WWF เผยรายงานความท้าทายในการลงทุนด้านพลังงาน ที่มีการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติเป็นอันตรายที่คุกคาม ชี้การโยกเงินลงทุนจากพลังงานฟอสซิล ไปยังพลังงานหมุนเวียน จะเป็นส่วนสำคัญต่อการรับมือการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
จดหมายข่าวจาก WWF ระบุว่าการเพิ่มขึ้นของการใช้พลังงานหมุนเวียนมาสร้างกระแสไฟฟ้าเพื่อโลกใบนี้นับเป็นสิ่งที่ดี แต่ทว่าอันตรายจากการคุกคามของการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติก็อยู่ในระดับอันตรายที่ต้องรับมือด้วยเช่นกัน
ล่าสุดมีรายงานด้านการลงทุนพลังงาน ที่จัดทำขึ้นโดย Frankfurt School-UNEP Collaborating Centre for Climate & Sustainable Energy Finance ที่ได้บันทึกไว้ว่า ในปี 2013 มีการติดตั้งแหล่งพลังงานหมุนเวียนเป็นสัดส่วนประมาณ 44% ของการใช้พลังงานไฟฟ้า
รายงานจาก Frankfurt/UNEP ได้ถูกเผยแพร่โดยเลขาธิการคณะกรรมการว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ในกรุงเบอร์ลิน เพื่อนำไปพิจารณาและศึกษาเกี่ยวกับการลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยได้มีการพูดถึงกระบวนการลดก๊าซคาร์บอนในระบบนิเวศของโลก ซึ่งเป็นวิธีที่สำคัญที่สุดในการลดผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ และเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้าได้มีรายงานอีกหนึ่งฉบับจาก IPCC ที่ได้พูดถึงภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติด้วยเช่นกัน
“ข้อความจาก IPCC อาจจะไม่ชัดเจน การเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศคือ เรื่องอันตรายที่โลกไม่อาจจะรับมือกับมันได้ การเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานคือศูนย์กลางของหน้าที่ที่เราต้องทำเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากการเปลี่ยนแปลงของโลก เราต้องหยุดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนที่บริสุทธิ์ เรามีความรู้และพลังในการยุติการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ เราแค่จำเป็นที่จะต้องทำมันเท่านั้นเอง” ซามานธา สมิธ (Samantha Smith) ผู้นำของWWF ด้านภูมิอากาศโลกและพลังงานกล่าว
อ้างอิงจากรายงานของ Frankfurt/UNEP ทาง WWF ระยบุต่อว่า แหล่งพลังงานหมุนเวียนที่ถูกเก็บรักษาไว้มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 1.2 พันล้านเมตริกตันของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยจากชั้นบรรยากาศในปี 2013 ถึงแม้จะมีการพัฒนาในเชิงบวกในระดับพันล้านเมตริกตันก็ตาม แต่ความต่างระหว่างวิถีของการปล่อยก๊าซคาร์บอนออกสู่ชั้นบรรยากาศกับความพยายามในการลดก๊าซคาร์บอนเพื่อลดอันตรายจากภาวะโลกร้อนนั้นยังคงแตกต่างกันมากในปัจจุบัน
“การเติบโตของการใช้พลังงานหมุนเวียนบริสุทธิ์นั้นนับเป็นข่าวดี แต่การแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อป้องกันผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศยังคงน่าเป็นห่วง การดูแล กรอบการลงทุนที่ได้รับการควบคุมและความพยายามในการใช้พลังงานทดแทนนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องลงทุนในการพัฒนาพลังงานทดแทนมากกว่าเดิมเป็นสามเท่าในช่วงระยะเวลา 15 ปีต่อจากนี้” สตีเฟน ซิงเกอร์ (Stephan Singer) ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายพลังงานทั่วโลกแห่ง WWF สากลกล่าว
ในขณะที่รายงานได้พูดถึงการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งการใช้พลังงานทดแทนในส่วนของการสร้างกระแสไฟฟ้า จากการศึกษายังตั้งข้อสังเกตของการลดลงของเงินลงทุนในกลุ่มเดียวกันซึ่งแสดงให้เห็นถึงการลดงบประมาณในการผลิตพลังงานทดแทนและนโยบายเกี่ยวกับการใช้พลังงานที่ขาดความแน่นอน
“WWF อยู่ในระหว่างการรณรงค์เรื่องการใช้พลังงานจากทั่วโลกภายใต้ชื่อ “Seize Your Power,” โดยเรียกร้องให้สถาบันทางการเงินเข้าร่วมในการระดมทุนเพื่อพลังงานทดแทน การเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาสำหรับการจัดวางนโยบายต่างๆ รวมไปถึงการลงทุนอีกด้วย ดังนั้น การโยกย้ายเงินลงทุนจากเชื้อเพลิงฟอสซิลไปสู่พลังงานทดแทนจึงเป็นส่วนสำคัญของการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ” WWF ระบุในที่สุด