ภาคเช้าปิดร่วง 5.55 จุด ทิศทางเดียวกับตลาดในต่างประเทศ โบรกฯ เผยเป็นเรื่องจิตวิทยากรณีเครื่องบินมาเลย์ถูกยิงตก กังวลความขัดแย้งอาจรุนแรงขึ้น ส่วนในประเทศกังวลผลกระทบขึ้นแวต 10% ในปี 58 ส่วนการคงแวตที่ 7% ในปีนี้ คาดไม่มีผลอะไรมากนัก
ภาวะตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (18 ก.ค.) ดัชนีปิดการซื้อขายภาคเช้าที่ระดับ 1,530.11 จุด ลดลง 5.55 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.36% มูลค่าการซื้อขาย 37,914.20 ล้านบาท โดยดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,538.53 จุด และต่ำสุดอยู่ที่ 1,523.53 จุด
นักวิเคราะห์ ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับลงตามตลาดต่างประเทศที่วิตกกังวลต่อสถานการณ์ในยูเครน หลังมีการยิงเครื่องบินมาเลเซียตก และทำให้ความขัดแย้งส่อรุนแรงมากขึ้น ประกอบกับตลาดอยู่ในช่วงพักฐานหลังขึ้นมามาก
ด้านนายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยเช้านี้อ่อนตัวลงตามที่คาดไว้ โดยมีผลกระทบจาก 2 ปัจจัย เรื่องการคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในปีนี้ไว้ คงไม่ได้เป็นผลในทางบวกอะไรต่อเศรษฐกิจในเชิงกระตุ้น
“แต่สิ่งที่มองไปข้างหน้ากลายเป็นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มถูกปรับขึ้นในปีงบประมาณ 2558 จาก 7% เป็น 10% ดังนั้น ปัจจัยบวกในเชิงรอคอยเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงสั้นนี้”
ปัจจัยที่ 2 เป็นจิตวิทยาเชิงลบจากประเด็นสายการบินมาเลเซียถูกยิงเมื่อคืนส่งผลกระทบในเชิงจิตวิทยาการลงทุนต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ และมีผลต่อเนื่องมาที่ตลาดหุ้นอื่นด้วย ส่วนแนวโน้มช่วงบ่ายคาดว่า ดัชนียังแกว่งในแดนลบต่อเนื่อง
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1. ADVANC ปิดที่ 214.00 บาท ลดลง -12.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,270.34 ล้านบาท
2. INTUCH ปิดที่ 71.00 บาท ลดลง -2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,298.41 ล้านบาท
3. BMCL ปิดที่ 1.71 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,738.55 ล้านบาท
4. BLAND ปิดที่ 2.12 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,148.20 ล้านบาท
5. SAWAD ปิดที่ 22.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,770.16 ล้านบาท
