เอกชนต่อยอด "ไพลจีนิค" เช็ดจุดซ่อนเร้น หวังเจาะกลุ่มลูกค้าสตรีไทยและเทศ

วว. - ผู้ประกอบการด้านสมุนไพรไทยรับต่อยอดเทคโนโลยีผลิต "ไพลจีนิค" เชิงพาณิชย์ เล็งบุกตลาดแผ่นอนามัยเช็ดจุดซ่อนเร้นจากสมุนไพรทั้งในไทยและต่างประเทศ คาดเริ่มวางตลาด ส.ค. นี้

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต “ผลิตภัณฑ์ไพลจีนิค” แผ่นผ้าอนามัยเช็ดทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นสำหรับสตรี ให้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัดฟ้าใสสมุนไพร หวังเจาะกลุ่มลูกค้าสตรีทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ลดการขาดดุลการค้าและเพิ่มมูลค่าให้แก่สมุนไพรไทย

นางอัญชลี กมลรัตนกุล รองผู้ว่าการกลุ่มวิจัยและพัฒนา ด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ วว. กล่าวชี้แจงว่า จากการที่ ฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ วว. ประสบผลสำเร็จในการวิจัยและพัฒนา “ผลิตภัณฑ์ไพลจีนิค” ซึ่งเป็นแผ่นผ้าอนามัยเช็ดทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นภายนอกสำหรับสตรี ที่มีผลในการยับยั้งและฆ่าเชื้อแบคทีเรียก่อโรคสตรี เช่น เชื้อก่อโรคในช่องคลอด เป็นต้น และยังสามารถกำจัดเชื้อที่ปนเปื้อนตามพื้นผิวสุขภัณฑ์ ที่สำคัญผลิตภัณฑ์มีน้ำมันไพลเป็นองค์ประกอบหลักและมีความเป็นกรดอ่อนใกล้เคียงกับสภาวะภายในปรกติของช่องคลอด ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกายและมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้นั้น

เนื่องจากปัจจุบันตลาดน้ำยาอนามัยสตรีมีมูลค่าสูงถึง 420 ล้านบาท และเติบโตมากกว่า 30% ต่อปี ดังนั้นเพื่อให้มีการผลิต “ผลิตภัณฑ์ไพลจีนิค” จำหน่ายในเชิงพาณิชย์ วว. จึงได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัดฟ้าใสสมุนไพร โดยมีระยะเวลา 5 ปี ซึ่ง วว. จะให้การสนับสนุนด้านวิชาการ คำแนะนำ ข้อมูล การฝึกอบรมปฏิบัติ เป็นที่ปรึกษาวิชาการ รวมทั้งบริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพผลิตภัณฑ์ด้วย

ทั้งนี้ เนื่องจาก วว. มีนโยบายตอบสนองภาครัฐที่มุ่งเน้นให้การส่งเสริมสนับสนุนภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ให้สามารถเข้าสู่เส้นทางการค้าด้านสมุนไพรอย่างกว้างขวางขึ้น เพื่อให้เกิดการพึ่งพาตนเองอย่างเป็นรูปธรรม

นางภัทรา อะหมะดี พีรซะหีด นักวิชาการ ฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ วว. ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัยผลิตภัณฑ์ไพลจีนิค กล่าวว่า มีความยินดีและภาคภูมิใจอย่างมากที่ผู้ประกอบการ ประชาชน ให้การตอบรับและสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย แสดงถึงความเชื่อมั่น ศรัทธา ในการวิจัยของ วว. รวมทั้งการที่มีใจอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทยและช่วยเศรษฐกิจของประเทศในการลดดุลการค้า

“ผลิตภัณฑ์ไพลจีนิคนั้นสามารถใช้ได้กับสตรีทุกวัย หากมีพกติดตัวก็จะช่วยให้มีความมั่นใจยิ่งขึ้น เพราะการป้องกันไว้ก่อนย่อมดีกว่าการรักษา เนื่องจากจุดซ่อนเร้นเป็นจุดที่ละเอียดอ่อน เสี่ยงต่อการติดเชื้อ กอปรกับขณะนี้มีจุลินทรีย์ก่อโรคมากมาย ผลิตภัณฑ์นี้จะช่วยยับยั้งอุบัติการณ์ระบาดวิทยาได้ด้วย ผลิตภัณฑ์ที่จะวางจำหน่ายในท้องตลาดในอนาคตอันใกล้จะมีคำว่า วิจัยและพัฒนาโดย วว. ระบุไว้ เพื่อให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจ” นางภัทรา อะหมะดี พีรซะหีด กล่าว

ด้านนางรสริน เหล่าเรืองเลิศ ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดฟ้าใสสมุนไพร กล่าวเพิ่มเติมว่า มีความศรัทธาและเชื่อมั่นในผลงานของ วว. ซึ่งมีผลงานเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป และ วว. มีความมุ่งมั่นที่จะเผยแพร่ผลงานวิจัยสู่สาธารณชน

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ไพลจีนิคที่ได้รับถ่ายทอดเทคโนโลยีจาก วว. นั้นจะมีชื่อใหม่ทางการค้าว่า “ผลิตภัณฑ์ไพล เฟรช” (PLY FRESH) โดยห้างหุ้นส่วนจำกัดฟ้าใสสมุนไพรจะเป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่าย คาดว่าประมาณเดือนสิงหาคมศกนี้จะผลิตและวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อภายในประเทศ และมีแผนจะส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศด้วย โดยจะเริ่มทำตลาดที่ประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนลาว ประเทศญี่ปุ่น และจะขยายสู่ยุโรปต่อไป

“เราได้นำผลิตภัณฑ์นี้ไปให้ผู้บริโภคชาวลาวและชาวญี่ปุ่นทดลองใช้พบว่า ลูกค้าให้การตอบรับดีมาก โดยในสินค้า 1 ซอง จะมี 10 ชิ้น รับรองว่าราคาไม่แพง เพราะเราต้องการให้สตรีหลากหลายวัย และมีรายได้ที่แตกต่างกันมีโอกาสได้ใช้อย่างทั่วถึง เนื่องจากผลิตจากสมุนไพรไทยซึ่ง วว. ได้วิจัยและมีผลทดสอบวิทยาศาสตร์รองรับว่ามีสรรพคุณที่มีประโยชน์ต่อสุขอนามัย และวิจัยพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์ไทยที่มีคุณภาพ จะได้ลดการนำเข้าสารเคมีหรือสมุนไพรจากต่างประเทศ และขอให้สนับสนุนผู้ประกอบการใหม่ด้วย” ผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัดฟ้าใสสมุนไพร กล่าว