กลายเป็นภาพสุดอึ้งเมื่อ “หมีขั้วโลก” ที่ปกติจะล่าแมวน้ำหันมาล่ากันเอง ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นเมื่อหาเหยื่อปกติได้ยากขึ้น และเริ่มพบเหตุการณ์เช่นนี้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกรณีที่หมีติดอยู่ชายฝั่งและขาดอาหารเป็นเวลายาวนานขึ้น เนื่องจากการละลายของธารน้ำแข็งที่เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
ภาพหมีขั้วโลกตัวเต็มวัยกำลังลากลูกหมีที่เพิ่งฆ่าไปบนแผ่นน้ำแข็งของทะเลอาร์กติก (Arctic sea) เป็นภาพที่บันทึกได้โดย เจนนี รอสส์ (Jenny Ross) ช่างภาพสิ่งแวดล้อมของหนังสือพิมพ์ ซึ่งบีบีซีนิวส์ระบุว่า ปกติหมีขาวจะล่าแมวน้ำ แต่ในกรณีที่ไม่สามารถหาเหยื่อดังกล่าวได้สัตว์โลกชนิดนี้จะเริ่มหันไปหาแหล่งอาหารอื่นๆ ซึ่งรวมถึงพวกเดียวกันเอง
“นักล่าที่กินพวกเดียวกันเองนี้มักจะพบให้เห็นได้ในบางปริเวณ อย่างไรก็ดี มีการพบเหตุการณ์ลักษณะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในพื้นที่หมีขั้วโลกติดอยู่ในชายฝั่งและขาดอาหารเป็นเวลานานเนื่องจากน้ำแข็งในทะเลละลายอันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ” รอสส์บอกทางบีบีซีนิวส์ โดยเธอได้เผยเรื่องราวเบื้องหลังภาพดังกล่าวภายในการประชุมวิชาการของสหพันธ์ธรณีฟิสิกส์อเมริกัน (American Geophysical Union: AGU) ซึ่งเป็นการประชุมที่รวมนักวิทยาศาสตร์ด้านโลกวิทยา (Earth science) มากที่สุด
ภาพถ่ายดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.ค.2010 ซึ่งได้รายงานลงวารสารวิชาการอาร์กติก (Arctic) ซึ่งเป็นการศึกษาที่มี ดร.เอียน สไตร์ลิง (Dr.Ian Stirling) นักชีววิทยาหมีขั้วโลกจากองค์กรสิ่งแวดล้อมแคนาดา (Environment Canada) เข้าร่วมด้วย โดยเหตุสังหารเกิดขึ้นที่ธารน้ำแข็งออลกาสเตรเตต (Olgastretet) ในหมู่เกาะสวาลบาร์ด (Svalbard archipelago)
ทั้งนี้ รอสส์สังเกตเห็นหมีขาวจากบนเรือสังเกตการณ์ผ่านเลนส์บันทึกภาพระยะไกล ซึ่งตอนแรกเธอเห็นเพียงหมีตัวผู้โตเต็มวัยกำลังคาบอาหารชิ้นโต แต่เมื่อเข้าไปใกล้ขึ้นเธอจึงได้เห็นว่าเป็นลูกหมี ซึ่งวิธีที่หมีเต็มวัยใช้สังหารลูกหมีนั้นก็เป็นวิธีเดียวกับที่หมีขั้วโลกใช้ฆ่าแมวน้ำ นั่นคือใช้คมเขี้ยวที่แหลมคมกัดไปบนหัวของเหยื่อ
“ทันทีที่หมีตัวโตเริ่มระวังว่าเรือกำลังเข้าไปใกล้ มันก็ยืนจ้อง แล้วคร่อมร่างหมีน้อยไว้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของเหยื่อและสื่อว่า 'มันคืออาหารของฉัน' จากนั้นมันก็ขากรรไกรพลิกร่างเหยื่อ มันใช้แค่ขากรรไกรและคอที่แข็งแรงลำเลียงเหยื่อจากแผ่นน้ำแข็งหนึ่งไปอีกแผ่นหนึ่ง และเมื่อได้ระยะที่มันคิดว่าไกลพอควรแล้ว มันก็หยุดและกินอาหารชิ้นโต” รอสส์เล่าย้อนเหตุการณ์ และบอกด้วยว่ามีหมีอีกตัวในบริเวณนั้น ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแม่ของลูกหมีที่ถูกฆ่า
สำหรับธารน้ำแข็งออลกาสเตรเตตนั้นเป็นทางผ่านของน้ำที่แบ่ง 2 เกาะหลักของสวาลบาร์ด ซึ่งโดยปกติแล้วมันเป็นบริเวณที่มีน้ำแข็งปกคลุมตลอดทั้งปี แต่เนื่องจากน้ำแข็งที่ลดน้อยลงอย่างมากในช่วงเดือนฤดูร้อนที่ผ่านมาทำให้บริเวณที่เป็นน้ำแข็งกลายเป็นน้ำนานขึ้น และเมื่อไม่มีลานน้ำแข็งให้ล่าแมวน้ำเหมือนอย่างเคย รอสส์กล่าวว่าหมีขั้วโลกจำเป็นต้องหาอาหารอย่างอื่นแทน
“เมื่ออยู่บนบกพวกมันก็ค้นหาขยะและอาหารของมนุษย์ พวกมันยังเริ่มออกล่านกทะเลและไข่ อาหารทางเลือกเหล่านี้ไม่อาจทดแทนให้พวกมันได้ แต่พวกมันก็ยังคงหาอาหารเหล่านี้ต่อไป การออกล่าหมีตัวอื่นเป็นอีกวิธีที่จะได้อาหาร มันอาจจะเป็นวิธีง่ายๆ สำหรับหมีตัวผู้ขนาดใหญ่ มันเป็นเช่นนี้เพราะการละลายของน้ำแข็งในทะเล ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้อาจกลายเป็นเรื่องปกติก็ได้” รอสส์ให้ความเห็น