การเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหิน เป็นยุทธวิธีสำคัญทางหนึ่งที่จะช่วยให้มนุษย์ฝ่าวิกฤตภาวะโลกร้อนไปได้ และพลังงานแสงอาทิตย์ก็เป็นหนึ่งในพลังงานทดแทน ที่หลายคนเทใจให้มากที่สุด เพราะมีแหล่งพลังงานให้มนุษย์ได้ใช้ฟรีไม่มีวันหมด ทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สะอาด และปลอดภัยอย่างแท้จริง
บริษัท บางกอกโซลาร์ พาวเวอร์ จำกัด เป็นเอกชนไทยรายแรกและรายเดียวในประเทศ ที่ดำเนินการด้านโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อยู่ในขณะนี้ จากการวิจัยและพัฒนาเซลล์แสงอาทิตย์หรือโซลาร์เซลล์ที่มีความเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย และมีประสิทธิภาพสูงที่สุดในโลกอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันสามารถสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศแล้วถึง 7 แห่ง และผลิตแผงโซลาร์เซลล์ส่งออกไปยังหลายประเทศในยุโรป และสหรัฐฯ
นายทิศพล นครศรี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บางกอกโซลาร์ พาวเวอร์ จำกัด ให้ข้อมูลว่า บางกอกโซลาร์เป็นบริษัทที่แตกออกมาจาก บริษัท บางกอกเคเบิล จำกัด เพื่อดำเนินการวิจัย พัฒนา และผลิตแผงโซลาร์เซลล์โดยในช่วงเริ่มต้น ได้รับการสนับสนุนด้านเทคโนโลยี จากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) จนสามารถผลิตแผงโซลาร์เซลล์ ชนิดอะมอร์ฟัสซิลิกอนแบบฟิล์มบาง (Amorphous Silicon Thin-Film Photovoltaic Module) ที่เหมาะสำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นในประเทศไทยได้เอง และมีการพัฒนาแผงโซลาร์เซลล์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ แผงโซลาร์เซลล์รุ่นล่าสุดที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพแปลงพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 7% นับว่าเป็นแผงโซลาร์เซลล์ชนิดอะมอร์ฟัสซิลิกอนแบบฟิล์มบาง ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในโลกด้วย
“แผงโซลาร์เซลล์ชนิดอะมอร์ฟัสซิลิกอนแบบฟิล์มบาง มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่าแผงโซลาร์เซลล์ชนิดผลึกซิลิกอน ทั้งยังผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าที่ขนาดกำลังการผลิตเท่ากัน ทำงานได้ดีแม้ในสภาพอากาศที่มีแสงน้อย ท้องฟ้ามีเมฆมาก หรือแม้แต่ช่วงฝนตก ซึ่งสามารถทำงานได้ตลอดช่วงเวลากลางวัน”
“ประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าสูงสุดในช่วงเวลาประมาณ 10.00-15.00 น. ขณะที่หากเป็นแผงโซลาร์เซลล์ชนิดอื่นจะทำงานได้ในช่วงเวลาดังกล่าว และจะหยุดทันทีที่แสงน้อยเกินไป" นายทิศพลอธิบายขณะเยี่ยมชมโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ จ.ฉะเชิงเทรา
ทั้งนี้ บางกอกโซลาร์ พาวเวอร์ เริ่มก่อตั้งโรงงานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกของประเทศไทยในปี 2549 ด้วยกำลังการผลิต 1.644 MWp (เมกกะวัตต์) จากการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์มากกว่า 40,000 แผง บนพื้นที่ 35 ไร่ใน อ.บางปะกง จ. ฉะเชิงเทรา ด้วยเงินลงทุนราว 180 ล้านบาท และเริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าได้ในปี 2550 โดยใช้เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าชนิดต่อเชื่อมสายส่ง ที่วิจัยและพัฒนาโดย บริษัท ลีโอนิคส์ จำกัด ของคนไทย
ต่อมาได้ขยายการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไปในจังหวัดอื่นๆ อีก 4 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี อ่างทอง เพชรบุรี และนครสวรรค์ ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์รวมทั้งสิ้น 7 โรง และมีกำลังการผลิตรวมทั้งหมด 7.318 MWp
ไฟฟ้าที่ผลิตได้ ทางโรงงานได้ขายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทั้งหมดในราคา 12 บาทต่อหน่วย จากต้นทุนการผลิตประมาณ 12 บาทต่อหน่วย ซึ่งจะคุ้มทุนในระยะเวลา 10 ปี ส่วนแผงโซลาร์เซลล์ที่พัฒนาขึ้นนั้น มีอายุการใช้งานประมาณ 25 ปี
นอกจากนี้ บางกอกโซลาร์ พาวเวอร์ กำลังอยู่ระหว่างการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นอีกใน จ.ลพบุรี ที่กำลังการผลิต 2.208 MWp และจะสร้างเพิ่มขึ้นอีกแห่งในจังหวัดเดียวกัน ให้มีกำลังการผลิตราว 11 MWp
ด้านนายพดด้วง คงคามี ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท บางกอกโซลาร์ พาวเวอร์ จำกัด ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากแผนพัฒนาพลังงาน 15 ปี ที่กำหนดไว้ว่า ประเทศไทยจะต้องพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ให้ได้ 500 MWp ภายในปี 2565 ทำให้บางกอกโซลาร์จึงมีแผนการที่จะขยายโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ภายในประเทศให้เป็น 60 MWp ภายในปี 2555 โดยการบริหารงานของบางกอกโซลาร์ และอีก 100 MWp โดยการร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติ รวมถึงการรับจ้างผลิตแผงโซลาร์เซลล์ให้กับบริษัทอื่น ที่สนใจลงทุนด้านโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ภายในประเทศอีก 150 MWp
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 1 MWp จะมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 110 ล้านบาท ใช้แผงโซลาร์เซลล์ขนาด 50 วัตต์ จำนวน 20,000 แผง บนพื้นที่ประมาณ 25 ไร่ และสำหรับพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ควรเป็นพื้นที่ที่ได้รับแสงอาทิตย์ประมาณ 1,800-1,900 ชั่วโมงต่อปี เช่น พื้นที่ในจังหวัดอุดรธานี, สระบุรี, ลพบุรี และ อ่างทอง เป็นต้น
"ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เชื่อแน่ว่าในระยะเวลาอีกประมาณ 10 ปีข้างหน้า ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์จะมีราคาถูกลงอย่างแน่นอน และอาจถูกลงจนเท่ากับโรงไฟฟ้าถ่านหินในปัจจุบันก็ได้ อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมและลดการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ" นายทิศพลกล่าว
แม้ขณะนี้ ต้นทุนการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ยังมีราคาสูงอยู่มาก อีกทั้งต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ยังสูงกว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินหรือน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ทั่วโลกก็กำลังให้ความสนใจ และผลักดันให้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้น เพราะเป็นพลังงานทดแทนที่มีศักยภาพสูง เป็นพลังงานสะอาดที่คนทั่วไปยอมรับกันมากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับพลังงานนิวเคลียร์ที่ยังมีปัญหาเรื่องการกำจัดกากนิวเคลียร์.