"น้ำพิษของต่อชนิดร้ายแรง 1 ตัว มีความรุนแรงพอๆ กับน้ำพิษของผึ้ง 550 ตัว" แค่ข้อความนี้ประโยคเดียว ก็ทำเอาหลายคนรู้สึกหวาดกลัว "ตัวต่อ" ขึ้นมาทันที และไหนจะข่าวร้ายๆ ที่มีผู้เสียชีวิตเพราะถูกต่อรุมต่อย ทำให้ต่อและแตนที่เป็นญาติใกล้ชิดกัน ถูกมนุษย์คาดโทษให้เป็นแมลงร้ายกาจ แต่ชีวิตของเจ้าแมลงเพชฌฆาตพวกนี้สร้างคุณความดีไว้ในธรรมชาติโดยที่หลายคนคาดไม่ถึง
องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ต้อนรับปิดเทอมใหญ่ด้วยการจัดแสดงนิทรรศการชุดใหม่เรื่อง "ต่อ แตน แมลงร้ายที่โลกต้องการ" ที่นำตัวอย่างแมลงในกลุ่มต่อแตนกว่า 100 ชนิด รวมถึงต่อหัวเสือยักษ์ ที่มีพิษร้ายแรงและตัวใหญ่ที่สุดในโลก มาจัดแสดงให้ชมกันที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา อพวช. พร้อมทั้งให้ความรู้ในทุกแง่มุมเกี่ยวกับแมลงชนิดนี้ โดยมีพิธีเปิดไปเมื่อวันที่ 26 มี.ค.52 ที่ผ่านมา
ตัวอย่างแมลงต่อแตนที่นำมาจัดแสดงนั้น อพวช. ได้รับมอบจาก ดร.เซกิ ยามาเน (Dr.Seiki Yamane) และ ดร.มาซาโอะ นากามุระ (Dr.Masao Nakamura) ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อและแตนระดับโลกชาวญี่ปุ่น โดยในวันเปิดตัวนิทรรศการวันแรก ดร.เซกิ ได้มาร่วมให้ความรู้เกี่ยวกับต่อและแตนด้วยในการบรรยายพิเศษเรื่อง "ต่อ แตน แมลงเพชฌฆาต บทบาทที่ธรรมชาติมอบให้" ซึ่งทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ได้ร่วมฟังพร้อมกับสื่อมวลชนและผู้ร่วมชมนิทรรศการอีกมากมาย
บรรพบุรุษของต่อและแตนกำเนิดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ในยุคไดโนเสาร์เมื่อประมาณ 140 ล้านปีที่แล้ว ก่อนจะแยกสายวิวัฒนาการออกไปเป็นมด ผึ้ง กลุ่มต่อและกลุ่มแตนชนิดต่างๆ และ กลุ่มต่อและแตน ซึ่งจัดอยู่ในวงศ์ต่อแตน (Vespidae) ที่มีทั้งหมด 6 วงศ์ย่อย ได้แก่ วงศ์ย่อยแตนหลอด วงศ์ย่อยแตนดอกไม้ วงศ์ย่อยแตนหม้อ วงศ์ย่อยแตนสาย วงศ์ย่อยแตนกระดาษ และวงศ์ย่อยต่อ ซึ่งรวมแล้วมีต่อและแตนมากถึง 4,500 ชนิด ที่กระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะในเขตร้อน แต่ยกเว้นบริเวณขั้วโลกเนื่องจากมีอุณหภูมิหนาวเย็นเกินกว่าต่อและแตนจะอาศัยอยู่ได้
ต่อ แตน แฝดคนละฝาที่สวมหมวกวิศวกรและสถาปนิกได้ยอดเยี่ยม
ต่อและแตนจัดเป็นแมลงที่มีพิษ ร่างกายของต่อและแตนมีโครงสร้างแบ่งเป็นส่วนหัว อก และท้อง มีหนวด 1 คู่, ปีกบางใส 2 คู่ และขา 3 คู่ แต่ส่วนท้องของแตนจะคอดกิ่วกว่าต่อ และแตนจะมีขนาดลำตัวยาวไม่เกิน 1.5 เซนติเมตร ขณะที่ต่อจะมีความยาวลำตัวตั้งแต่ 1.5 เซนติเมตรขึ้นไป โดยที่ต่อขนาดใหญ่ที่สุดในโลกคือ "ต่อหัวเสือยักษ์" มีลำตัวยาวถึง 5 เซนติเมตร ซึ่งพบได้ตั้งแต่ประเทศญี่ปุ่นเรื่อยลงมาถึงภาคเหนือของประเทศไทย
รังของต่อและแตนส่วนใหญ่มีช่องเป็นรูปหกเหลี่ยม ซึ่งเป็นที่ยอมรับของนักวิทยาศาสตร์ว่าเป็นรูปทรงที่ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้สูงสุด และมีความแข็งแรง โดยรังต่อส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นรูปทรงค่อนข้างกลม ส่วนรังแตนนั้นจะมีหลากหลายรูปทรงมากกว่า มีทั้งคล้ายฝักบัว เป็นแผ่นแบน หรือเป็นเส้นยาว ส่วนวัสดุที่ต่อแตนนำมาใช้ในการสร้างรังก็มีทั้งดิน โคลน เศษไม้ ใบไม้ เยื่อไม้ ขึ้นอยู่กับชนิดพันธุ์ของต่อและแตน ซึ่งมีส่วนปากที่มีลักษณะพิเศษแบบกัดกิน มีกรามใหญ่ ทำให้สร้างรังที่มีความซับซ้อนได้มากว่าสัตว์อื่น
ส่วนบริเวณที่ต่อแตนชอบทำรังอยู่ มีทั้งบนกิ่งไม้สูงๆ ในสุมทุมพุ่มไม้เตี้ย หรือแม้แต่ชายคาบ้าน ขณะที่ต่อแตนบางชนิดที่มีพฤติกรรมอยู่แบบโดดเดี่ยวไม่เป็นสังคม มักจะอาศัยอยู่ในรูบนพื้นดินแทนการสร้างรังบนต้นไม้
ทั้งนี้ รังต่อที่สร้างจากเศษไม้ กลายเป็นต้นแบบในการทำกระดาษของมนุษย์ที่เกิดจากความพยายามเลียนแบบธรรมชาติ และเป็นต้นแบบของการสร้างอาคารสูงที่มีความมั่นคงแข็งแรงด้วย
สัตว์สังคมที่มีการแบ่งชนชั้น สัมพันธ์พี่น้องแนบแน่นกว่าแม่ลูก
ต่อแตนส่วนใหญ่เป็นสัตว์สังคมที่อยู่ร่วมกันในรังขนาดใหญ่ โดยในแต่ละรังจะมีนางพญา และประชากรต่อหรือแตนตัวผู้และตัวเมียอีกจำนวนมาก ที่อยู่ร่วมกันในลักษณะแบบครอบครัวมากกว่าแบบประชากรกลุ่มใหญ่
ต่อและแตนตัวผู้จะมีโครโมโซมเพียง 1 ชุด เกิดจากไข่ของนางพญาที่ไม่ได้รับการผสม แต่ตัวผู้จะมีหน้าที่ผสมพันธุ์กับนางพญาเพียงอย่างเดียว ขณะที่ไข่ที่ได้รับการผสมจะมีโครโมโซม 2 ชุด และเจริญเป็นต่อหรือแตนตัวเมีย แต่ทุกตัวจะเป็นหมันทั้งหมด และมีหน้าที่ในการหาอาหาร เลี้ยงดูตัวอ่อนรุ่นต่อๆไป และดูแลปกป้องรัง ซึ่งเรียกต่อแตนตัวเมียเหล่านี้ว่า "ต่อแตนกรรมกร"
การที่ต่อแตนกรรมกรต้องเป็นหมันและสืบพันธุ์ออกลูกออกหลานไม่ได้ เนื่องจากธรรมชาติได้คัดสรรให้เป็นเช่นนั้นโดยในตัวเมียเหล่านี้มีการสร้างสารเคมีบางอย่างที่ส่งผลให้มันเป็นหมัน และการที่พวกมันเป็นหมัน สืบพันธุ์เองไม่ได้ ทำให้พวกมันทำงานเพื่อช่วยต่อแตนนางพญาผลิตประชากรต่อแตนรุ่นใหม่ออกมาได้มากกว่าการที่ต่อแตนแต่ละตัวจะสืบพันธุ์ออกลูกออกหลานกันเอง และที่เป็นเช่นนี้เพราะต่อแตนมีความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องตัวเมียแนบแน่นมากกว่าความสัมพันธุ์แบบแม่กับลูก
"เหล็กไน" เข็มพิษบินได้ อาวุธร้ายของแมลงเพชฌฆาต
หลายคนมักเข้าใจว่าต่อแตนกรรมกร เป็นต่อแตนตัวผู้ เพราะมีความขยันขันแข็ง ดุร้าย และต่อยเหยื่อให้เจ็บปวดได้ แต่นี่เป็นความเข้าใจที่ผิดถนัด เพราะเหล็กไนของต่อแตนกรรมกรนั้นพัฒนามาจากอวัยวะสำหรับวางไข่ของตัวเมีย เพราะฉะนั้นจึงมีแต่ต่อและแตนตัวเมียเท่านั้นที่มีเหล็กไน (รวมผึ้งตัวเมียด้วย) ซึ่งมีไว้เพื่อหาอาหาร ป้องกันตัว และป้องกันรังจากศัตรู
เหล็กไนของต่อและแตนมีลักษณะคล้ายเข็มปลายแหลมคม โดยโครงสร้างของเหล็กไนประกอบด้วยแผ่นแข็งมีรอยหยักเล็กๆหลายรอย จำนวน 2 แผ่น ห่อหุ้มรอบท่อน้ำพิษ เมื่อต่อแตนต่อยเหยื่อ เหล็กไนจะค่อยๆทิ่มแทงเข้าไปในเนื้อของเหยื่อ แล้วฉีดสารพิษออกมาทางท่อน้ำพิษราวกับเข็มฉีดยา สารพิษดังกล่าวเป็นสารประกอบอินทรีย์ประเภทเดียวกับที่พบในพิษของแมงมุมและแมงป่อง สามารถซึมเข้าสู่กระแสเลือดของเหยื่อ ซึ่งน้ำพิษของต่อชนิดร้ายแรง 1 ตัว มีความรุนแรงพอๆ กับน้ำพิษของผึ้ง 550 ตัว รวมกัน
สำหรับมนุษย์ที่ถูกต่อหรือแตนต่อยนั้นจะมีอาการรุนแรงต่างกันไปอาการแพ้พิษต่อแตนของแต่ละคน และจำนวนต่อแตนที่ต่อย โดยคนที่แพ้ไม่มาจะมีอาการเจ็บ ปวด บวมที่แผลเล็กน้อย ถ้าแพ้ปานกลางก็จะเจ็บปวดที่แผลมากขึ้น อาจมีอาการหน้ามืด เป็นลม ลมพิษขึ้นตามตัว หรือมีไข้ร่วมด้วย ส่วนผู้ที่แพ้มากจะเกิดอาการหายใจติดขัด ตัวเขียวคล้ำ ความดันโลหิตต่ำ ช็อคหมดสติ และอาจเสียชีวิตได้ ซึ่งอาการแพ้นี้จะทวีความรุนแรงขึ้นได้เมื่อถูกต่อและแตนต่อยในครั้งต่อๆไป
ต่อ แตน แมลงร้ายที่โลกต้องการ
"ตัวร้าย" คือภาพลักษณ์ของต่อแตนที่มีพฤติกรรมเป็นสัตว์ผู้ล่า และมีพิษสงร้ายกาจ แต่อีกด้านหนึ่งของต่อแตนก็สวมบทบาท "พระเอก" ของธรรมชาติ เนื่องจากอาหารอันโอชะของพวกมันคือตัวอ่อนของหนอนแมลงชนิดอื่น โดยการต่อยเหยื่อแล้วพากลับรังไปเลี้ยงตัวอ่อน จึงเป็นการควบคุมประชากรแมลงชนิดอื่นโดยธรรมชาติ รวมทั้งแมลงศัตรูพืชด้วย ทำให้เกิดสมดุลของสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ
ส่วนต่อแตนที่โปรดปรานการกินน้ำหวานจากดอกไม้ ก็มีส่วนช่วนผสมเกสรให้พืช เกิดเป็นผล เป็นอาหารเลี้ยงสัตว์โลกนานาชนิด ไม่เว้นแม้แต่มนุษย์ และตัวอ่อนของต่อแตนที่อยู่ในรังนั้นก็ยังเป็นแหล่งโปรตีนของสัตว์ผู้ล่าที่อยู่เหนือขึ้นไป เช่น นกบางชนิด และมนุษย์อีกด้วยเหมือนกัน ต่อแตนจึงมีบทบาทสำคัญต่อธรรมชาติและในด้านการเกษตรไปพร้อมกัน
คำเตือน! และคำแนะนำเมื่อต้องเผชิญหน้ากับต่อแตน
ต่อแตนจะจู่โจมเมื่อออกล่าเหยื่อ หรือป้องกันรังและอาณาเขตของตัวเอง ฉะนั้นเราจึงไม่ควรไปรบกวนตัวต่อแตน หรือรังของพวกมันโดยเด็ดขาด แต่หากไม่ได้ตั้งใจหรือเกิดเหตุสุดวิสัยจนถูกต่อหรือแตนต่อยเข้า ควรออกจากบริเวณนั้นให้เร็วที่สุด เพราะต่อแตนจะปล่อยสารฟีโรโมนเรียกให้พวกพ้องเข้ามาช่วยจู่โจมศัตรู
ควรหาที่หลบซ่อนที่ปลอดภัยที่สุด หาเสื้อหรือผ้าคลุมหัวให้มิดชิด เนื่องจากต่อแตนชอบจู่โจมที่ใบหน้าและลำคอ ซึ่งเป็นอันตรายมากกว่าส่วนอื่น และหากจำเป็นต้องเข้าไปในบริเวณที่มีต่อแตนอาศัยอยู่ ก็ไม่ควรประพรมน้ำหอม เพราะจะทำให้ต่อแตนตามกลิ่นได้เมื่อเราถูกจู่โจม และหากมีต่อแตนเข้ามาทำรังในบริเวณบ้านเรือนของเรา ควรติดต่อผู้เชี่ยวชาญให้ช่วยกำจัดให้จะดีที่สุด
ส่วนผู้ที่ถูกต่อหรือแตนต่อย ควรรีบประคบเย็นที่บาดแผล รับประทานยาระงับปวด และทายาบรรเทาอาการปวดบวมที่แผล แต่หากไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแพ้มาก ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
ทั้งนี้ นิทรรศการชุด "ต่อ แตน แมลงร้ายที่โลกต้องการ" เปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.-26 ก.ย.52 ที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา อพวช. คลองห้า จ.ปทุมธานี (ปิดทุกวันจันทร์) โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2577-9999 ต่อ 1829, 1830 และ 1843