงร่วง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ก็สรุปแก่ทางซีเอ็นเอ็นว่า เครื่องบินในเที่ยวบินดังกล่าวน่าจะถูกยิงตก
ทางด้านไลฟ์ไซน์รายงานว่า ขีปนาวุธที่สามารถยิงอากาศยานากภาคพื้นนั้นมีอยู่ 3 ชนิด คือ ขีปนาวุธพิสัยไกล ขีปนาวุธพิสัยกลางสำหรับประกอบบนยานพาหนะ และขีปนาวุธพิสัยใกล้สำหรับแบกบนบ่า ซึ่งมีความเป็นได้ว่าขีปนาวุธที่อาจใช้ยิงเครื่องบินโดยสารของมาเลเซียคือขีปนาวุธบัค (Buk missile) ซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยกลางที่พัฒนามาตั้งแต่ยุคอดีสหภาพโซเวียต และเป็นขีปนาวุธแบบขับเคลื่อนตัวเองที่ยิงจากภาคพื้นถล่มศัตรูกลางอากาศ
ขีปนาวุธดังกล่าวได้ถูกเผยให้เป็นที่รู้จักครั้งแรกเมื่อปี 1979 โดยถูกออกแบบมาเพื่อโจมตีขีปนาวุธติดยานขับ (cruise missiles) อากาศยาน และระเบิดนำวิถี (smartbombs) และยังออกแบบมาให้ร่นเวลาในการติดตั้งด้วย
อ้างตามสำนักข่าวยูเครนไลฟ์ไซน์ระบุว่า เครื่องบินของมาเลเซียแอร์ไลน์สหายไปจากจอเรดาร์ขณะบินที่ระดับความสูง 10,000 เมตร ซึ่งอยู่ในระยะของการโจมตีจากขีปนาวุธบัคที่สามารถยิงถล่มเป้าหมายได้ถึงระดับความสูง 22,000 เมตร
โดยขีปนาวุธดังกล่าวจะติดตามเป้าหมายจากการตรวจจับสัญญาณเรดาร์ที่สะท้อนกลับ ทว่า มารี สเคียโว (Mary Schiavo) ผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน และอดีตผู้ตรวจการณ์ของทบวงคมนาคมสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า เป็นเรื่องยากที่จะแยกไม่ออกระหว่างเครื่องบินพาณิชย์ และเครื่องบินทหาร แต่ก็เป็นไปได้ว่า เครื่องบินอาจมีการส่งรหัสที่ผิดพลาดออกมา หรือ ขีปนาวุธที่ค้นหาความร้อนจากอากาศยานพเนจรอาจยิงเครื่องบินตก
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า ระบบขีปนาวุธถล่มอากาศจากภาคพื้นส่วนใหญ่จะติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้จำแนก “มิตร” หรือ “ศัตรู” ซึ่งออกแบบมาเพื่อถ่ายทอดสัญญาณข้อมูลเป้าหมาย ทั้งพิสัยและทิศทางที่แน่นอน ก่อนที่ขีปนาวุธจะจุดระเบิด