นาซาระบุแผ่นน้ำแข็งยักษ์ของกรีนแลนด์ที่ละลายฉับพลันในเดือนนี้กินพื้นที่ใหญ่กว่าปกติ ด้านนักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า การละลายน้ำอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนซึ่งกินพื้นที่กว้างที่สุดเท่าที่มีการบันทึกโดยการสำรวจผ่านดาวเทียมในช่วง 3 ทศวรรรษที่ผ่านมา
เหตุแผ่นน้ำแข็งยักษ์ละลายนี้เกิดขึ้นที่ “ฐานซัมมิท” (Summit station) ซึ่งเป็นจุดสูงสุดและหนาวเย็นที่สุดของกรีนแลนด์ โดยการละลายของแผ่นน้ำแข็งพุ่งจาก 40% เป็น 97% ในเวลาเพียง 4 วันนับจากวันที่ 8 ก.ค.2012 ที่ผ่านมา ซึ่งแม้ว่าทุกฤดูร้อนแผ่นน้ำแข็งของกรีนแลนด์กว่าครึ่งจะละลายเป็นปกติอยู่แล้ว
หากแต่บีบีซีนิวส์รายงานว่าทั้งความเร็วและขนาดของการละลายที่พุ่งพรวดในปีนี้ก็สร้างความประหลาดใจให้แก่นักวิทยาศาสตร์ผู้นิยามปรากฏการณ์นี้ว่า “ไม่ปกติ” อย่างมาก โดยองค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐ (นาซา) กล่าวว่าน้ำแข็งเกือบทั้งหมดที่ปกคลุมกรีนแลนด์ครอบคลุมตั้งแต่บริเวณที่มีน้ำแข็งบางที่สุดบริเวณชายฝั่งไปถึงศูนย์กลางของเกาะซึ่งหนา 3 กิโลเมตรเกิดการละลายที่ชั้นผิว
วาลีด อับดาลาติ ( Waleed Abdalati) นักวิทยาศาสตร์อาวุโสของนาซา กล่าวว่าเมื่อเราได้เห็นการละลายในจุดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หรืออย่างน้อยก็นานแล้วที่ไม่ได้เห็นเช่นนี้ ทำให้เราต้องลุกข้นมาถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?” ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณสำคัญ เพราะน้ำแข็งกรีนแลนด์ละลายเป็นวงกว้างเช่นนี้ เกิดขึ้นโดยที่เรายังไม่สามารถประเมินได้ว่าเป็นเหตุการณ์ธรรมชาติแต่นานเกิดขึ้นที หรือเป็นผลพวงจากภาวะโลกร้อนที่มนุษย์สร้างขึ้น
นักวิทยาศาสตร์เชื่อน้ำแข็งของกรีนแลนด์จำนวนมากจะกลับมาแข็งตัวอีกครั้ง และหากไม่นับเหตุการณ์นี้ข้อมูลที่ดาวเทียมสำรวจไว้ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมานั้น พบว่ามีน้ำแข็งละลายมากที่สุด 55% ของพื้นที่น้ำแข็งทั้งหมด ส่วนข้อมูลจากแกนน้ำแข็งยังเผยด้วยว่าครั้งล่าสุดที่น้ำแข็งละลายที่ฐานซัมมิทคือเมื่อปี 1889
ข่าวนี้ตามหลังการเผยภาพถ่ายดาวเทียมของนาซาที่แสดงให้เห็นภูเขาน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่าเมืองแมนฮัตตันถึง 2 เท่า แตกออกจากธารน้ำในกรีนแลนด์ไม่กี่วัน ซึ่ง ทอม แวกเนอร์ (Tom Wagner) จากนาซากล่าวว่า เหตุการณ์น้ำแข็งละลายฉับพลันนี้ยังรวมเข้ากับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ไม่ปกติอื่นๆ อีก อย่างเช่นเหตุการแตกของธารน้ำแข็งปีเตอร์มันน์ (Petermann Glacier) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งล้วนเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องที่ซับซ้อน