เอเจนซีส์ - ทหารเม็กซิโกเมื่อวันพุธ (4 ธ.ค.) ทำแนวรั้วล้อมรอบบริเวณที่พบอุปกรณ์บำบัดมะเร็ง ซึ่งมีสารกัมมันตรังสีอันตราย “โคบอลต์-60” และหน่วยงานชำนัญพิเศษของยูเอ็นระบุว่าสามารถนำไปใช้ผลิตระเบิดรังสีแบบหยาบๆ หรือ “เดอร์ตีบอมบ์” ได้ ขณะที่คาดหมายกันว่าคนร้ายดูเหมือนตั้งใจขโมยรถบรรทุกคันที่กำลังขนอุปกรณ์ชิ้นนี้มากกว่า แต่ก็ได้นำมันออกมาจากกล่องไม้เสริมเหล็ก แล้วจากนั้นจึงวางทิ้งเอาไว้กลางทุ่งนาไม่ห่างจากจุดก่อเหตุโจรกรรมนัก ทั้งนี้เชื่อว่าคนร้ายน่าจะได้รับรังสีจนอาจเสียชีวิตไปแล้วหรือใกล้เสียชีวิตเต็มที
คณะกรรมการเพื่อการป้องกันและความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์แห่งชาติของเม็กซิโก (CNSNS) แถลงตอนค่ำวันพุธว่า ผู้เชี่ยวชาญกำลังพิจารณาหาวิธีที่ดีที่สุดในการกู้อุปกรณ์ดังกล่าวอย่างปลอดภัย
ขณะที่ มาร์โดนิโอ ฮิเมเนซ โรฮาส ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของ CNSNS บอกว่า เห็นได้ชัดว่า คนร้ายที่ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ซึ่งก่อเหตุโจรกรรมรถบรรทุกคันที่กำลังขนส่งเครื่องฉายรังสีบำบัดมะเร็งรุ่นเก่าที่บรรจุสารโคบอลต์-60 ไปตั้งแต่วันจันทร์ (2) นั้น คงต้องการเพียงรถบรรทุกเท่านั้น โดยไม่ทราบว่าสินค้าภายในรถคืออะไร ทั้งนี้คนร้ายได้นำอุปกรณ์อันตรายนี้ออกจากกล่องบรรจุ และวางทิ้งห่างหลายร้อยเมตรจากรถบรรทุก ซึ่งตำรวจพบจอดอยู่ในเขตเมืองฮวยปอกซ์ตลา ทางตอนเหนือของกรุงเม็กซิโกซิตี
ฮวน เอย์เบนชูตซ์ ผู้อำนวยการ CNSNS เสริมว่า เกือบเป็นที่แน่นอนแล้วว่า คนร้ายที่เคลื่อนย้ายสารอันตรายนี้ด้วยมือเปล่า ต้องเสียชีวิตแล้วหรือกำลังใกล้จะเสียชีวิต
เอย์เบนชูตซ์ยังกล่าวอีกว่า บริษัทรับจ้างขนส่งอุปกรณ์อันตรายชิ้นนี้ทำงานหละหลวมมาก โดยไม่ได้ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม รวมทั้งรถบรรทุกก็ไม่ได้ติดตั้งอุปกรณ์เพื่อการติดตาม ทั้งๆ ที่บริษัทมีประสบการณ์ในด้านนี้ และจึงสมควรต้องถูกสอบสวน
ด้านคนขับรถบรรทุกโฟล์คสวาเกนสีขาว ซึ่งขนอุปกรณ์นี้จากโรงพยาบาลในเมืองทิฮัวนา ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เพื่อนำไปยังโรงกำจัดขยะรังสีในรัฐเม็กซิโก ซึ่งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ เล่าว่า ถูกมือปืน 2 คนจี้ขโมยรถในสถานีบริการน้ำมันในรัฐอีดัลโก ทั้งนี้การขโมยรถบรรทุกนั้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปกติในเม็กซิโก
ก่อนที่จะพบรถนั้น CNSNS ได้เผยแพร่ภาพรถและกล่องบรรจุโคบอลต์ ซึ่งมีชื่อโรงพยาบาลและคำว่า “สารกัมมันตรังสี” กำกับอยู่
ทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ซึ่งเป็นองค์กรชำนัญพิเศษของสหประชาชาติ เตือนว่า โคบอลต์-60 มีอันตรายร้ายแรงหากนำออกจากกล่องป้องกัน และผู้เชี่ยวชาญระบุว่า สารดังกล่าวในกล่องป้องกันมีปริมาณถึง 60 กรัม เพียงพอที่จะนำไปผลิตระเบิดกัมมันตรังสีแบบหยาบๆ หรือ “เดอร์ตีบอมบ์” โดยระเบิดเช่นนี้ซึ่งใช้วิธีจุดระเบิดแบบธรรมดา จะสามารถแพร่กระจายรังสีจากแหล่งกำเนิดกัมมันตรังสีออกไปเป็นบริเวณกว้าง ยิ่งหากเกิดระเบิดขึ้นในเมืองใหญ่ ก็อาจสร้างความเสียหายร้ายแรงทั้งด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
บรรดาผู้เชี่ยวชาญเตือนมานานแล้วเกี่ยวกับความเสี่ยงจากสารกัมมันตรังสีที่จัดเก็บอยู่จำนวนมากในโรงพยาบาล สถาบันการศึกษา และโรงงานต่างๆ โดยที่ส่วนใหญ่ไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยหรือมีน้อยมาก เพื่อป้องกันไม่ให้สารเหล่านี้ถูกขโมย
IAEA เท้าความว่า เมื่อ 13 ปีที่แล้ว เคยเกิดเหตุเกี่ยวกับเครื่องฉายรังสีในไทย หลังจากเครื่องฉายรังสีโคบอลต์-60 ถูกขายเป็นเศษเหล็ก ทำให้ประชาชนราว 1,870 คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่พ่อค้าเร่ที่รับซื้อและนำไปแยกชิ้นส่วนได้รับสารกัมมันตรังสีในระดับหนึ่ง ในจำนวนนี้ป่วยหนัก 10 คน และเสียชีวิตไป 3 คน
โคบอลต์-60 ของเครื่องฉายรังสีที่เกิดปัญหาในไทยมีปริมาณรังสีอยู่ 425 คูรี ขณะที่อุปกรณ์ที่อยู่ในรถที่ถูกขโมยในเม็กซิโกครั้งนี้มีปริมาณเกือบ 3,000 คูรี
โคบอลต์-60 คือไอโซโทปกัมมันตรังสีของโคบอลต์ และปล่อยรังสีแกมมาที่ช่วยขจัดเนื้อร้าย แต่การสัมผัสโดยตรงหรือเพียงแค่อยู่ใกล้ๆ สารนี้โดยไม่มีการจัดการหรือป้องกันอย่างเหมาะสมอาจทำให้เกิดมะเร็งได้
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่เม็กซิโกชื่อว่า ในเหตุการณ์นี้มีความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมปนเปื้อนน้อยมาก เนื่องจากบริเวณที่พบอุปกรณ์เป็นพื้นที่ซึ่งไม่มีคนอาศัยอยู่