รมต.วิทย์ในฐานะรองประธานคณะกรรมการจัดการน้ำและการเตือนภัย เผยแผนบริหารจัดการน้ำท่วมโดยดูเส้นทางน้ำไหลเป็นหลัก ระบุถนนเส้นไหนที่ขาดเพราะน้ำท่วมให้เปลี่ยนเป็นสะพาน ถนนเส้นไหนที่ขนานกับทะเลต้องเจาะให้น้ำไหลผ่าน ส่วนพื้นที่ชุ่มน้ำให้ทางเข้าออกของน้ำ
หลังเปิดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการ ประจำปี 2554 เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ครบรอบ 25 ปี เมื่อวันที่ 14 ก.ย.54 ณ บางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนและทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ ถึงแนวทางในการแก้ปัญหาน้ำท่วมในขณะนี้
นายปลอดประสพกล่าวว่า เทคโนโลยีในการบริหารจัดการน้ำที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มีอยู่คือ เทคโนโลยีการคาดการณ์เส้นทางพายุ ขนาดพายุ สถานการณ์ความรุนแรงของน้ำท่วม และเทคโนโลยีคาดการณ์ว่าน้ำไหลมาจากไหน ซึ่งก่อนตัดสินใจผันน้ำนั้นต้องรู้ว่าน้ำจะท่วมไปทางไหน พร้อมกล่าวว่ามีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากเพราะฝนตกน้ำท่วมเป็นเรื่องธรรมดา ประเทศเทศไทยเป็นพื้นที่ในเขตมรสุม อยู่ในพื้นที่ลุ่ม ส่วนเทคโนโลยีการบริหารจัดน้ำของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ที่มีแต่ไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้เพราะมีแล้วไม่ใช้ แต่จะแก้ปัญหาอย่างไรนั้น เขาบอกว่าไม่อยากพูดของเก่า
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและการเตือนภัย พื้นที่ 25 ลุ่มน้ำ โดยมีตัวแทนจาก 5 กระทรวงร่วมดูแล คือ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งนายปลอดประสพได้ในฐานะรองประธานคณะกรรมการดังกล่าวได้รับหน้าที่ในการร่างแผนบริหารจัดการน้ำ และเขาได้รับหน้าที่ดูแลพื้นที่น้ำท่วมใน จ.นครสวรรค์ และ จ.นนทบุรี
นายปลอดประสพกล่าวว่า แผนดังกล่าวจะผันน้ำโดยดูทิศทางน้ำไหลเป็นหลัก อย่างน้ำท่วมครั้งนี้มีถนนขนาดหลายแห่ง ซึ่งตรงไหนที่มีถนนขาดให้เปลี่ยนไปสร้างสะพานแทน ส่วนบริเวณที่มีน้ำท่วมบ้านคนซ้ำซากให้ขุดเป็นพื้นที่รับน้ำ บริเวณที่คอสะพานขาดให้ขยายขนาดเพิ่ม ถนนเส้นไหนที่ขนานกับทะเลต้องเจาะให้น้ำไหลผ่าน และเส้นทางน้ำธรรมชาติที่คดโค้งให้ทำเป็นเส้นตรง สำหรับพื้นที่ชุ่มน้ำให้เปิดช่องทางเข้าออกให้น้ำไหลเข้าออกเอง และต้องเชื่อมต่อเส้นทางน้ำทั่วประเทศ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นั้นจะรอให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้แถลง