เข้าสู่ “ปีแห่งความหลากลายทางชีวภาพ” แต่อัตราการสูญพันธุ์ของสปีชีส์ต่างๆ ยังมีมาก เราต่างล้มเหลวในคำปฏิญาณที่จะลดอัตราการสูญเสียสิ่งมีชีวิตต่างๆ ด้านนักชีววิทยาเตือนการสูญเสียสปีชีส์ต่างๆ ผลักมนุษย์ให้เข้าสู่ยุคการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่
บีบีซีนิวส์รายงานว่า เมื่อ 8 ปีก่อนหน่วยงานภาครัฐหลายแห่งทั่วโลก ต่างปฏิญาณว่าจะลดอัตราการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพลงก่อนปี 2010 แต่มาถึงวันนี้มีความชัดเจนว่า คำปฏิญาณดังกล่าวไม่เป็นผล เพราะการขยายตัวของเมือง การทำฟาร์มและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของมนุษย์เป็นเหตุผลหลัก
ทั้งนี้องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้เปิด “ปีแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ” (International Year of Biodiversity) อย่างเป็นทางการในวันที่ 11 ม.ค.53 ซึ่งนายบัน คี มูน (Ban Ki-moon) เลขาธิการสหประชาชาติ รวมทั้งนางอังเกลา แมร์เคิล (Angela Merkel) นายกรัฐมนตรีแห่งเยอรมนี ได้ขึ้นกล่าวปาฐกถาเปิดงานด้วย
นายบันมีกำหนดพูดในเรื่องเกี่ยวกับการขยายตัวของประชากรมนุษย์ ที่ได้กวาดล้างสิ่งมีชีวิตสปีชีส์อื่นๆ เร็วกว่าอัตราตามธรรมชาติถึง 1,000 เท่า ทั้งนี้เขาได้ชี้ให้เห็นว่าความล้มเหลวในการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพนนั้น ควรจะเป็นเสมือน “เสียงปลุก” ที่นำไปสู่หนทางที่ให้ประสิทธิพลในการพิทักษ์ป่า ลุ่มน้ำ แนวปะการัง และระบบนิเวศน์อื่นๆ
เลขาธิการยูเอ็นยังชี้ให้เห็นว่า หากระบบในธรรมชาติอย่างป่าและพื้นชุ่มน้ำลดลง มนุษย์ก็จะสูญเสียแหล่งอำนวยประโยชน์ที่ปัจจุบันคนเราได้มาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อย่างเช่นความบริสุทธิ์ของอากาศและน้ำ การปกป้องจากสภาพอากาศอันเลงร้าย เป็นต้น
จากสถานการณ์การสูญเสียสปีชีส์ต่างๆ ที่เป็นอยู่นี้ ทำให้นักชีววิทยาบางคนกล่าวว่ามนุษย์เรากำลังเข้าสู่วัฏจักรการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ในรอบที่ 6 ของโลก (Earth's sixth great extinction) หากแต่การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ 5 ครั้งก่อนนั้นเป็นผลพวงจากเหตุการณ์ในธรรมชาติ อย่างเช่นการพุ่งชนของอุกกาบาต ไม่ใช่น้ำมือมนุษย์อย่างที่คาดว่าจะเกิดขึ้นนี้
“เรากำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตการสูญพันธุ์ การสูญเสียความหลากหลายทางธรรมชาติที่สวยงามและซับซ้อน ซึ่งเป็นฐานสนับสนุนสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกใบนี้ เป็นการคุกคามที่น่าห่วงต่อมนุษยชาติในยุคนี้และต่อไปในอนาคต” เจน สมาร์ท (Jane Smart) ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์ความหลากลหายทางชีวภาพ สหภาพสากลว่าด้วยการอนุรักษ์ (Union for the Conservation of Nature: IUCN)
จากการศึกษาเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพทางด้านเศรษฐกิจภายใต้การสนับสนุนของสหประชาชาติ พบว่าเพียงแค่การลดลงของป่าอย่างเดียวทำให้ทั่วโลกต้องมีค่าใช้เพิ่มปีละ 2-5 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
ด้าน อาชิม สไตเนอร์ (Achim Steiner) ผู้อำนวยการสำนักงานโครงการด้านสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนป (UNEP) มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ภายในพิธีเปิดด้วย โดยเขาจะชี้ให้เห็นถึงปัญหาทีเกิดจากสปีชีส์ที่รุกราน (invasive species) และศักยภาพของระบบนิเวศน์อย่างป่าและพื้นที่ชุ่มน้ำในการดูดซับและกักเก็บคาร์บอนจากอากาศ
นอกจากนี้ยูเอ็นยังคาดหวังว่า จะเกิดสนธิสัญญาในการควบคุมการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพภายในการประชุมด้านความหลากหลายทางชีวภาพที่จะเกิดขึ้นในเดือน ต.ค.ที่ประเทศญีปุ่น และจะเป็นการแก้ตัวให้กับรัฐบาลชาติต่างๆ ที่ล้มเหลวในการตกลงเรื่องการควบคุมปัญหาการเปลี่ยนภูมิอากาศที่กรุงโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก