เฟสแรกเตรียมแปะ “นาโนมาร์ก” ให้สีเคลือบฆ่าเชื้อ-สิ่งทอ-แผ่นกรอง

เดินหน้าจัดทำยุทธศาสตร์ความปลอดภัยและจริยธรรมด้านนาโนเทคโนโลยี เฟสแรกสำหรับ “นาโนมาร์ก” 1 ใน 3 เป้าหมายของแผน ประเดิมแปะให้สินค้าประเภทสีเคลือบฆ่าเชื้อ สิ่งทอและแผ่นกรองในเครื่องมือเครื่องใช้ภายในบ้าน คาดใช้เวลาอีก 6 เดือนเสนอ ครม.กำหนดเป็นแนวทางปฏิบัติแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

สมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็นจัดการประชุม ว่าด้วยแผนยุทธศาสตร์ด้านความปลอดภัยและจริยธรรมนาโนเทคโนโลยี (พ.ศ.2554-2559) เมื่อวันที่ 12 ม.ค.54 ณ โรงแรมรามาการ์เด้นท์ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายก่อนนำข้อสรุปจากที่ประชุมเสนอใน 2 ทางแบบคู่ขนาน คือ นาโนเทคยื่นเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (กวทช.) เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็นนำเสนอต่อคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี

ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) กล่าวกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์และสื่อมวลชนจำนวนหนึ่งว่า ทำแผนยุทธศาสตร์นี้มาปีกว่าๆ และจัดประชุมมาแล้ว 5-6 ครั้ง ซึ่งไทยถือเป็นประเทศแรกๆ ที่บุกเบิกเรื่องความปลอดภัยด้านนาโนเทคโนโลยี โดยประเทศที่ดำเนินการไปแล้วส่วนใหญ่ในสหภาพยุโรปและสวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่กำหนดยุทธศาสตร์ออกมา นอกจากนี้ยังมีประเทศกำลังพัฒนาที่ให้ความสนใจยุทธศาสตร์ด้านนี้คือ โคลัมเบียและแอฟริกาใต้

ทั้งนี้ ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมามีสินค้าทางด้านนาโนเทคโนโลยีเข้ามาเร็วมาก ซึ่งในมุมของการพัฒนาเทคโนโลยีนั้น นพ.สิริฤกษ์มองว่าเป็นเรื่องดีที่เราได้เห็นประโยชน์ของวัสดุใหม่ๆ ที่เบากว่าเดิม ทนกว่าเดิม หรือเครื่องสำอางที่มีคุณสมบัติดีกว่า หรือยาใหม่ๆ ที่ดีกว่าเดิม แต่ก็มีประเด็นที่สังคมกังวลว่าเทคโนโลยีนี้จะดีจริงหรือไม่ มีความปลอดภัยหรือไม่ จึงนำไปสู่การทำยุทธศาสตร์เพื่อกำหนดว่าจะทำอย่างไรให้คนไทยได้ใช้นาโนเทคโนโลยีที่ปลอดภัยและเป็นไปอย่างยั่งยืน ซึ่งเมื่อผ่านความเห็นชอบทั้งจาก กวทช.และคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจะเข้าสู่กระบวนการอนุมัติของคณะรัฐมนตรี โดยคาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 6 เดือน

สำหรับเป้าหมายของแผนยุทธศาสตร์ฯ มีทั้งหมด 3 เป้าหมาย เป้าหมายแรกคือการจัดการความรู้เกี่ยวกับนาโนเทคโนโลยีว่าอะไรที่มีความปลอดภัย อะไรที่ไม่ปลอดภัยแลอะไรที่ยังไม่แน่ใจ เป้าหมายที่ 2 คือมาตรการกำกับดูแลซึ่งภายใน 5 ปีองค์กรที่เกี่ยวข้องจะต้องดูว่ามีเรื่องใดบ้างที่ต้องกำกับดูแล เช่น การติดฉลากสำหรับสินค้านาโน ซึ่งทางนาโนเทคและสมาคมนาโนเทคโนโลยีแห่งประเทศไทยได้ร่วมกับออก “ฉลากนาโนมาร์ก” สำหรับติดให้แก่ผลิตภัณฑ์นาโนเทคโนโลยีและมีคุณสมบัติตามที่กล่าวอ้าง

สำหรับมาตรการในการกำหนดการติดฉลากนั้น แบ่งเป็นสินค้าที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัยจะใช้มาตรการแบบสมัครใจคล้ายฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ส่วนสินค้าที่อาจจะเป็นอันตรายหรือมีความเสี่ยงในการใช้ เช่น ยา ต้องติดฉลากแบบบังคับ โดยในระยะแรกหลังกำหนดฉลากนาโนมาร์กออกมาแล้ว จะประเดิมใช้กับสินค้านาโนเทคโนโลยีประเภทสีเคลือบฆ่าเชื้อ สิ่งทอและเครื่องมือเครื่องใช้ เช่น แผ่นกรองในเครื่องกรองน้ำหรือเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น ส่วนเป้าหมายสุดท้ายคือการใช้ประชาชนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในกระบวนการร่างแผนยุทธศาสตร์