เป็นครูไทยต้องมีความสามารถ รอบด้าน นอกจากให้ความรู้ทางวิชาการแล้ว ยังต้องดูแลมื้อกลางวันให้เด็กๆ ด้วย แต่ดูเหมือนจะเป็นภาระหนักเกินไปเพราะการดูแลให้เด็กไทยไม่ขาดสารอาหารนั้น ต้องใช้ความรู้ระดับนักโภชนาการ แต่ Thai School Lunch ช่วยครูได้
ผศ.ดร.อุไรพร จิตต์แจ้ง อาจารย์ ประจำสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่าประเทศไทยไม่มีปัญหาเรื่องขาดโภชนาการรุนแรงแล้ว แต่ยังมีปัญหาเรื่องคุณภาพของของโภชนาการ โดยเฉพาะการได้รับ ธาตุเหล็ก วิตามินเอ และแคลเซียมยังคงเป็นปัญหา และแม้จะมีโครงการอาหารกลางวันแต่ก็เป็นภาระที่หนักเกินสำหรับครูที่จัดเมนู ให้ได้สารอาหารอย่างครบถ้วนและมีคุณภาพ
“จากการได้รับหน้าที่ให้ประเมินคุณภาพอาการกลางวันของโรงเรียน พบว่าเด็กยังมีปัญหา เด็ก 7-8% ของประเทศหรือคิดเป็นเด็ก 400,000-500,000 คน ยังมีปัญหาการเติบโตไม่สมวัย” ผศ.ดร.อุไรพร
ทางสถาบันโภชนาการ มหาวิทายลัยมหิดล จึงได้พัฒนา “เกณฑ์มาตรฐานอาหารกลางวันโรงเรียนไทย” สำหรับเด็กวัย 6-12 ปี โดยพัฒนาเป็นซอฟต์แวรที่แสดงคุณค่าสารอาหารด้วย “ระบบคะแนนคุณค่าสารอาหาร” ซึ่งแรกเริ่มพัฒนาเป็นแผ่นซีดีสำหรับติดตั้งโปรแกรมลงคอมพิวเตอร์ แต่มีปัญหาเรื่องการกระจายให้เกิดการใช้งานอย่างทั่วถึง จึงได้ร่วมมือกับศูนยืเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) พัฒนาโปรแกรมให้สามารถใช้งานผ่านเว็บไซต์ได้
ด้าน ดร.สุปิยา เจริญศิริวัฒน์ นักวิจัยจากห้องปฏิบัติการวิจัยการประมวลผลสัญญาณชีวการแพทย์ เนคเทค ซึ่งได้รับโจทย์ในการแก้ปัญหาการขยายผลของซอฟต์แวร์ดังกล่าว ระบุว่า ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ให้ใช้งานได้แบบออนไลน์ ซึ่งสามารถอัพเดตฐานข้อมูลใหม่ๆ ได้ ติดตามประเมินผลได้ และผู้ใช้งานสามารถเลือกสำรับอาหารที่ปรุงได้รวดเร็ว มีคุณภาพ และคำนวณงบประมาณได้ โดยเป็นเมนูที่นักโภชนาการคิดให้ หรือผู้ใช้สามารถคิดเมนูขึ้นมาโดยเลือกวัตถุดิบในการปรุงและคำนวณออกมาเป็น คะแนนคุณทางโภชนาการได้
“สามารถขยายผลสู่การใช้งานได้หลายรูปแบบ ทั้งเครื่องแมค แท็บเล็ต ไอแพด ก็สามารถเข้าไปใช้งานได้ และมีการอัพเดตสำรับอาหารได้ตลอด” ดร.สุปิยากล่าว
คุณครูผู้สนใจหรือบุคคลทั่วไป สามารถเข้าไปใช้งานระบบดังกล่าวได้ที่ http://www.sizethailand.org/lunch