สทน. - เวียดนาม หารือ สทน.ร่วมพัฒนาความร่วมมือด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ก่อนเปิดประชาคมอาเซียน
คณะผู้บริหารสถาบันนิวเคลียร์เวียดนาม เข้าหารือผู้บริหาร สทน.เปิดทางความร่วมมือด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ก่อนเปิดประชาคมอาเซียนโดยเมื่อเร็วๆ นี้ บุ่ย ดั่ง แฮ็ง (Mr.BUI Dang Hanh) ผู้อำนวยการฝ่ายต่างประเทศ และคณะจากสถาบันพลังงานนิวเคลียร์เวียดนาม (Vietnam Atomic Energy Institute :VINATOM) นำโดย เดินทางเยือนสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน.โดยมี ดร.สมพร จองคำ ผู้อำนวยการ สทน.และคณะผู้บริหาร สทน.ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ ไทยและเวียดนามต่างเป็นประเทศสมาชิกองค์กรระหว่างประเทศด้านนิวเคลียร์ ทั้งระดับภูมิภาคเอเชียและระดับโลก อาทิ ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA : International Atomic Energy Agency) มีสมาชิก 161 ประเทศ, สภาความร่วมมือทางด้านนิวเคลียร์ในภูมิภาคเอเชีย (FNCA : Forum for Nuclear Cooperation) มีสมาชิก 12 ประเทศ และ ข้อตกลงความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อการวิจัย พัฒนาและการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนิวเคลียร์ในเอเชียและแฟซิฟิก (RCA : Regional Cooperative Agreement for Research, Development and Training Related to Nuclear Science and Technology for Asia and the Pacific) มีสมาชิก 34 ประเทศ
สทน.ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าปัจจุบันในทั้งประเทศไทยและเวียดนามต่างพัฒนาด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์มาอย่างต่อเนื่อง แต่เพื่อให้เกิดความร่วมมือพร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูล แนวทางการพัฒนาการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนิวเคลียร์ในอนาคต ตลอดจนการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านงานวิจัย อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งสองประเทศจึงเห็นควรมีการหารือกันอย่างเป็นทางการขึ้น
ทางด้าน ดร.สมพร จองคำ ผู้อำนวยการ สทน.กล่าวว่า สทน.และ VINATOM ได้มีการหารือเพื่อสรุปความร่วมมือในบันทึกความเข้าใจระหว่าง สทน.และ VINATOM ว่าด้วยความร่วมมือด้านการใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์ในทางสันติ ซึ่งครอบคลุมหลายด้าน เช่น ด้านเกษตร ด้านอุตสาหกรรม ด้านการแพทย์ ด้านการศึกษา เป็นต้น และได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษในด้านการผลิตสารไอโซโทปรังสีและสารเภสัชรังสี การใช้ประโยชน์จากอิเล็คตรอนบีม และเครื่องฉายรังสีจากโคบอลต์ 60 ซึ่ง สทน.มีอุปกรณ์เหล่านี้ไว้ใช้ในงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ สทน. เอง รวมถึงสนใจงานวิจัยและพัฒนาธาตุหายากของ สทน.มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้
“Mr.BUI Dang Hanh ยังได้เชิญ สทน. เข้าร่วมงานครบรอบ 30 ปีของการเดินเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณูวิจัย Dalat Reactor ของประเทศเวียดนาม ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือน มี.ค.57 นี้ และนอกจากความร่วมมือในการพัฒนาด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ระดับภูมิภาคแล้ว ประเทศไทยอาจจะมีโอกาสได้ศึกษาแนวทางการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของเวียดนาม ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าได้ภายในปี พ.ศ. 2563 นี้ ซึ่งถือเป็นโรงไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ดร.สมพรกล่าว
คณะผู้แทนของ VINATOM ยังได้มีโอกาสเยี่ยมชมกิจกรรมต่างๆ ของ สทน.ได้แก่ เครื่องปฏิกรณ์ปรมาณูวิจัย เครื่องแรกและเครื่องเดียวของไทย ตั้งอยู่ที่ สำนักงานบางเขน กรุงเทพมหานคร ศูนย์จัดการกากกัมมันตรังสีซึ่งเป็นหน่วยงานเดียวของไทยให้บริการเก็บกากกัมมันตรังสีทั่วประเทศ และศูนย์ฉายรังสี ที่ให้บริการฉายรังสีอาหารและผลิตผลทางการเกษตรแก่ผู้ประกอบการทั่วทั้งประเทศ ด้วยความสนใจ