หากการทดลองของพวกเขาถูกต้องก็จะเป็นการค้นพบที่กระเทือนต่อวงการฟิสิกส์ แต่ทีมวิจัยได้ตรวจสอบการทดลองของพวกเขาเองและพบว่าน่าจะมีจุดคลาดเคลื่อน ซึ่งอาจส่งผลให้พวกเขาวัดความเร็วของ “นิวทริโน” ได้เร็วกว่าแสง โดยจะมีการทดสอบเพิ่มเติมในเดือน พ.ค.
ทั้งนี้ เมื่อเดือน ก.ย.2011 ทีมวิจัยกลุ่มโอเปรา (Opera: Oscillation Project with Emulsion-Racking Apparatus) อิตาลีได้รายงานว่าในการทดลองของพวกเขานั้นอนุภาคนิวทริโนเดินทางเร็วกว่าแสง แต่ตอนนี้ทางบีบีซีนิวส์รายงานว่าพวกเขาพบ 2 จุดมีปัญหาที่น่าจะส่งผลกระทบต่อการวัดความเร็วของอนุภาค ได้แก่ อุปกรณ์จับเวลา และการเชื่อมต่อของเส้นใยแก้วนำแสง โดยจะมีการทดลองเพิ่มเติมในเดือน พ.ค.เพื่อประเมินว่าปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการวัดความเร็วหรือไม่
เริ่มแรกกลุ่มโอเปราได้เริ่มศึกษาอนุภาคนิวทริโนจากการทดลองให้อนุภาคจิ๋วเดินทางเป็นระยะ 730 กิโลเมตร จากเครื่องเร่งอนุภาคขององค์กรเพื่อการวิจัยนิวเคลียร์แห่งยุโรป (European Organization for Nuclear Research) หรือเซิร์น (CERN) ในสวิตเซอร์แลนด์ ไปยังห้องปฏิบัติการกรานซัสโซ (Gran Sasso) ซึ่งอยู่ใต้ดินในอิตาลี โดยมีเป้าเพื่อตรวจนับว่านิวทริโนนั้นเปลี่ยนรูปจากชนิดหนึ่งไปเป็นอีกชนิดหนึ่งถี่แค่ไหนระหว่างการเดินทาง
หากแต่ระหว่างทดลองนั้นทีมวิจัยพบว่านิวทริโนเร็วกว่าแสง 60 นาโนวินาทีหากทั้งนิวทริโนและแสงเดินทางด้วยระยะเท่ากัน ซึ่งผลที่ได้ออกมานี้แย้งต่อทฤษฎีและการทดลองทางฟิสิกส์ที่มีความสำคัญมานับศตวรรษ และพวกเขาได้เผยแพร่ผลการทดลองอันไม่คาดฝันนี้ให้แก่ประชาคมวิทยาศาสตร์เพื่อให้ช่วยยืนยันหรือล้มล้างผลการทดลอง และก็มีการทดลองอีกจำนวนมากทั่วโลกที่พยายามทดลองให้ได้ผลซ้ำเช่นเดียวกันนี้
สำหรับการทดลองซ้ำของทีมโอเปราจะเป็นการแก้ปัญหาในเรื่องที่พวกเขาเจอผลกระทบจากการวัดความเร็วสุดท้ายของนิวทริโน ซึ่ง 2 ปัญหาที่ทีมวิจัยได้ระบุมานั้นจะส่งผลต่อการไม่ยอมรับความเร็วที่ปรากฏ โดยทีมวิจัยกล่าวว่ามีปัญหาเรื่องการประสานเวลาในอุปกรณ์จับเวลา รวมทั้งยังเจอปัญหาการเชื่อมต่อของเส้นใยแก้วนำแสงระหว่างสัญญาณจีพีเอส (GPS) และนาฬิกาหลักในการทดลอง
อย่างไรก็ดี มีการตั้งข้อสังเกตว่าทีมวิจัยเก็บผลทดลองที่ได้นี้นานว่า 3 ปีก่อนที่จะประกาศออกมาเมื่อปีที่แล้ว ระหว่างนั้นเหตุใดพวกเขาจึงไม่พบประเด็นเหล่านี้ ซึ่ง เซอร์จิโอ เบอร์โตลุซซี (Sergio Bertolucci) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของเซิร์น กล่าวว่าเป็นเรื่องยากที่จะพูด แต่ทีมวิจัยก็พยายามค้นหาความคลาดเคลื่อนในการทดลองอยู่นานกว่าปี แต่ไม่เคยหยุดพยายามที่จะล้มล้างผลการวัดที่ได้
ในขณะที่ทีมโอเปราดำเนินการตรวจสอบเพื่อตรวจวัดผลกระทบต่อการวัดอย่างไม่กำกวม ทางคณะก็รอคอยที่จะทำการทดลองชุดใหม่เพื่อวัดความเร็วนิวทริโนเมื่อลำอนุภาคพร้อมให้ใช้งานในปี 2012 นี้ และยังมีอีกหลายองค์กรจากหลายประเทศที่มีความพยายามวัดความเร็วอนุภาคนิวทริโน เช่น บอริซิโน (Borexino) ซึ่งเป็นกลุ่มการทดลองของห้องปฏิบัติการกรานซัสโซเช่นกัน กลุ่มไมนอส (Minos) จากห้องปฏิบัติการเฟอร์มิแล็บ (Fermilab) ของสหรัฐฯ และห้องปฏิบัติการที2เค (T2K) ของญี่ปุ่น เป็นต้น
“เรื่องราวเหล่านี้ไปเผยออกไปในวงกว้างให้เห็นว่างานของวิทยาศาสตร์เป็นอย่างไร แน่นอนว่าคนจากกลุ่มโอเปราอาจไม่ปลื้มนัก พวกเขาคงอยากให้นิวทริโนวิ่งเร็วกว่าแสงอยู่ แต่ในความเป็นจริงพวกเขาได้เอาตัวเองออกมาให้กลุ่มเพื่อนร่วมงานในวงกว้างตรวจสอบอย่างละเอียด ผมคิดว่านี่เป็นกรณีที่ดีสำหรับวิทยาศาสตร์” เบอร์ลุซโซกล่าว