“หอยเป๋าฮื้อ” เป็นหอยฝาเดียว คว่ำหน้าลงพื้น ถ้าให้มองแค่เปลือกหอยเราแยกไม่ออกแน่ๆ ว่าตัวไหนเป็นหอยตัวผู้ และตัวไหนเป็นหอยตัวเมีย แต่เรามีเทคนิคง่ายๆ ที่ดูด้วยตาก็รู้
ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ ได้ร่วมเดินทางไปพร้อมกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์หอยเป๋าฮื้อของ กลุ่มภูเก็ต อะบาโลน กรุ๊ป ใน จ.ภูเก็ต ซึ่งบุกเบิกการเลี้ยงฟาร์มหอยเป๋าฮื้อแห่งแรกในไทยมาตั้งแต่ปี 2541
เจ้าหน้าที่ดูแลฟาร์มพ่อแม่พันธุ์หอยเป๋าฮื้อเผยเคล็ดลับง่ายๆ ในการแยกเพศหอยว่า เพียงแค่พลิกหอยแล้วเปิดดูใต้ท้องว่าเป็นสีอะไรก็บอกได้ว่าตัวไหนคือหอยตัวผู้ และตัวไหนคือหอยตัวเมีย โดยหอยตัวผู้จะมีท้องเป็นสีขาว ส่วนตัวเมียจะมีท้องเป็นสีแดง ซึ่งเป็นสีของไข่ที่มีอยู่นับล้านฟอง
น.สพ.สิทธิศักดิ์ เหมืองสิน กรรมการผู้จัดการ ภูเก็ต อะบาโลน กรุ๊ป เล่าว่าได้เริ่มธุรกิจเพาะเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อส่งขายญีปุ่น และได้ไปศึกษาดูงานเพื่อคัดเลือกสายพันธุ์หอยเป๋าฮื้อที่มีรสชาติถูกใจชาวญี่ปุ่น จนได้พันธุ์จากเกาะโอกินาวาที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหอยเป๋าฮื้อที่ดีที่สุด และยังมีข้อดีที่สามารถเลี้ยงในที่อุณหภูมิสูงใกล้เคียงอุณหภูมิในเมืองไทยได้
ผลจากการทดลองเพาะเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อ น.สพ.สิทธิศักดิ์ ผู้ออกตัวว่าชอบเลี้ยงสัตว์ พบว่าการเลี้ยงในระบบปิดเป็นวิธีเดียวที่จะเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อให้รอด และได้คิดระบบคอนโดเพื่อเลี้ยงหอยให้ได้มากกว่าเดิม 10 เท่า เนื่องจากหอยอาศัยอยู่ในแนวราบ จึงสร้างกระบะให้หอยอยู่เรียงกัน 10 ชั้น
“เมื่อพ่อแม่พันธุ์หอยเป๋าฮื้อพร้อมจะนำไปผสมพันธุ์ในห้องปรับอากาศ แล้วนำกลับมาเลี้ยงในระบบคอนโดตามเดิม ส่วนลูกหอยจะถูกอนุบาลจนมีอายุ 140 วัน แล้วจะส่งไปเพาะเลี้ยงต่อที่ฟาร์มใน จ.พังงา จนมีอายุครบ 1 ปีก็นำมาแปรรูป เอาเนื้อไปสกัดคอลลาเจนเพื่อผลิตเป็นอาหารเสริม” น.สพ.สิทธิศักดิ์เผย และบอกด้วยว่าเพิ่งเปิดตัวเครื่องดื่มคอลลาเจนจากหอยเป๋าฮื้อเมื่อเร็วๆ นี้
สำหรับโครงการเพาะเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อระบบคอนโดนี้ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) เป็นเงิน 1.5 ล้าน ภายใต้โครงการนวัตกรรมดีไม่มีดอกเบี้ย ในวงเงินกู้ 30 ล้านบาท ซึ่งเมื่อปี 2551 ได้รับรางวัลชนะเลิศรางวัลนวักรรมแห่งชาติ ด้านเศรษฐกิจ และในปี 2553 ได้รับรางวัล 10 สุดยอดธุรกิจนวัตกรรม จาก สนช.