รมต.สำนักนายกฝากนักวิจัยช่วยรัฐบาลผ่านวิกฤต

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เปิดงานประชุมนักวิจัย สกว. พร้อมทิ้งหลายโจทย์ให้นักวิจัยช่วยแก้ปัญหา ทั้งเรื่องโอกาสจากฐานอำนาจเศรษฐกิจที่จะย้ายมาทางเอเชีย การเปิดสู่ประชาคมอาเซียน รวมหาคำตอบสาเหตุปัญหาน้ำท่วมครั้งนี้ พร้อมชี้ว่านักวิจัยจะช่วยให้รัฐบาลผ่านวิกฤตจากการเปลี่ยนผ่านไปได้

นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุม “นักวิจัยรุ่นใหม่พบเมธีวิจัยอาวุโส” และปาฐกถาถึงนโยบายการสนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 ต.ค.54 ณ โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ รีสอร์ท รีเจนท์ บีช ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่ารัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศในช่วงการเปลี่ยนถ่าย ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง ดังนั้น จะบริหารประเทศโดยออกแบบเดิมไม่ได้ แต่ต้องใช้กรอบแนวคิดแบบใหม่มาเสริม ซึ่งจำเป็นต้องมีข้อมูลสนับสนุน มีการศึกษาวิเคราะห์จุดอ่อน ซึ่งไม่ได้เกิดจากการนั่งคิด จึงเห็นความสำคัญของการวิจัย ซึ่งนักวิจัยจะช่วยรัฐบาลผ่านพ้นวิกฤตการเปลี่ยนแปลงไปได้

ทั้งนี้ ปาฐกถาของนายสุรวิทย์ซึ่งทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ได้ร่วมฟังด้วยนั้นได้ฝากโจทย์แก่นักวิจัยในหลายๆ เรื่อง อาทิ เรื่องฐานอำนาจทางเศรษฐกิจที่กำลังย้ายจากยุโรปมาทางเอเชีย แล้วจะทำอย่างไรให้ไทยได้เปรียบ เรื่องการพึ่งพลังงานจากภายนอกมากกว่า 50% และการผลิตภายในประเทศยังไม่เพียงพอ แล้วจะแก้ปัญหาตรงนี้ได้อย่างไร หรือเรื่องการศึกษาที่มีการวิจารณ์ว่าลงทุนงบประมาณไปมาก แต่สติปัญญาเด็กไทยยังต่ำลง ซึ่งนักวิจัยจะเป็นคนบอกได้ว่าอะไรคือสิ่งที่ล้มเหลวและจะทำอย่างไรต่อไป เป็นต้น

“ในปี 2558 เราจะเป็นประชาคมอาเซียน ตรงนี้มีคนไทยสักกี่คนที่รู้ ซึ่งการเป็นประชาคมอาเซียนจะทำให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงาน ซึ่งร่วมถึงนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยด้วย ไทยยังต้องการวิจัยเตรียมประเทศเข้าสู่ประชาคมอาเซียนดังกล่าว การวิจัยทางด้านสังคมก็เป็นสิ่งจำเป็น เราพูดเรื่อง “ปรองดอง” แล้วปรองดองจริงหรือไม่ เริ่มแล้วหรือยัง ถ้าไม่ปรองดองประเทศจะเดินหน้าได้ลำบาก ทำอย่างไรจะรวมคนที่มีแนวคิดแตกต่างกันแต่มีเป้าหมายเดียวกันได้” นายสุรวิทย์กล่าว

ในส่วนของงานวิจัยประยุกต์นายสุรวิทย์กล่าวว่ายังเป็นที่ต้องการ พร้อมทั้งทิ้งโจทย์ว่าจะทำอย่างไรให้การวิจัยขยายผลทางธุรกิจได้มากขึ้น โดยตอนนี้เราต้องซื้อเทคโนโลยีต่างประเทศ แต่เราจะทำเทคโนโลยีของเราเองและขยายผลอย่างไร ทั้งนี้ การแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างนักวิจัยและเอกชนจะทำให้เกิดความร่วมมือ ซึ่งงบลงทุน 0.2% ของจีดีพีอาจเพิ่มขึ้นจากการทำงานร่วมกัน และเมื่อเอกชนเห็นประโยชน์ก็ลงทุนวิจัยมากขึ้น

พร้อมกันนี้นายสุรวิทย์ได้ฝากให้นักวิจัยช่วยกันสาเหตุของน้ำท่วมครั้งนี้ว่าเกิดขึ้นจากอะไร แล้วจะเตรียมประชาชนหรือเตรียมพร้อมอย่างไร และเรื่องการสร้างเขื่อนนั้นจะส่งผลให้น้ำท่วมหรือไม่ท่วมอย่างไร ซึ่งในปัญหาเรื่องน้ำท่วมนั้นเขากล่าวว่ารัฐบาลสับสนมากเพราะมีข้อมูลที่มาจากหลายแหล่ง หรือเรื่องเอาเรือไปผันน้ำนั้นบางคนก็บอกว่าดี บางคนก็บอกว่าไม่ดี และนอกจากน้ำท่วมแล้วยังมีปัญหาภัยแล้งให้แก้ปัญหาต่อด้วย

สำหรับการประชุมนักวิจัยรุ่นใหม่พบเมธีวิจัยอาวุโสนี้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 11 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักวิจัยรุ่นใหม่และนักวิจัยซึ่งจัดเป็นรุ่นกลางตามนิยาม สกว.ได้นำเสนอความก้าวหน้าของผลงานวิจัยที่ได้รับทุนจาก สกว.ทั้งในรูปแบบบรรยายและโปสเตอร์ รวมถึงรับฟังความคิดเห็นจากจากผู้ทรงคุณวุฒิและเมธีวิจัยอาวุโส โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 700 คน