ข่าวการทุบตีเลียงผาที่โรงงานปูนแห่งหนึ่งจนคาดว่าน่าจะเสียชีวิตนั้น สร้างความสะเทือนใจอย่างยิ่ง นอกจากความโหดร้ายทารุณเกินกว่าเหตุแล้ว สัตว์เท้ากีบชนิดนี้ยังเป็น 1 ใน 15 สัตว์ป่าสงวนและใกล้สูญพันธุ์ โดยคาดว่าเหลืออยู่ในเมืองไทยประมาณ 500 ตัว และอาศัยอยู่ในพื้นที่มีขอบเขตจำกัด
ชาวโซเชียลมีเดียต่างสลดกับคลิปความโหดร้ายของคนงานในโรงงานปูนแห่งหนึ่งที่คาดว่าอยู่ใน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ที่ทุบตีเลียงผาจนแน่นิ่ง ซึ่งจากภาพที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.56 สันนิษฐานว่าสัตว์ป่าเคราะห์ร้ายตัวดังกล่าวน่าจะเสียชีวิต ทางด้าน ดร.ธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เผยแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ว่า การทำร้ายเลียงผา ซึ่งเป็นหนึ่งใน 15 สัตว์ป่าสงวนของไทยนั้นมีโทษจำคุก 4 ปีและปรับไม่เกิน 40,000 บาท
ในเบื้องต้น นายนิธิ อาจสมรรถ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ ๑ สาขาสระบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแก่งคอย จ.สระบุรี และสัมภาษณ์คนในพื้นที่เพื่อพิสูจน์ว่าโรงงานปูนในพื้นที่ ตรงกับสถานที่เกิดเหตุในคลิปที่เผยแพร่หรือไม่ ซึ่งหากมีหลักฐาน ดร.ธีรภัทร กล่าว่าจะได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาล่าสัตว์ ตามโทษที่ระบุไว้ข้างต้น
“แนวทางปฏิบัติหากเจอเลียงผา ให้ปล่อยเขาหากินตามธรรมชาติ หรือหากเขาเจ็บป่วยให้แจ้งเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ หรือเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง” ดร.ธีรภัทรกล่าว พร้อมให้ข้อมูลว่า เลียงผามักอาศัยอยู่ตามหุบเขาทั่วประเทศ โดยเฉพาะ จ.สระบุรี ซึ่งมีหุบเขาหินปูน และมักมีการทำเหมืองหิน ปัจจุบันมีประชากรเลียงผาเหลืออยู่ราว 500-1,000 ตัว ซึ่งนับว่าใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากเป็นสัตว์ที่มีขอบเขตจำกัดของถิ่นอาศัย
ทางด้านข้อมูลจากสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ ระบุว่า เลียงผาเป็นสัตว์กีบคู่ (Artiodactyla) ในวงศ์มหิงสา (Bovidae) เช่นเดียวกับวัว ควาย แพะ แกะ อยู่ในวงศ์ย่อยแพะแกะ (Caprinae) และเป็นสัตว์โบราณที่สุดของวงศ์ย่อยแพะแกะ มีรูปร่างคล้ายแพะแต่มีรูปหน้ายาวหว่า มีลำตัวสั้นแต่ขอยาว มีเขาทั้งตัวผู้และตัวเมีย เขางอกยาวต่อเนื่องทุกปี แต่อาจยาวสุดเพียง 32 เซนติเมตร เมื่ออยู่ในกรงเลี้ยงมีอายุได้ถึง 21 ปี นอกจากนี้ยังเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้อง ออกหากินตอนเย็นและตอนเช้ามืด กินพืชต่างๆ เป็นอาหาร ชอบอาศัยตามหน้าผาสูงชัน
ทั้งนี้ มีความเชื่อว่าเลียงผามีน้ำลายที่สมานกระดูกและสมานแผลได้ จึงมีการล่าเพื่อเอาน้ำมันเลียงผามาใช้รักษาแผลและสมานกระดูก โดยนำหัวและกระดูกไปต้มกับน้ำมันมะพร้าว และนอกจากการล่าแล้วการบุกรุกป่าและการระเบิดภูเขาหินปูนเพื่อผลิตปูนซีเมนส์และหินคลุกยังเป็นปัจจัยคุกคามเลียงผาด้วย