เอเอฟพี - ยูเครนวันนี้ (17 ก.ค.) ออกมากล่าวหาว่า เครื่องบินไอพ่นของกองทัพอากาศรัสเซียยิงเครื่องบินรบของกรุงเคียฟตกในอาณาเขตยูเครนเมื่อวันจันทร์ (14) ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่จุดชนวนให้สถานการณ์ตามแนวพรมแดนของสองประเทศอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียต ที่กำลังระส่ำระสายทวีความตึงเครียดยิ่งขึ้น
สภาความมั่นคงและกลาโหมแห่งชาติยูเครนระบุผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “เครื่องบินทหารจากกองทัพสหพันธรัฐรัสเซียโจมตีเครื่องบินรบ SU-25 ของกองทัพอากาศยูเครนด้วยจรวด ขณะที่อากาศยานของเรากำลังดำเนินภารกิจเหนืออาณาเขตยูเครน”
กองทัพยูเครนเปิดเผยว่า นักบินผู้ที่ควบคุมเครื่องบินขับไล่ ที่ถูกยิงตกสามารถดีดตัวเองออกมาจากอากาศยานได้ทัน และได้รับความช่วยเหลือจากกองทัพยูเครนในเวลาต่อมา
การออกมากล่าวหาครั้งล่าสุดมีขึ้นภายหลังยูเครน ระบุว่า เครื่องบินลำเลียงทางทหารที่ถูกสอยร่วงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (14) “น่าจะ” ถูกโจมตีด้วยจรวดจากฝั่งรัสเซีย ในบริเวณใกล้พรมแดนที่เกิดเหตุไม่สงบอยู่เนืองๆ
โฆษกของสภาความมั่นคงและกลาโหมยูเครนแถลงยืนยันวันนี้ (17) ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้คร่าชีวิตลูกเรือ 2 ใน 8 คนที่โดยสารมากับเครื่องบินลำนี้ ขณะที่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ 4 คน ส่วนอีก 2 คนถูกกลุ่มติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซียจับตัวไป
สถานการณ์ตึงเครียดที่ปะทุขึ้นตามแนวตะเข็บชายแดนได้ทวีความร้อนระอุจนถึงจุดเดือด ภายหลังที่ยูเครนกล่าวว่า รัสเซียลอบส่งนักรบ และอาวุธเข้าไปสนับสนุนให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนก่อการลุกฮือ พร้อมทั้งกล่าวเตือนว่ามอสโกได้ส่งกำลังทหารหลายพันนายเข้าไปประชิดแนวพรมแดน เพื่อเตรียมพร้อมในกรณีที่มีคำสั่งโจมตี
วานนี้ (16) สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (อียู) ได้ประกาศคว่ำบาตรมอสโกรุนแรงขึ้นอีก เพื่อบีบให้รัฐบาลแดนหมีขาวโน้มน้าวให้กลุ่มติดอาวุธใฝ่รัสเซีย ยุติการก่อเหตุไม่สงบที่ยืดเยื้อมานาน 3 เดือน และคร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 600 ราย
