สำหรับใครที่อยากจะเติมเต็มจินตนาการแห่งตำนาน “ซานตาคลอส” คุณลุงร่างอ้วนใจดีที่นั่งรถลากเลื่อนไปบนท้องฟ้าพร้อมกวางเรนเดียร์ เพื่อแจกของขวัญแก่เด็กๆ ทั่วโลก ยังคงตามติดเส้นทางของนักบุญได้เช่นเคย กับประเภทที่เกิดจากความคลาดเคลื่อนมาเกินครึ่งศตวรรษ
ในคืนวันคริสต์มาสอีฟที่ 24 ธ.ค.นี้ หน่วยป้องกันอากาศยานแห่งอเมริกาเหนือ (North American Aerospace Defense Command) หรือ NORAD ยังคงให้บริการติดตามเส้นทางแจกของขวัญของซานตาคลอส ตั้งแต่ขั้วโลกเหนือลงมา ผ่านเว็บไซต์ “NORAD Tracks Santa” http://www.noradsanta.org/en/ ซึ่งรวบรวมข้อมูลน่ารู้และทวีตเกี่ยวกับลุงซานต้า
ในเว็บไซต์ของ NORAD ยังระบุด้วยว่า จากข้อมูลทางประวัติศาสตร์และการติดตามเส้นทางแจกของขวัญของซานตาคลอส พวกเขาเชื่อว่าซานตาคลอสนั้นมีชีวิตและสถิตอยู่ในจิตใจของเด็กๆ ทั่วโลก แต่เรื่องราวของซานต้ายังเป็นเรื่องลึกลับสำหรับเราทุกคน ทั้งนี้ หากคิดตามว่าลุงซานต้าต้องส่งของขวัญให้เด็กทั่วโลกในเวลาเดียวกัน เขาจะใช้เวลาเพียง 0.00003 วินาทีต่อการส่งของขวัญสำหรับบ้าน 1 หลัง
ซานต้าเป็นที่รู้จักกันในหลายชื่อ ในจำนวนนั้นคือ “เซนต์นิค” (Saint Nick) ซึ่งนักประวัติศาสตร์ ระบุว่า ประวัติศาสตร์ของซานต้าเริ่มต้นจากความเชื่อเกี่ยวกับเซนต์นิโคลัส (Saint Nicholas) นักบวชในศาสนาคริสต์เมื่อศตวรรษที่ 5 ซึ่งมีชีวิตอยู่ในตะวันออกกลาง และมีชื่อเสียงโด่งดังจากความใจดี เขามักให้ของขวัญแก่ผู้ด้อยโอกาส หย่อนของขวัญที่มีทองลงปล่องไฟของ และเซอร์ไพร์สพวกเขาด้วยการซ่อนในถุงเท้ายาว
คลิปโปรโมตกิจกรรมติดตามรอยแซนต้าของ NORAD
ไลฟ์ไซน์ ระบุว่า NORAD ซึ่งปกติมีหน้าที่เฝ้าระวังจรวดมิสไซล์ อากาศยน หรือยานอวกาศ ซึ่งอาจจะเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ หรือแคนาดา จะใช้เครื่องไม้เรื่องมือทั้งหมดที่มีเพื่อติดตามซานตาคลอสในวันคริสต์มาสอีฟนี้ เริ่มต้นจากสถานีเรดาร์ใกล้ขั้วโลกเหนือจะปักมุดจุดเริ่มต้นเดินทางของซานต้า จากนั้นจะใช้กลุ่มดาวเทียมเฝ้าจับตาการเดินทางโดยอาศัยจุดเด่นของจมูกกวางเรนเดียร์จ่าฝูง
คำอธิบายอย่างเป็นทางการของเว็บไซต์ติดตามซานต้า ระบุว่า จมูกสีแดงแปร๊ดของเจ้ารูดอล์ฟ (Rudolph) จะให้สัญญาณอินฟราเรด ซึ่งช่วยให้ดาวเทียมของเราตรวจพบรูดอล์ฟและซานต้าได้ โดยเครือข่ายกล้องความเร็วสูงซานต้าแคมส์ (Santa Cams) ซึ่งจะถูกใช้งานเพียงปีละครั้งเพื่อการนี้ จะบันทึกภาพและวิดีโอขณะรถลากเลื่อนลอยผ่านไป และเขาอาจจะเจอเพื่อนหญิงสักคนเมื่อเข้าสู่น่านฟ้าของอเมริกาเหนือ
“นักบินรบ NORAD ของแคนาดา ซึ่งขับเครื่องบินเจ็ท CF-18 จะบินสกัดและต้อนรับซานต้าสู่อเมริกาเหนือ ส่วนในสหรัฐฯ นักบินรบ NORAD ของอเมริกาจะขับทั้ง F-15, F-16 หรือเอฟ F-22 จะบินประกบซานต้าและกวางเรนเดียร์ที่โด่งดังของเขา ทั้ง แดเชอร์ (Dasher) แดนเซอร์ (Dancer) แพรนเซอร์ (Prancer) วิกเซน (Vixen) คิวปิด (Cupid) ดอนเนอร์ (Donner) บลิทเซน (Blitzen) และแน่นอนว่ารวม รูดอล์ฟด้วย” เว็บไซต์ของ NORAD ระบุ
NORAD เริ่มติดตามซานต้ามาอย่างต่อเนื่องทุกปีนับแต่ปี 1958 เมื่อองค์กรสองชาตินี้ได้ถูกก่อตั้งขึ้น แต่ไลฟ์ไซน์ ระบุว่า จุดเริ่มต้นจริงๆ ของประเพณีนี้เริ่มต้นก่อนหน้านั้นโดยหน่วยป้องกันอากาศยานคอนติเนนทัล (Continental Air Defense Command) หรือ CONAD เมื่อปี 1955 ซึ่งบริษัทเอกชนในโคโลราโดสปริงส์ได้ทำสื่อโฆษณาให้เด็กโทร.ไปหาซานต้า แต่กลับตีพิมพืหมายเลขโทรศัพท์ผิดเป็นเบอร์สายด่วนผู้บัญชาการฝ่ายปฏิบัติการของ CONAD
ผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวในช่วงเวลานั้น คือ พันเอกแฮร์รี ชูป (Colonel Harry Shoup) ซึ่งได้ร่วมกับลูกน้องตรวจสอบเรดาร์เพื่อหาตำแหน่งที่ซานต้าเดินทางจากขั้วโลกเหนือลงมาก เด็กๆ ที่โทรเข้าไปก็จะได้ตำแหน่งปัจจุบันของซานต้า และประเพณีนี้ก็ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง
ตำนานจดหมายของเด็ก 8 ขวบที่ส่งไปถาม บก.หนังสือพิมพ์ เมื่อปี 1897 ว่ามีซานตาคลอสอยู่จริงหรือไม่? และได้รับการตอบกลับอย่างน่าประทับใจ