ผลพวงจากการปะทุรุนแรงของดวงอาทิตย์เมื่อวันศุกร์ที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้เกิด “พายุสุริยะ” ที่อันตรายต่อชีวิตบนโลก แต่เพราะดาวแม่ของเรามี “สนามแม่เหล็กโลก” เป็นเกราะป้องกัน เราจึงได้เห็นภาพงามๆ ของ “แสงออโรรา” ที่แต่งแต้มสีสันบนผืนฟ้า
คำอธิบายจากเนชันนัลจีโอกราฟิก “แสงออโรรา” (Auroras) เกิดเมื่ออนุภาคมีประจุจากดวงอาทิตย์พุ่งมาปะทะสนามแม่เหล็กโลก และถูกผลักไปกองอยู่บริเวณขั้วโลก เมื่ออนุภาคมีประจุพุ่งชนกับโมเลกุลในชั้นบรรยากาศโลก ก็จะส่งผ่านพลังงานให้กันและทำให้เกิดการเรืองแสงของอากาศ
เมื่อวันศุกร์ที่15 มิ.ย.2012ที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์ได้เห็นการหมุนของ “จุดมืด” (sunspot) ขนาดใหญ่ในบริเวณที่มีกิจกรรมบนดวงอาทิตย์ ซึ่งแต่ละจุดมีขนาดใหญ่มากกว่าโลกเสียอีก โดย ไมค์ โซลอนโทอิ (Mike Solontoi) นักดาราศาสตร์จากท้องฟ้าจำลองอาดเลอร์ (Adler Planetarium) ในชิคาโก สหรัฐฯ กล่าวว่า กิจกรรมที่เกิดขึ้นตอนนี้บนดวงอาทิตย์นั้นมาจากบริเวณซึ่งมีขนาดค่อนข้างใหญ่มาก ซึ่งใครที่ได้ชมปราฏการณ์ “ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์” ที่ผ่านมา จะสังเกตเห็นจุดมืดได้ไม่ยาก
ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์อวกาศเชื่อว่า จุดมืดได้ปล่อยกลุ่มก้อนของอนุภาคมีประจุที่เรียกว่า “การพ่นมวลโคโรนา” (coronal mass ejection) หรือ ซีเอ็มอี (CME) ออกมาอย่างน้อย 2 กลุ่มก้อน พุ่งตรงมายังโลก ทำให้เกิดปรากฏการณ์แสงออโรราเข้มจัด โดยเห็นแสงออโรราเริงระบำบนท้องฟ้าตั้งแต่บริเวณแบอารืกติก ไล่ลงมาถึงแคนาดาและสหรัฐฯ ซึ่งมองเห็นได้ไกลลงมาถึง วิสคันซิน มินเนโซตา และแมรีแลนด์