น้ำที่เป็นของเหลวพบได้ในตัวของน้ำเอง (bodies of water) เช่น มหาสมุทร, ทะเล, ทะเลสาบ, แม่น้ำ, ธารน้ำ, คลอง, หรือ สระน้ำ น้ำส่วนใหญ่ในโลกนี้อยู่ในรูปของ น้ำทะเล
ถึงแม้ปกติน้ำจะมีจุดเดือดที่ 100◦C แต่ที่ใต้ทะเลลึก ซึ่งมีความร้อนและความกดดันสูง จุดเดือดของน้ำอาจอยู่ที่ 400◦C และที่ยอดเขาเอเวอเรส (Mount Everest) จุดเดือดของน้ำอาจอยู่ที่ 70◦C
ส่วนปริมาตรของน้ำทั้งหมดภายในโลก มีประมาณ 1,360 ล้านลูกบาศก์กิโลเมตร ซึ่งแบ่งสัดส่วนได้ดังนี้ น้ำทะเล 97.2%, ธารน้ำแข็งและลานน้ำแข็ง 1.8%, น้ำใต้ดิน 0.9%, น้ำจืดในทะเลสาบและแม่น้ำ 0.02%, และไอน้ำในบรรยากาศ 0.001% ทั้งหมดปกคลุมพื้นที่ 71% ของโลกที่เราอาศัยอยู่
ดังนั้น การที่โลกของเรามีน้ำจำนวนมาก จึงเชื่อว่าเป็นปัจจัยสำคัญต่อการกำเนิดสิ่งมีชีวิต ขณะเดียวกันก็มีความพยายามตามหาร่องรอยของแหล่งน้ำตามดาวต่างๆ ในจักรวาล เพื่อพิสูจน์สมมติฐานดังกล่าว
สำหรับน้ำในจักรวาลนั้น เชื่อกันว่ามีอยู่ในกลุ่มเมฆหมอก (interstellar cloud) ที่กาแลกซีทางช้างเผือก (Milky Way) อีกทั้งยังเป็นเชื่อด้วยว่าน้ำมีอยู่มากมายใน กาแลกซีอื่นๆ เพราะว่าส่วนประกอบของน้ำ คือไฮโดรเจนและออกซิเจน ซึ่งเป็นธาตุที่มีอยู่มากมายในจักรวาล
ทั้งนี้ เมื่อกลุ่มเมฆหมอกควบแน่น น้ำเริ่มแรกพบใน ดาวหาง, ดาวเคราะห์, และดาวบริวาร ซึ่งในระบบสุริยะน้ำถูกพบทั้งในรูปของของเหลวและน้ำแข็ง โดยมีร่องรอยอยู่ที่ดาวเคราะห์ เช่น ดาวพุธ, ดาวอังคาร, ดาวเนปจูน และดาวเคราะห์แคระพลูโต, รวมทั้งบริวารของดาวบริวารของดาวเคราะห์ เช่น ดวงจันทร์ของโลก ดวงจันทร์ไททันของดาวเสาร์ และ ดวงจันทร์ยูโรปาของดาวพฤหัสบดี.