"อินเทอร์เน็ต" มีคุณอนันต์ แต่ก็ให้โทษมหันต์ได้หากใช้ไม่ถูกทางหรือไม่ระมัดวัง และเพื่อไม่ให้เยาวชนไทยต้องตกเป็นเหยื่อเคราะห์ร้ายหรือได้รับโทษทัณฑ์จากการใช้อินเทอร์เน็ตในทางที่ผิด เหล่านักเรียนตัวน้อยจึงรวมตัวกันทำกิจกรรมพิทักษ์โลกออนไลน์ในนาม "นักสืบไซเบอร์" พร้อมนำเสนอไอเดียรักษ์โลก
ด.ญ.มัณฑนา เชื้อไทย ชั้น ป.5 โรงเรียนวัดอาวุธวิกสิตาราม เล่าให้ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ฟังว่า เพื่อนๆ ที่โรงเรียนส่วนหนึ่งมักไปเล่นเกมตามร้านอินเทอร์เน็ตทั่วไป ซึ่งมีโอกาสเข้าไปดูเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมได้มาก ทั้งจากการเข้าดูด้วยตัวเอง หรือถูกผู้อื่นชักชวน บางคนก็ใช้อินเทอร์เน็ตในโรงเรียนเข้าไปดูเว็บไซต์ไม่เหมาะสมด้วย เธอและเพื่อนอีก 2-3 คน จึงรวมตัวกันเป็นนักสืบไซเบอร์ เพื่อสอดส่องดูแลให้เพื่อนๆ ในโรงเรียนใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย
"เราเริ่มจากสำรวจว่าเพื่อนๆ มักเข้าไปดูเว็บไซต์ใดกันบ้าง แล้วนำมาตรวจสอบ หากพบว่าเป็นเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมจริง เช่น เว็บไซต์ลามกอนาจาร หรือเว็บไซต์นำเสนอความรุนแรง ก็จะเตือนเพื่อนว่าเว็บไซต์ดังกล่าวไม่ดีและไม่ควรเข้าไปชม พร้อมกับแจ้งไปยัง www.thaihotline.org เพื่อให้เขาตรวจสอบและบล็อกเว็บไซต์นั้น รวมทั้งได้สรรหากิจกรรมสร้างสรรค์มาแนะนำให้เพื่อนๆ ทำเพื่อดึงความสนใจไม่ให้กลับไปใช้อินเทอร์เน็ตดูเว็บไซต์ไม่เหมาะสมอีก เช่น กิจกรรมตกแต่งภาพออนไลน์ ประดิษฐ์การ์ดอวยพร ซีดีเพลงวันพ่อ เป็นต้น ซึ่งก็ได้ผล และพบว่าเพื่อนๆ เข้าดูเว็บไซต์ไม่เหมาะสมลดลง" ด.ญ.มัณฑนา เผย
นอกจากนี้ พวกเด็กๆ กลุ่มนี้ยังได้จัดทำคู่มือการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยในรูปแบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-บุค (E-book) เพื่อเผยแพร่ในโรงเรียน เช่น แชตปลอดภัย, ท่องเว็บปลอดภัย, อีเมลปลอดภัย และ เขียนบล็อคปลอดภัย รวมทั้งใช้อินเทอร์เน็ตในทางสร้างสรรค์ โดยสืบค้นข้อมูลและค้นหาความรู้ต่างๆ และเกิดแนวคิดประดิษฐ์ถุงนมลดโลกร้อน โดยนำถุงนมที่ใช้แล้วมารีไซเคิลทำเป็นกระเป๋าใช้ใส่สิ่งของแทนถุงพลาสติกหรือถุงผ้าได้
ด้านกลุ่มนักเรียนโรงเรียนวัดม่วงได้จัดตั้งโครงการนักสืบไซเบอร์ขึ้นในโรงเรียนเช่นกัน โดยเปิดรับสมัครนักเรียนที่สนใจมาเข้าร่วมเป็นนักสืบไซเบอร์ตลอดและไม่จำกัดจำนวน เพื่อช่วยกันสอดส่องดูแลและตรวจสอบว่ามีนักเรียนคนใดชอบเปิดเว็บไซต์ลามกอนาจาร หรือเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมต่างๆ ซึ่งมีนักเรียนหลายคนเปลี่ยนจากที่เคยชอบดูเว็บไซต์ไม่เหมาะสมมาเป็นนักสืบไซเบอร์
"หากพบว่านักเรียนคนใดเข้าเว็บไซต์ไม่เหมาะสม หรือเล่นเกมที่มีความรุนแรง เราก็จะแนะนำและตักเตือนเขา แรกๆ เขาอาจยังไม่ค่อยเชื่อ เราก็ต้องหมั่นตักเตือนเขา พร้อมกับชักชวนให้เขามาร่วมทำกิจกรรมนันทนาการอื่นๆ ที่สร้างสรรค์ เพลิดเพลินกว่า เช่น จัดทำหนังสือนิทานอี-บุค ให้น้องๆ ชั้นอนุบาล หรือทำกิจกรรมที่ได้ออกกำลังกายด้วย เพราะบางคนสนใจแต่เล่นเกมและอินเทอร์เน็ตอย่างเดียว ทำให้การเรียนตกต่ำ เสียสุขภาพ หรืออาจเสียเพื่อน" ด.ช.มัชพล อัญชลีพรสันต์ ชั้น ป.5 โรงเรียนวัดมหาธาตุ บอกกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์
มัชพลยังแนะนำอีกว่า สำหรับเพื่อนๆ ที่ติดเกมมากอาจเลิกเล่นในทันทีได้ยาก จึงอยากให้แบ่งเวลาในการเล่นเกมให้เหมาะสม ซึ่งผู้ปกครองควรให้ความร่วมมือกับลูกหลานมากกว่าที่จะบังคับพวกเขา โดยอาจตั้งกติกาในการเล่นเกมหรืออินเทอร์เน็ต และควรหมั่นหากิจกรรมแปลกใหม่มาทำร่วมกันในครอบครัว เช่นการทำขนมอย่างง่าย ซึ่งนอกจากช่วยให้เด็กห่างจากเกมแล้วยังเป็นสร้างสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวด้วย
"พวกเรานักสืบไซเบอร์ยังได้ประโยชน์จากการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อหาความรู้ ได้เรียนรู้การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย และรู้ทันอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่อาจมาจากการใช้อินเทอร์เน็ต ทำให้พวกเราสามารถหลีกเลี่ยงอันตรายเหล่านั้นได้ และสามารถบอกต่อเพื่อนๆ นักเรียนให้ระมัดระวังภัยจากอินเทอร์เน็ตได้ด้วยเช่นกัน เพื่อไม่ให้พวกเราถูกมิจฉาชีพล่อลวงได้ง่าย" มัชพล เล่า
ทั้งนี้ มัชพลและเพื่อนๆ จากโรงเรียนวัดม่วง ยังได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดโครงการ "นักสืบไซเบอร์" ในงาน "มหกรรมอินเทอร์เน็ตปลอดภัยและสร้างสรรค์ ครั้งที่ 4" ส่วนรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ โรงเรียนวัดมหาธาตุ และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ โรงเรียนวัดอาวุธวิกสิตาราม
ส่วนการประกวดโครงการ "รักไอที รักษ์โลก" ในงานเดียวกัน มีผลงานโรงเรียนที่ได้รับรางวัล ดังนี้ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ โครงการชมพู-ขาวร่วมใส่ใจ ICT ด้วยวิธี 3R พาโลกสวย ของโรงเรียนวัดเศวตฉัตร, รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ โครงการ หนังสั้น รักไอที รักษ์โลก ของโรงเรียนชุมทางตลิ่งชัน และรองชนะเลิศอันดับ 2 โครงการ อบรม Flip Album IT รักษ์โลก ของโรงเรียนวัดอินทราวาส
ด.ญ.สุทธิดา กมลอินทร์ จากโรงเรียนวัดเศวตฉัตร บอกว่าที่โรงเรียนปลูกฝังให้ใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและรู้คุณค่า โดยการลดใช้ การนำมาใช้ซ้ำ และการนำกลับมาใช้ใหม่ เช่น ลดใช้กระดาษโดยส่งข้อมูลผ่านอีเมล มีจัดตั้งธนาคารขยะ ให้นักเรียนนำกระดาษเหลือใช้หรือที่ใช้แล้วมาฝากไว้รวมกัน แล้วขายให้กับคุณครูวิชาศิลปะกิโลกรัมละ 3 บาท
กระดาษใช้แล้วเหล่านั้นถูกนำมารีไซเคิลทำเป็นกระดาษไล่ยุง โดยผสมสมุนไพร เช่น ตะไคร้หอม เข้าไปในกระบวนการทำกระดาษรีไซเคิล แล้วนำมาประดิษฐ์เป็นหนังสือนิทานน่าอ่าน หรือประดิษเป็นตุ๊กตาออมสิน ซึ่งสามารถทำขายได้ในงานวิชาการของโรงเรียน
ใครที่สนใจความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชนเหล่านี้ในการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย สร้างสรรค์ และมีส่วนร่วมรักษ์โลกได้ สามารถไปชมผลงานของน้องๆ ได้ในงานมหกรรมอินเทอร์เน็ตปลอดภัยและสร้างสรรค์ ครั้งที่ 4 ที่จัดโดยมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย ณ อุทยานการเรียนรู้ ทีเค พาร์ค ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่วันที่ 5-7 ก.พ. 53 เวลา 10.00-17.00 น.
