รัฐมนตรีคองโกเรียกร้องส่งคืนงาช้างแอฟริกาคืนถิ่น ส่วนที่คืนคองโกจะเผาทำลายทิ้ง ส่วนประเทศอื่นจะจัดการอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจ ทั้งนี้ อยากเห็นเวทีไซเตสต้านการค้างาช้างอย่างจริงจัง
ฯพณฯ อองรี จอมโบ (Henri Djombo) รัฐมนตรีเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและป่าไม้อย่างยั่งยืน สาธารณรัฐคองโก แถลงระหว่างการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 16 (CITES CoP16) เมื่อ 7 มี.ค. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถึงมาตรการควบคุมการค้างาช้าง ว่าคองโกจะเผาทำลายงาช้างซึ่งปัจจุบันมีอยู่ในครอบครอง 5,000 ชิ้น
ทั้งนี้ รัฐมนตรีจากคองโกยังเรียกให้ประเทศต่างๆ ที่มีงาช้างจากแอฟริกาส่งคืนงาช้างเหล่านั้นคืนแก่ประเทศต้นกำเนิดของงาช้างเหล่านั้น โดยแต่ละประเทศจะจัดอย่างไรนั้นให้เป็นดุลพินิจของประเทศต้นกำเนิดงาช้างนั้นๆ และอยากให้การประชุมไซเตสห้ามการค้างาช้างอย่างสิ้นเชิง
รายงานเอเอฟพีระบุข้อมูลจากทราฟฟิก (TRAFFIC) กลุ่มตรวจตราการค้าสัตว์ป่าซึ่งเป็นกลุ่มเอกชนไม่แสวงผลไรว่า การล่าและค้างาช้างนั้นเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยที่ผู้ก่ออาชญากรรมต่อสัตว์ป่านี้มักได้รับการลงโทษ และไม่เกรงกลัวต่อการถูกดำเนินคดี
จากการสำรวจโดยองค์กรสำรวจารสังหารช้างอย่างผิดกฎหมาย (Monitoring Illegal Killing of Elephants) หรือไมค์ (MIKE) ในพื้นที่อันเป็นถิ่นอาศัยของช้างแอฟริกา 40% พบว่ามีช้างถูกฆ่าไป 17,000 ตัว หรือคิดเป็น 7.4% ของประชากรช้างในพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่จำนวนประชากรของช้างที่แข็งแรงนั้นเพิ่มขึ้นเพียงปีละ 5-6%