ชาวสงขลาจุดธูปถึง “พีระ” แจ้งข่าวดีจับคนบงการ-ศาลสั่งระงับกระเช้าลอยฟ้า

 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวสงขลาร่วมจุดธูปบอกข่าวดีแก่ดวงวิญญาณ “พีระ ตันติเศรณี” หลัง ตร.ออกหมายจับผู้จ้างวานฆ่า และศาลปกครองสงขลามีคำสั่งให้ อบจ.สงขลา ระงับโครงการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าชั่วคราว ด้านเครือข่ายพลเมืองเตรียมเดินหน้าให้ความรู้ปลุกประชาชนใช้สิทธิปกป้องทรัพยากรท้องถิ่น

 
เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (22 ธ.ค.) เครือข่ายพลเมืองสงขลาปกป้องป่าสน พี่น้องชาวสงขลา และประชาชนทั่วไป ได้รวมตัวกันอีกครั้งที่หน้าสำนักงานสงขลาฟอรั่ม เลขที่ 97 ถนนนครใน เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งเป็นจุดที่นายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมาตรีนครสงขลา ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามกระหน่ำยิงจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อจุดธูปบอกกล่าวความคืบหน้าการดำเนินคดีแก่ดวงวิญญาณของนายพีระ

โดยตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 1 ราย เมื่อวานนี้ (21 ธ.ค.) คือ นายกิตติ ชูช่วย น้องชายของนายอุทิศ ชูช่วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยเป็นผู้ใช้จ้างวาน รวมผู้เกี่ยวข้องในคดีลอบสังหารนี้ถูกออกหมายจับแล้ว 4 คน โดย 3 คนที่เหลือเป็นทีมมือปืน ได้แก่ นายไพศาล หนูพันธ์ อายุ 47 ปี นายนิวัฒน์ รัตน์แก้ว อายุ 47 ปี และนายฉ้วน หมวดมี อายุ 50 ปี ซึ่งทั้ง 3 รายได้เข้ามอบตัวต่อตำรวจแล้ว ส่วนนายกิตติ ชูช่วย ซึ่งถูกจับกุมในฐานนะผู้จ้างวาน และมารดาของนายพีระ ตันติเศรณี ได้ยื่นหนังสือขอคัดค้านการประกันตัวนั้น มีรายงานข่าวแจ้งว่า ได้ใช้เงินจำนวน 3,000,000 บาทประกันตัวแล้ว

ส่วนความคืบหน้าเรื่องโครงการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้า จากแหลมสนอ่อน อ.เมือง จ.สงขลา ไปยังหัวเขาแดง อ.สิงนหคร จ.สงขลา ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ตายคัดค้านมาโดยตลอด และหลายฝ่ายเชื่อว่า เป็นชนวนเหตุให้เกิดการลอบสังหารอย่างโหดเหี้ยมกลางเมืองสงขลา ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ศาลปกครองจังหวัดสงขลาได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้นายอุทิศ ชูช่วย นายก อบจ.สงขลา ระงับการเปิดประมูลก่อสร้างโครงการไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว และจะดำเนินการพิจารณาคดีไปอย่างต่อเนื่อง


 
ทั้งนี้ กลุ่มเครือข่ายพลเมืองปกป้องป่าสนยืนยันจะเดินหน้าให้ความรู้แก่พี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีประชาชนจำนวนมากร่วมลงชื่อถวายฎีกาขอคัดค้านการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้า ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่ชาวสงขลาหันมาสนใจเรื่องที่กระทบกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยสิ่งที่ทางกลุ่มเล็งเห็นว่าจะต้องเสริมพลังภาคประชาชนให้เข้มแข็งนั่นก็คือ การให้ข้อมูลที่แท้จริงแก่ประชาชน ว่าแต่ละหน่วยงานได้ใช้อำนาจของตัวเองนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ เพื่อไม่ให้ประชาชนถูกเอาเปรียบ และลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิอันพึงได้รับของตนเอง

ส่วนบริเวณหน้าสำนักงานสงขลาฟอรั่ม ซึ่งเป็นจุดที่นายพีระ ตันติเศรณี ถูกคนร้ายสังหารด้วยอาวุธสงคราม 2 กระบอกจนเสียชีวิตนั้น จะมีการจัดทำหมุดทองเหลืองขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงการจากไปของผู้ที่กล้าหาญลุกขึ้นมาปกป้องท้องถิ่นด้วย