“อุทิศ” กินแห้ว! ศาลปกครองสงขลาสั่งพับกระเช้าลอยฟ้า

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ศาลปกครองสงขลาสั่ง “อุทิศ ชูช่วย” พับโครงการกระเช้าลอยฟ้าชั่วคราว หลังเข้าเคลียร์พื้นที่แหลมสนอ่อนเดินหน้าโครงการ ท่ามกลางเสียงคัดค้านท้วงติงเรื่องประชาพิจารณ์ และ EIA

หลังจากนายอุทิศ ชูช่วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา ประกาศเดินหน้าโครงการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าซึ่งอ้างว่าเป็นการสานต่อโครงการที่นายนวพล บุญญามณี อดีตนายก อบจ.สงขลา ได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยนายอุทิศ ชูช่วย ได้เริ่มดำเนินเข้าปรับปรุงพื้นที่แหลมสนอ่อน อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งเป็นป่าสนผืนสุดท้ายของ จ.สงขลา เพื่อเตรียมการก่อสร้างสถานีกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลสาบสงขลาไปยังหัวเขาแดง อ.สิงหนคร จ.สงขลา เป็นระยะทางรวม 1.8 กิโลเมตร ใช้งบประมาณ 459 ล้านบาท ท่ามกลางเสียงคัดค้านท้วงติงของหลายฝ่าย เนื่องจาก อบจ.สงขลา เดินหน้าโครงการนี้โดยที่ไม่ได้ทำประชาพิจารณ์ รวมทั้งรายงานด้านผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) และไม่ได้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีกหลายฉบับ

นายนวพล บุญญามณี และเครือข่ายพลเมืองสงขลา จึงได้รวมตัวกันฟ้องศาลปกครองจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขออำนาจศาลสั่งระงับโครงการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าชั่วคราว จนกว่าจะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องจนครบถ้วน

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (20 ธ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่ศาลปกครองสงขลาได้ติดต่อไปยังนายเชิดเกียรติ เมธีรักษ์ ทนายความที่ไปยื่นเรื่องฟ้องศาลปกครองกรณีคัดค้านการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าของ อบจ.สงขลา โดยศาลได้แจ้งว่า ให้ไปรับเอกสารซึ่งทางศาลปกครองสงขลาได้สั่งให้มีการคุ้มครองชั่วคราวตามร้องขอแล้ว

โดยหนังสือดังกล่าว เป็นหนังสือแจ้งคำสั่งศาล คดีดำเลขที่ ส.1447/2555 ลงวันที่ 20 ธ.ค. 2555 มีนายนวพล บุญญามณี กับพวก รวม 8 คนเป็นผู้ฟ้องคดี โดย อบจ.สงขลา เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1 และนายอุทิศ ชูช่วย นายก อบจ.สงขลา เป็นผู้ถูกฟ้องที่ฟ้อง 2 ทั้งนี้ ศาลปกครองจังหวัดสงขลาได้มีคำสั่งให้นายอุทิศ ชูช่วย นายก อบจ.สงขลา ระงับการประมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Auction ของโครงการกระเช้าลอยฟ้าไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น

อย่างไรก็ตาม โครงการกระเช้าลอยฟ้าดังกล่าวนี้ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นหนึ่งในปมสังหารนายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา ด้วยอาวุธสงครามจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมาด้วย เนื่องจากนายพีระแสดงท่าทีคัดค้านโครงการดังกล่าวอย่างชัดเจน และพบรถยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถสมิหลาเรดิโอ สถานีวิทยุของนายกิตติ ชูช่วย น้องชายของนายอุทิศ ชูช่วย ทั้งนี้ ตำรวจได้ติดตามเบาะแสคนร้ายอย่างต่อเนื่อง แต่คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร และยังสาวไปไม่ถึงตัวผู้บงการใหญ่