xs
xsm
sm
md
lg

นาซารุมสับกันเอง ! ไม่ยอมรับงานวิจัยนักฟิสิกส์สุริยะพบ “ชีวิตต่างดาว” ในอุกกาบาต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักวิทยศาสตร์รุมประนามงานวิจัยการค้นพบร่องรอยสิ่งมีชีวิตในอุกกาบาต (เดลีเทเลกราฟ)
หลังจากนักวิทยาศาสตร์ระดับหัวกะทิของตัวเองออกมาเผยแก่สาธารณชนว่า เส้นใยและช่องว่างที่พบในหินอวกาศ ซึ่งดูคล้ายแบคทีเรียนั้นคือ "ฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตต่างดาว" ทำให้ "นาซา" ออกมาปฏิเสธว่าเคยพบในสิ่งเดียวกันนี้เมื่อ 15 ปีก่อน ซึ่งชวนให้หลงเชื่อได้ว่าเป็นเอเลียน

นักวิทยาศาสตร์ระดับหัวกะทิจากหลากหลายสาขา พบช่องโหว่ในรายงานวิจัยที่อ้างว่า พบร่องรอยสิ่งมีชีวิตต่างดาวในอุกกาบาต 3 ลูก ซึ่งได้เผยแพร่ผ่านอินเทอร์เน็ตไปเมื่อไม่นานนี้ โดยสำนักข่าวเอพีรายงานว่า องค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) พร้อมด้วยนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าได้ออกมาปฏิเสธและไม่ยอมรับผลงานดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ ดร.ริชาร์ด ฮูเวอร์ (Dr. Richard B. Hoover) นักชีววิทยาอวกาศ จากศูนย์การบินอวกาศมาร์แชล (Marshall Space Flight Center) ของนาซาระบุว่า พบหลักฐานชีวิตต่างดาวในรูปฟอสซิลแบคทีเรียที่อุกกาบาตประเภทคาร์บอน "ซีไอ1" (CI1) ซึ่งมีลักษณะคล้ายไซยาโนแบคทีเรีย หรือสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินอยู่บนพื้นผิวของอุกกาบาตชนิดนี้ 3 ดวง

งานวิจัยของฮูเวอร์เผยแพร่ออนไลน์ ในวารสารเดอะ เจอร์นัล ออฟ คอสโมโลจี (the Journal of Cosmology) ซึ่งสรุปว่า ฟอสซิลแบคทีเรียนั้น ต้องมาจากนอกโลกอย่างแน่นอน โดยอุกกาบาตที่เขาใช้ศึกษานั้น เป็นอุกกาบาตหายาก ซึ่งเชื่อว่ามาจากดาวหาง

ทั้งนี้ อุกกาบาต 2 ดวงพบในฝรั่งเศสเมื่อปี 1806 และ 1864 ส่วนอีกดวง พบในแทนซาเนียเมื่อปี 1938

ภาพในรายงานวิจัยของ ดร.ฮูเวอร์คล้ายจุลชีพที่เป็นท่อแบนๆ และเหมือนเส้นด้ายที่พันยุ่งเหยิง ซึ่งทางเอพีพยายามติดต่อเขา แต่นักวิทยาศาสตร์ผู้นี้ ก็ไม่ได้ตอบกลับทั้งทางโทรศัพท์และทางอีเมล

หากแต่นักชีววิทยาให้ความเห็นว่า เพียงเพราะร่องรอยบนอุกกาบาต ดูคล้ายรูที่เกิดจากแบคทีเรีย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ร่องรอยเหล่านั้นกลายเป็นฟอสซิลของจุลชีพต่างดาว โดยอุกกาบาตเหล่านั้นอาจถูกทำให้เกิดรูพรุนจากการปนเปื้อนบนโลกก็ได้ อีกทั้งนักดาราศาสตร์และนักชีววิทยาต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า รายงานดังกล่าวยังไม่ผ่านการตรวจอย่างจริงจังจากผู้เชี่ยวชาญอิสระ (Peer Review)

มีคำถามมากมายเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือในตัว ดร.ฮูเวอร์ และรายงานวิจัยของเขาที่เผยแพร่ในวารสารออนไลน์ได้ทำให้เกิดความสงสัยขึ้นมา เพราะแม้แต่บรรณาธิการของวารสารเอง ยังยอมรับว่าวารสารอาจจะต้องปิดตัวในเดือน มิ.ย.2011 นี้ ด้วยเหตุผลทางด้านการตลาด

“มีเรื่องไร้สาระอยู่เยอะมากในรายงานนั้น แต่ไม่ได้มีวิทยาศาสตร์เท่าไรนัก พิจารณาดูแล้วและรู้สึกขนลุก” โรซี เรดฟิล์ด (Rosie Redfield) นักจุลชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย (University of British Columbia) ผู้ชำแหละรายงานเรื่องนี้ให้ความเห็น

ทางสำนักข่าวเอพี ยังได้พูดคุยถึงเรื่องนี้กับนักวิทยาศาสตร์อีกนับ 10 คน และไม่มีใครสักคนที่เห็นด้วยกับการค้นพบดังกล่าว อีกทั้งยังไม่มีบรรยากาศของความตื่นเต้น เหมือนเมื่อครั้งที่นาซาเคยป่าวประกาศการค้นพบคล้ายๆ กันนี้เมื่อปี 1996 ว่า อุกกาบาตจากดาวอังคารที่พบในทวีปแอนตาร์กติกานั้น มีหลักฐานของสิ่งมีชีวิตต่างดาว ซึ่งภายหลังพบว่าไม่จริง

“ไม่มีใครเลยในสังคมวิทยาศาสตร์ และแน่นอนว่าไม่มีสังคมในกลุ่มศึกษาอุกกาบาตที่ออกมาสนับสนุนข้อสรุปจากการศึกษาดังกล่าว” คาร์ล พิลเชอร์ (Carl Pilcher) ผู้อำนวยการสถาบันชีวอวกาศของนาซากล่าวถึงการศึกษาดังกล่าว

รูดี ไชล์ด (Rudy Schild) นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด (Harvard) บรรณาธิการบริหารของวารสารที่รายงานผลการศึกษาของ ดร.ฮูเวอร์กล่าวว่า งานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์นาซาผู้นี้ได้รับการตรวจสอบจากนักวิทยาศาสตร์หลายคน แต่เขาไม่ได้ระบุว่านักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นเป็นใครบ้าง 

แนวคิดของไชล์ดที่เลือกเผยแพร่รายงานนี้ เพื่อดึงความสนใจและกระตุ้นให้เกิดการอภิปราย ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังการรายงานข่าวครั้งแรกในเว็บไซต์ข่าว ฟอกซ์นิวส์และเขายังยอมรับกับเอพีว่า การจวนเจียนจะปิดตัวของวารสาร เป็นปัจจัยที่ทำให้ต้องเผยแพร่งานวิจัยดังกล่าว แต่มีปัจจัยอื่นด้วยที่นำมาสู่การเผยแพร่รายงานการวิจัยของ ดร.ฮูเวอร์

วารสารวิทยาศาสตร์อายุ 1 ปีครึ่งนี้ สนับสนุนทฤษฎีซึ่งมีคนโต้แย้งว่า ชีวิตบนโลกนั้นเริ่มต้นจากที่ไหนสักแห่งในเอกภพนี้ และถูกหว่านเชื้อพันธุ์บนโลกโดยดาวเคราะห์น้อยและดาวหาง แม้ว่าไชล์ดจะเห็นว่าการวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของ ดร.ฮูเวอร์เป็นสิ่งที่ “ถูกต้อง” แต่เขาเองก็เห็นด้วยกับข้อสรุปของ ดร.ฮูเวอร์

นักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ กล่าวว่า ดร.ฮูเวอร์ทำงานให้นาซาในฐานะนักฟิสิกส์สุริยะ แต่ตอนนี้เขากลับตีตราตัวเองว่าเป็นนักชีววิทยาอวกาศ ซึ่งไม่ได้เป็นความเชี่ยวชาญที่เหมาะกับตัวเลย ซึ่งพิลเชอร์ในฐานะผู้อำนวยการสถาบันชีววิทยาอวกาศบอกว่า ใครๆ ก็เรียกตัวเองว่าเป็นนักชีววิทยาอวกาศได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป

นอกจากนี้ในรายงานของฮูเวอร์ยังระบุว่า ตัวเขาเองเป็น “ด็อกเตอร์” (Ph.D.) หากแต่เอพีรายงานว่า ในเว็บไซต์ฟิสิกส์สุริยะของนาซา ไม่ได้ระบุว่าเขามีวุฒิปริญญาเอก และเพื่อนร่วมงานของฮูเวอร์ก็กล่าวว่าฮูเวอร์ไม่ได้มีวุฒิปริญญาเอก ส่วนไชล์ดพูดถึงเรื่องนี้ว่า เจ้าหน้าที่ของวารสารบางคน ซึ่งเขาเองไม่รู้ว่าใครอาจจะใส่คุณวุฒิปริญญาเอกให้ฮูเวอร์โดยไม่ตั้งใจ

แฮร์รี แมคสวีน (Harry McSween) หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านอุกกาบาตอันดับต้นๆ ของโลกไม่เชื่อว่านักวิทยาศาสตร์แถวหน้า ซึ่งศึกษาดาวเคราะห์ระหว่างดวงดาวรวมถึงคนที่ศึกษาอุกกาบาตคนไหน จะยอมรับแนวคิดของ ดร.ฮูเวอร์ "ไม่มีใครเชื่อว่าตัวเองคือสิ่งมีชีวิตต่างดาว"

แมคสวีนเคยศึกษาอุกกาบาตที่ตกในฝรั่งเศสเมื่อปี 1864 เขาบอกว่า อุกกาบาตดังกล่าวถูกเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ปารีส (Paris Museum) นั้น มีการปนเปื้อนอย่างร้ายแรงจนสังเกตได้ชัด โดยพบว่ามีรอยเส้นบนอุกกาบาตอันเป็นร่องรอยของความชื้น ซึ่งรอยดังกล่าวไม่ปรากฏในภาพถ่ายเก่าๆ ซึ่งเรื่องนี้ก็มีโอกาสเป็นไปได้ เพราะแม้แต่หินดวงจันทร์ที่ถูกเก็บไว้อย่างดี ยังพบการปนเปื้อนของจุลินทรีย์บนโลก

แมคสวีนและนักวิทยาศาสตร์หลายคนกล่าวว่า พวกเขาคาดว่า สาธารณชนจะไม่ใส่ใจต่อรายงานดังกล่าว แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะปรากฏว่าข่าวดังกล่าวเป็นอันดับข่าวยอดฮิตของยาฮูนิวส์ (Yahoo News) ซึ่งดูเหมือนเป็นข่าวลือ และเพราะเป็นข่าวเกี่ยวกับชีวิตต่างดาว จึงทำให้ข่าวดังกล่าวได้รับความสนใจ

ด้านเรดฟิล์ดบอกว่า เรื่องนี้เป็นแค่อีกกรณีของนักวิทยาศาสตร์ที่ไม่ใช่นักชีววิทยาและทำอะไรลวกๆ ในสาขาที่เขาเองไม่รู้ โดย“ผู้ชายคนนี้ป่าวประกาศเรื่องงี่เง่าออกมา ซึ่งเพิกเฉยต่อกฎชีววิทยาทั้งปวง แล้วยังป่าวประกาศต่อสาธารชน” เรดฟิล์ดให้ความเห็นอย่างดุเดือด

ทั้งแมคสวีนและเรดฟิล์ดมองว่าเรื่องนี้เป็นเหมือน “เดจาวู” (deja vu : สิ่งที่เคยได้พบเห็นมาแล้ว) ของเหตุการณ์เมื่อปี 1996 ที่อดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน (Bill Clinton) ออกมาประกาศกลางทำเนียบขาว ถึงการค้นพบร่องรอยสิ่งมีชีวิตจากอุกกาบาตดาวอังคาร แต่หลังจากนั้นหลายปี นักวิทยาศาสตร์ได้พิสูจนให้เห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่จริงและไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสิ่งที่พิสูจน์ถึงสิ่งมีชีวิตต่างดาว โดยการพิสูจน์ดังกล่าวได้รับการวิเคราะห์อย่างเข้มข้นจากผู้เชี่ยวชาญ และมีหลักฐานรองรับจำนวนมาก

ส่วน เซธ โชสแตก (Seth Shostak) นักวิทยาศาสตร์อาวุโสจากสถาบันเซติ (SETI Institute) ในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นนักดาราศาสตร์ผู้ค้นหาสิ่งมีชีวิตต่างดาวทรงปัญญาอยากจะเชื่อรายงานดังกล่าวเต็มที่ แต่เมื่อได้อ่านงานวิจัยของฮูเวอร์ ความรู้สึกของเขาต้องจบลงที่ความผิดหวังอย่างรุนแรง

“มันดูค่อนข้างน่าสงสัยอย่างมากๆ ซึ่งเป็นความน่าอายจากหลายๆ มุมมอง แต่นั่นก็เป็นวิถีที่วิทยาศาสตร์เป็น ผู้คนอ้างการค้นพบที่ฟังไม่ขึ้น หลายครั้งไม่ได้รับการยอมรับ นั่นคือธรรมชาติของวิทยาศาสตร์” โชสแตกกล่าว
ภาพร่องรอยสิ่งมีชีวิตคล้ายแบคทีเรียในรายงานวิจัยของฮูเวอร์ (the journal of Cosmology)

กำลังโหลดความคิดเห็น