xs
xsm
sm
md
lg

ดวงอาทิตย์เข้าสู่โหมดสงบนิ่งที่สุดในรอบศตวรรษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ซ้ายคือภาพดวงอาทิตยืเมื่อปี 2544 จากกล้องโทรทรรศน์โซโฮ (Soho) ซึ่งมีจุดดับให้เห็น แต่ดวงอาทิตย์ในปีนี้เป็นอย่างในภาพขวาคือไม่มีจุดดับ (บีบีซีนิวส์)
ดวงอาทิตย์ดาวฤกษ์ที่ใกล้โลกที่สุด กำลังเข้าสู่ภาวะสงบนิ่งที่สุดในรอบศตวรรษ ไม่มีจุดดับ มีการลุกจ้าไม่กี่ครั้ง ซึ่งปรากฏการณ์นี้ได้สร้างความงุนงงให้กับนักดาราศาสตร์ ผู้ศึกษาภาพถ่ายดวงอาทิตย์ที่บันทึกจากอวกาศโดยตรง โดยมีข้อถกเถียงว่าปรากฏการณ์นี้จะทำให้เกิด "ยุคน้ำแข็งย่อยๆ" เหมือนในศตวรรษที่ 17 หรือไม่

ตามรายงานของบีบีซีนิวส์เรื่องนี้ ได้รับการนำเสนอภายในการประชุมวิชาการทางด้านดาราศาสตร์แห่งสหราชอาณาจักร (UK National Astronomy Meeting) ซึ่งปกติดวงอาทิตย์จะอยู่ในวัฏจักร 11 ปี เมื่อถึงสภาวะสุดขีด ชั้นบรรยากาศของดวงอาทิตย์จะปะทุเดือด และเกิดปรากฏการณ์ลุกจ้า (flares) พร้อมพ่นกลุ่มก๊าซที่ร้อนสุดๆ ในขนาดพอๆ กับดาวเคราะห์ออกมา จากนั้นจึงตามมาด้วยปรากฏการณ์อันเงียบสงบ

เมื่อปีที่ผ่านมา คาดกันว่าดวงอาทิตย์กำลังร้อนขึ้นเรื่อยๆ หลังจากผ่านช่วงที่สงบเงียบมา แต่กลับกลายเป็นว่า ดวงอาทิตย์ได้ทำสถิติก่อลมสุริยะ (solar wind) ต่ำสุดในรอบ 50 ปี ปลดปล่อยคลื่นวิทยุน้อยสุดในรอบ 55 ปี และมีจุดดับ (sunspot) ต่ำสุดในรอบ 100 ปี ซึ่งตามความเห็น ศ.หลุยเซ่ ฮารา (Prof. Louise Hara) จากมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน (University College London) นั้น ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร หรือเมื่อใดที่ดวงอาทิตย์จะกลับมาปะทุอีกครั้ง

เธอให้ความเห็นกับบีบีซีนิวส์ว่า ยังไม่มีสัญญาณอะไรส่งมา โดยในระยะนี้มีรายงานทางวิทยาศาสตร์ที่ออกมาชี้ว่า เรากำลังจะเข้าสู่ช่วงเวลาปกติของคาบวัฏจักรในเร็วๆ นี้ ขณะที่บางงานวิจัยก็ชี้ว่าเราจะเข้าสู่อีกช่วงเวลาที่ต่ำสุดของวัฏจักร ซึ่งเรื่องนี้ยังเป็นข้อถกเถียงสำคัญทางวิทยาศาสตร์อยู่

เมื่อศตวรรษที่ 17 ซึ่งเป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์เงียบสงบนั้นได้เกิดปรากฏการณ์ที่รู้จักกันว่า "มันเดอร์มินิมัม" (Maunder Minimum) อยู่นานถึง 70 ปี ซึ่งนำไปสู่ "ยุคน้ำแข็งย่อยๆ" (mini ice-age) และผลดังกล่าวทำให้บางคนคาดว่าปรากฏการณ์ที่เย็นลงคล้ายๆ กันนี้จะช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (climate change)

ขณะที่ ศ.ไมค์ ลอควูด (Prof. Mike Lockwood) จากมหาวิทยาลัยเซาแธมป์ตัน (Southampton University) กล่าวว่า การสรุปความเห็นในลักษณะนั้นเป็นเรื่องที่ตื้นเขินเกินไป โดยส่วนตัวเขาเองก็ปรารถนาให้ดวงอาทิตย์มาช่วยเหลือเราในภาวะเช่นนี้เหมือนกัน แต่โชคร้ายที่ว่าข้อมูลที่มีอยู่นั้นไม่ได้บ่งชี้ว่าเป็นเช่นนั้นเลย

"ถ้าการสงบลงของดวงอาทิตย์ นำไปสู่ปรากฏการณ์ที่เย็นลง เราก็คงจะได้เห็นผลนั้นแล้ว ถ้าคุณสังเกตอย่างรอบคอบ มันค่อนข้างชัดเจนว่าดวงอาทิตย์อยู่ในภาวะพลุ่งพล่านที่สุดเมื่อปี 2528 และเราก็กำลังดูแนวโน้มของความพลุ่งพล่านของดวงอาทิตย์ที่ลดลงเรื่อยๆ และเป็นอย่างนี้มากว่า 20 ปีแล้ว" ศ.ลอควูดกล่าว

ทั้งนี้เขาเป็นหนึ่งในกลุ่มนักวิจัยแรกๆ ที่แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมบนดวงอาทิตย์นั้นค่อยๆ ลดลงมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2528 แต่อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกก็ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หลักฐานจากลำต้นของต้นไม้และแกนน้ำแข็งชี้ว่า ดวงอาทิตย์กำลังสงบนิ่งลง หลังจากผ่านจุดพลุ่งพล่านสูงอย่างไม่ปกติในรอบวัฏจักร ทั้งนี้ ศ.ลอควูดเชื่อว่ารอบวัฎจักร 11 ปีของดวงอาทิตย์นั้นมียังรอบต่ำสุดในรอบ 100 ปีด้วย โดยปี 2528 นั้นถือเป็นจุดสูงสุด (grand maximum) ของรอบวัฎจักร 100 ปี และช่วงมันเดอร์มินิมัมถือเป็นจุดต่ำสุด

"เรากลับเข้าสู่ตรงกลางความคิดที่ขัดแย้ง หลังจากที่ได้เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นสู่จุดสูงสุด 10% ของความพลุ่งพล่าน เราคงคาดหวังว่าต้องใช้เวลาอีกหลายร้อยปีก่อนที่เราจะกลับลงไปสู่ระดับเดียวกับจุดมันเดอร์มินิมัม แต่สิ่งที่เราได้เห็นตรงกันคืออุณหภูมิโลกได้พุ่งสูงขึ้น ไม่ใช่ดวงอาทิตย์ที่มาช่วยเรา" ศ.ลอควูดกล่าวและเสริมว่า ช่วงที่ค่อนข้างสงบของดวงอาทิตย์ในตอนนี้ไม่ได้ช่วยผันอุณหภูมิโลกที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการเผาไหม้พลังงานฟอสซิลให้ลดลงเลย

ข้อมูลจากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือไอพีซีซี (Intergovernmental Panel on Climate Change: IPCC) แสดงถึงอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่เพิ่มขึ้นปะมาณ 0.7 องศาเซลเซียสนับแต่เริ่มศตวรรษที่ 20 และไอพีซีซียังชี้อีกว่าโลกจะยังคงร้อนต่อไป ด้วยอุณหภูมิเฉลี่ยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นไประหว่าง 1.8-4 องศาเซลเซียส เมื่อถึงปลายศตวรรษ

อย่างไรก็ดี ไม่มีใครทราบว่ารอบวัฏจักร 100 ปีของดวงอาทิตย์ที่เข้าสู่จุดสูงสุดและต่ำสุดนั้นเป็นไปอย่างไร แต่ตอนนี้นักดาราศาสตร์มีกล้องโทรทรรศน์อวกาศที่จะศึกษารายละเอียดของดวงอาทิตย์แล้ว ซึ่งตามความเห็นของ ศ.ริชาร์ด แฮร์ริสัน (Prof. Richard Harrison) จากห้องปฏิบัติการรัทเธอร์ฟอร์ดแอพเพิลตัน (Rutherford Appleton Laboratory) แห่งออกซ์ฟอร์ดไชร์ ระบุว่าช่วงเวลาที่ค่อนข้างสงบของดวงอาทิตย์นี้ได้ให้โอกาสพิเศษแก่นักดาราศาสตร์

"นับเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นยิ่งเพราะในฐานะนักดาราศาสตร์ เราไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อนเลยในช่วงชีวิตของเรา เรามียานอวกาศที่ส่งขึ่นไปเพื่อศึกษารายละเอียดปรากฏการณ์บนดวงอาทิตย์ ด้วยกล้องโทรทรรศน์เหล่านี้เราสามารถศึกษาจุดต่ำสุดของวัฏจักรในแบบที่เราไม่สามารถทำได้ในอดีต" ศ.แฮร์ริสันกล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น