กรีนพีซ - กรีนพีซตอบรับคำมั่นสัญญาของบริษัท เอเชียพัลล์ แอนด์ เพเพอร์ ที่ประกาศนโยบายยุติการทำลายป่า ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญเพื่อปกป้องผืนป่าฝนเขตร้อนแห่งอินโดนีเซีย หลังจากที่มีการกดดันจากสาธารณชนมายาวนานนับสิบปีและการเจรจากับกรีนพีซเมื่อเร็วๆ นี้
บริษัท เอเชียพัลล์ แอนด์ เพเพอร์ (Asia and pulp and paper) หรือ เอพีพี (APP) เป็นหนึ่งในผู้ผลิตผลิตภัณฑ์กระดาษและบรรจุภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ประกาศ “นโยบายการอนุรักษ์ป่าไม้” ซึ่งกรีนพีซระบุว่าหากมีการดำเนินการอย่างจริงจัง ก็ถือได้ว่าเป็นจุดสิ้นสุดของประวัติศาสตร์อันยาวนานของความขัดแย้งเรื่องการทำลายป่าฝนเขตร้อน
บุสตา ไมทาร์ หัวหน้ารณรงค์ด้านป่าไม้ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า กรีนพีซยินดีกับบริษัท เอพีพี ในการการประกาศเจตนารมณ์เพื่อยุติการทำลายป่าฝนเขตร้อนในครั้งนี้ กรีนพีซจะติดตามความก้าวหน้า ว่า มีการยุติการตัดไม้จริงอย่างที่ประกาศไว้หรือไม่อย่างใกล้ชิด หากบริษัท เอพีพี ได้ลงมือทำตามคำมั่นสัญญาที่ประกาศไว้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่หลังจากที่มีการตัดไม้ทำลายป่าในอินโดนีเซียมายาวนานหลายปี
ผืนป่าฝนเขตร้อนแห่งอินโดนีเซียเป็นที่อยู่อาศัยที่สำคัญของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ รวมทั้งเสือสุมาตรา และสัตว์ป่าและพืชพรรณนานาชนิด ทั้งนี้ รัฐบาลอินโดนีเซีย ระบุว่า อุตสาหกรรมการผลิตเยื่อและกระดาษกับอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันเป็นตัวการสำคัญในการทำลายป่า
การตัดสินใจของบริษัท เอพีพี เป็นผลมาจากแรงกดดันจากสาธารณชน อินโดนีเซีย และองค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศที่รณรงค์เพื่อยุติการทำลายล้างผืนป่าขนาดใหญ่ รวมถึงถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าและพรรณพืชซึ่งมีการจัดการโดยชุมชนท้องถิ่น
งานรณรงค์ของกรีนพีซเพื่อเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษเป็นการดำเนินการสืบสวนเชิงประจักษ์ในเรื่องบทบาทของบริษัท เอพีพี ในการทำลายป่าฝนเขตร้อน ที่เปิดเผยให้เห็นด้วยว่า มีแบรนด์ขนาดใหญ่ของโลกแบรนด์ใดบ้างที่ใช้บรรจุภัณฑ์จากผลิตภัณฑ์ของบริษัท เอพีพี ซึ่งถือว่ามีส่วนสนับสนุนในการตัดไม้ทำลายป่าด้วย
แบรนด์ยักษ์ใหญ่ของโลกได้ระงับการต่อสัญญา การซื้อสินค้าจากบริษัท เอพีพี และหันมาใช้นโยบายที่หยุดการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อนำมาใช้ในห่วงโซ่อุปทานการจัดหาบรรจุภัณฑ์ โดยมีมากกว่า100 บริษัทได้ตอบรับข้อเรียกร้องของกรีนพีซ รวมถึง อาดิดาส เนสท์เล่ และ ยูนิลิเวอร์
คำมั่นสัญญาใหม่ของของบริษัท เอพีพี เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความสำคัญในการปกป้องป่าไม้ของอินโดนีเซีย หลังจากข้อตกลงการยุติการตัดไม้ทำลายป่าโดยสิ้นเชิงเป็นเวลา 2 ปี ประธานาธิบดี ซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน แห่งอินโดนีเซีย ที่ประกาศตั้งแต่ 2554 จะหมดอายุภายในเดือนพฤษภาคม ศกนี้
“เราเรียกร้องให้รัฐบาลอินโดนีเซียใช้คำมั่นสัญญาที่บริษัท เอพีพี ประกาศไว้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับข้อตกลงเพื่อยุติการทำลายป่า โดยเริ่มจากการทบทวนการให้สัมปทานป่าไม้ที่มีอยู่ เนื่องจากเป็นประเด็นเร่งด่วน รัฐบาลจะต้องมีการการบังคับใช้กฎหมายป่าไม้เพื่อให้บริษัทต่างๆ เช่น เอพีพีนำนโยบายการอนุรักษ์ป่ามาใช้ หากรัฐบาลได้แก้ปัญหาในประเด็นนี้อย่างจริงจัง แน่นอนว่าภาคอุตสาหกรรมและภาคประชาสังคมของอินโดนีเซียสามารถช่วยยุติการสูญพันธ์ของเสือสุมาตราได้ในที่สุด” ไมทาร์ กล่าว
บริษัท เอพีพี ซึ่งส่วนหนึ่งของสินาร์ มัส กรุ๊ป (Sinar Mas group ) ซึ่งเป็นหนึ่งในสองบริษัทระดับโลกที่ผลิตเยื่อและกระดาษในประเทศอินโดนีเซีย และตัดไม้จากป่าฝนเขตร้อนเพื่อใช้เป็นผลิตภัณฑ์กระดาษให้กับครัวเรือนทั่วโลก นอกจากนี้กรีนพีซได้ส่งจดหมายให้กับซีอีโอของบริษัทเอพริล (Asia Pacific Resource International) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเยื่อและกระดาษที่ใหญ่ที่สุดอันดับสองของอินโดนีเซีย เพื่อเรียกร้องให้บริษัทดำเนินการให้คำมั่นเพื่อยุติการตัดไม้ทำลายป่าด้วย